ประชาไท -- 9 มิ.ย. 48 "ณ วันนี้ เรายังไปดูองค์การโทรศัพท์ไม่ได้เต็มที่เลย เพราะกฎหมายเขาให้เรากำกับดูกิจการโทรคมนาคมที่ได้รับใบอนุญาตจากกทช. เท่านั้น" นายเศรษฐพร คูหิรัญพิทักษ์ คณะกรรมการกิจการโทร คมนาคมแห่งชาติ (กทช.) กล่าวกับผู้สื่อข่าว ภายหลังรับฟังความคิดเห็นจากผู้ประกอบการด้านกิจการโทรคมนาคมในวันนี้ ที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิตติ์

ทั้งนี้ ที่ประชุมได้แสดงความคาดหวังต่อ กทช. หลายประเด็น โดยเฉพาะอย่างยิ่งความขัดแย้งระหว่างผู้ประกอบ การโทรคมนาคมที่เป็นคู่สัญญาและมีกรณีพิพาท

นายเศรษฐพรกล่าวว่า กทช.มีข้อจำกัดที่จะไปจัดการกับคู่กรณีเนื่องจากเงื่อนไขของรัฐธรรมนูญมาตรา 335 (2) จำกัดอำนาจของกทช. ให้กำกับดูแลกิจการที่กทช.ออกใบอนุญาตเท่านั้น และเมื่อไม่มีกฎหมายให้อำนาจ ก็เป็นไปไม่ได้ที่กทช. จะเข้าไปจัดการ เพราะจะถือว่าเป็นการกระทำเกินของอำนาจของกทช. ดังนั้นสัญญาใด ๆ ที่มีอยู่เดิม ก็ต้องรอให้สัญญานั้นสิ้นผลบังคับไปก่อน กทช. ไม่สามารถเข้าไปก้าวก่ายได้ เพราะไม่มีกฎหมายรองรับที่ชัดเจน

โดยนายเศรษฐพร คูหิรัญพิทักษ์อธิบายว่า รัฐธรรมนูญมาตรา 335 (2) ระบุมิให้นำบทบัญญัติ มาตรา 40 มาใช้บังคับ แต่กฎหมายที่จะตราขึ้น ก็ต้องไม่กระทบกระเทือนถึงการอนุญาต สัมปทานหรือสัญญา ซึ่งมีผลสมบูรณ์อยู่ในขณะที่กฎหมายดังกล่าวมีผลใช้บังคับ จนกว่า การอนุญาต สัมปทาน หรือสัญญานั้น จะสิ้นผล

ทั้งนี้ นายเศรษฐพรกล่าวถึงกรณีคู่สัญญาในกิจการโทรคมนาคมกำลังมีความขัดแย้งกันนั้น นายเศรษฐพรกล่าวว่า แท้จริงแล้วหากคู่สัญญารอมชอมกันได้ ปัญหาก็จะไม่เกิดซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องที่น่าลำบากใจสำหรับกทช.เพราะไม่มีอำนาจเข้าไปจัดการอย่างแท้จริง

"ถ้ามีเฉพาะมาตรา 40 กทช. ก็คงจัดการปัญหาไปแล้ว" นายเศรษฐพรกล่าวในที่สุด