ประชาไท -- 2 มิ.ย.48 "ตามมติครม.ให้เปิดเขื่อน 4 เดือนตั้งแต่พ.ค.-ส.ค. แต่ปีนี้ ได้ชุมนุมเรียกร้องขึ้นมาอีก เพราะว่า กฟผ.ปล่อยเรื่องยืดมาจนถึงปลายเดือนพฤษภาคม ซึ่งเพิ่งเปิดเขื่อนไปเมื่อ 2 วันที่ผ่านมา ซึ่งตอนนี้ชาวบ้านเริ่มเข้าไปหาปลาและปลูกพืชผักแล้ว โดยมีปลามาอออยู่ท้ายเขื่อนตั้งแต่เดือน เม.ย." นางวนิดา ตันติวิทยาพิทักษ์ ชี้แจงในที่ประชุม กมธ.การแปรรูปรัฐวิสาหกิจ วุฒิสภา วันนี้

ด้าน นายละเอียด สายน้ำเขียว รองอธิบดีฝ่ายบำรุงรักษา กรมชลประทาน เห็นว่า ไม่ควรระบุว่าควรเปิดเขื่อนเดือนไหน แต่ควรดูปริมาณน้ำในแม่น้ำมูลและแม่น้ำโขงก่อน ซึ่งจากที่กำหนดเปิด 4 เดือนนั้นเพื่อเป็นการแก้ปัญหาปลามาวางไข่เท่านั้น

นายละเอียด อธิบายว่า "การที่ปลาจะขึ้นมาวางไข่จะต้องมีระดับน้ำพอสมควร แต่ถ้าเรากำหนดตายตัวก็อาจจะไม่ส่งผลดี เห็นได้ว่าปีนี้ฝนตกผิดปกติ ทำให้ที่ผ่านมายังมีน้ำไหลน้อย จึงจับปลาได้เฉพาะปลาพันธุ์น้ำตื้น ถ้าเปิดเขื่อนตอนนี้จะส่งผลให้น้ำเหนือเขื่อนแห้ง เพราะน้ำในแม่น้ำโขงยังไม่สูงนัก"

ทั้งนี้ นายละเอียด จึงเสนอว่า การกำหนดปิดเปิดเขื่อนจึงควรกำหนดจากปริมาณน้ำไหลและปริมาณน้ำของแม่น้ำโขงที่สัมพันธ์กับแม่น้ำมูล ซึ่งช่วงนี้ไม่ควรเปิดเพราะจะทำให้น้ำแห้ง แต่ควรรอจนถึงกลางมิ.ย. ปริมาณน้ำในแม่น้ำโขงจะสูงขึ้น ปลาก็จะสามารถขึ้นมาวางไข่ได้ ดังนั้นการเปิดเขื่อนจึงควรยืดหยุ่นภายในระยะเวลา 4 เดือนนี้

"แม่น้ำโขงได้เปลี่ยนไป แต่เดิมเดือน พ.ค.อาจเปิดเขื่อนได้ แต่ปัจจุบันจีนเริ่มเก็บน้ำจึงทำให้แม่น้ำโขงแห้ง เหลือเพียงน้ำที่เป็นแอ่งในช่วงจังหวัดหนองคายและมุกดาหารเท่านั้น แต่ถ้าเราปิดเขื่อนไว้จะทำให้มีปริมาณปลามากกว่าเดิมและเติบโตเต็มที่ เพราะกรมประมงได้มาปล่อยพันธุ์ปลาไว้อยู่แล้ว" นายเอียด กล่าวเพิ่มเติม

ธิติกมล สุขเย็น