ประชาไท -- 6 มิ.ย.48 "กลางเดือนกรกฎาคมนี้ รัฐบาลไทยต้องเสนอรายงานต่อคณะกรรม การยูเอ็น ซึ่งเราสนใจในการเตรียมการของรัฐบาลไทย การตอบสนองของประชาชนและหน่วย
งาน รวมถึงจะนำข้อเสนอแนะของยูเอ็นมาปรับใช้อย่างไร ซึ่งสิ่งที่จะสะท้อนให้เห็นก็คือ ท่าทีของรัฐบาลไทยในการส่งตัวแทนเข้าร่วมประชุมว่า มีความสนใจและส่งเสริมมากแค่ไหน" นาง Wan Hea Lee ข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนประจำภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก UNESCAP กล่าว

วันนี้ คณะทำงานปกป้องนักต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชน จัดเวทีอภิปรายเรื่อง "กติกาสากลระหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง ( ICCPR) กับพันธกรณีของรัฐบาลไทย" สืบเนื่องจาก UN Committee ICCPR ได้นัดไต่สวนประเทศไทยตามพันธะสัญญาภาคีดังกล่าว โดยรัฐบาลไทยจะต้องเข้าชี้แจง ณ กรุงเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ระหว่าวันที่ 19-21กรกฎาคมนี้

นาง Wan Hea Lee กล่าวต่อไปว่า "รัฐบาลไทยยังไม่จริงใจในด้านสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง โดยข้อตกลงดังกล่าวห้ามไม่ให้มีโทษประหารชีวิต รวมถึงเรื่องสิทธิเด็กทั้งเด็กในสภาวะสงครามและกระบวนการค้าเด็ก ซึ่งประเทศไทยเองยังไม่ปฏิบัติตาม อีกทั้งยังไม่ยอมรับกติกาสากลในการให้ผู้ถูกละเมิดสามารถส่งข้อเรียกร้องเป็นรายบุคคลต่อยูเอ็นได้ ดังนั้นจึงต้องรณรงค์ให้รัฐบาลร่วมตกลงในพิธีตราสารเลือกรับนี้ด้วย"

นอกจากนี้ ข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนฯ ได้แสดงความกังวลต่อรัฐบาลไทยที่ยังไม่เข้าใจบทบาทผู้แทนพิเศษของยูเอ็นซึ่งเคยเดินทางมาตรวจสอบเมื่อปี 2546 ว่า "ขอเน้นว่าไม่มีประเทศไหนในโลกที่ไม่ละเมิดสิทธิมนุษยชน ผู้แทนฯ เข้ามาตามภาระหน้าที่และโดยพื้นฐานจะต้องทำงานร่วมกับรัฐบาล เพื่อแสวงหาการชดเชยให้แก่ผู้เสียหาย ปัญหาคือ ความไม่เข้าใจกัน เราไม่ใช่เลือกสนใจบางประเทศ แต่เราประเมินตามสถานการณ์และคำนึงถึงความครอบคลุม"

ขณะเดียวกัน ข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนฯ หวังว่าการเข้ามาตรวจสอบของยูเอ็นจะได้รับการตอบรับมากขึ้น โดยรัฐบาลไทยจะไม่ปกป้องตนเองมากจนไป และคาดว่าจะทำงานร่วมกับยูเอ็นมากขึ้น แต่ที่ผ่านมาได้แสดงให้เห็นว่าไม่ค่อยให้ความร่วมมือ โดยปฏิเสธผู้เชี่ยวชาญเข้ามาตรวจสอบด้านการวิสามัญฆาตกรรม และการฆ่านอกระบบกฎหมาย

ธิติกมล สุขเย็น