เชียงใหม่-28 มิ.ย.48 "ปัญหาเด็กไร้สัญชาติ รัฐบาลไทยต้องเข้าไปดูแล โดยขอให้แก้ไข พระราชบัญญัติสัญชาติ มาตรา 7 ทวิ โดยขอให้ยกทั้งวรรค 3 ออก เป็น "ให้ถือว่าเป็นผู้เกิดในราชอาณาจักรไทยและตกเป็นผู้ไร้สัญชาติ ต้องได้รับสัญชาติไทย" หมายถึงว่า เด็กที่ตกหล่นไม่มีสัญชาติในไทย รัฐไทยจะต้องให้ความดูแล" นายสุรพงษ์ กองจันทึก รองประธานอนุกรรมการสิทธิมนุษยชนด้านชนชาติ ผู้ไร้สัญชาติ แรงงานข้ามชาติ และผู้พลัดถิ่น สภาทนายความแห่งประเทศไทย กล่าว

ในเวทีเสวนา เรื่อง "ปัญหาเด็กไร้สัญชาติและการแก้ไขปัญหา" ที่โรงแรมริดเจ็ส อโมร่า ท่าแพ จ.เชียงใหม่ นายสุรพงษ์ กองจันทึก รองประธานอนุกรรมการสิทธิมนุษยชนด้านชนชาติ ผู้ไร้สัญชาติ แรงงานข้ามชาติ และผู้พลัดถิ่น สภาทนายความแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ในขณะนี้ ยังมีชนเผ่าอีกเป็นจำนวนมาก ที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข รัฐไม่มีการรับรองสถานภาพทางกฎหมาย ซึ่งจะเห็นว่าที่ผ่านมา รัฐไม่ได้รับการยอมรับเขา ทำให้เกิดปัญหาอื่นๆ ตามมา เช่น ปัญหาเด็กไม่ได้รับการจดทะเบียนเกิด หรือสูติบัตร ไม่ได้อยู่ในฐานข้อมูลของรัฐ ทำให้เด็กเหล่านี้ ไม่มีสิทธิหลักฐานใดๆ จนต้องกลายเป็นคนต่างด้าวที่ผิดกฎหมาย ซึ่งขัดกับหลักปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน รวมทั้งกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเรือน และสิทธิทางการเมือง โดยประเทศไทยมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 28 ม.ค.2540

"แต่ปรากฎว่า ในข้อเท็จจริง รัฐกลับไม่ยอมให้มีการจดทะเบียนสมรส เพราะถือว่า เป็นคนต่างด้าว จนทำให้เกิดการพรากลูกตามมา ซึ่งได้ขัดต่ออนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก ที่กำหนดไว้ว่า รัฐภาคีรับที่จะเคารพต่อสิทธิของเด็กในการรักษาเอกลักษณ์ของตนไว้ รวมถึงสัญชาติและความสัมพันธ์ทางครอบครัวอีกด้วย" นายสุรพงษ์

นายสุรพงษ์ กล่าวอีกว่า นอกจากนั้น รัฐต้องให้สิทธิเด็กให้สามารถเข้าเรียนต่อถึงในระดับอุดมศึกษาได้ รวมไปถึงสิทธิในการดูแลรักษาพยาบาล ซึ่งในกฎหมายแรงงานต่างด้าว ให้สิทธิเพียงแค่พ่อแม่ที่ทำงานเท่านั้น แต่สำหรับเด็ก กลับไม่ได้รับความคุ้มครอง โดยล่าสุด นโยบายรัฐได้ออกมาระบุอีกว่า 30 บาท ช่วยคนไทยห่างไกลโรค ยิ่งดูเหมือนว่า รัฐพยายามจะกีดกันจำกัดสิทธิไม่ให้คนไร้สัญชาติได้รับการดูแล

"ดังนั้น แนวทางแก้ไขปัญหาเรื่องเด็กไร้สัญชาติ รัฐบาลไทย จะต้องเข้าไปดูแลสัญชาติที่ถูกต้อง โดยขอให้แก้ไข พรบ.สัญชาติ ม.7 ทวิ โดยให้ยกทั้งวรรค 3 ออก จากที่ระบุว่า ผู้ที่เกิดในประเทศไทย มีบิดามารดาเป็นคนต่างด้าวย่อมไม่เป็นสัญชาติไทย และเป็นผู้ที่เข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาตตามกฎหมายว่าด้วยคนเข้าเมือง ให้เปลี่ยนเป็น "ให้ถือว่าเป็นผู้เกิดในราชอาณาจักรไทยและตกเป็นผู้ไร้สัญชาติ ได้รับสัญชาติไทย" หมายถึงเด็กที่ตกหล่นไม่มีสัญชาติในไทย รัฐไทยต้องให้ความดูแล"

นายสุรพงษ์ กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ รัฐต้องจดทะเบียนการเกิดให้แก่เด็กทุกคน ให้เด็กได้สิทธิในการอยู่ร่วมกับครอบครัว นอกจากนั้น กระทรวงศึกษาธิการ จะต้องให้เด็กเข้ารับการศึกษาไปจนถึงระดับอุดมศึกษา รวมไปถึงการศึกษาต่อในต่างประเทศได้ โดยจะต้องมีการผลักดันเรื่องเหล่านี้เข้าในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีโดยเร็ว