Skip to main content
sharethis

ประชาไท-30 พ.ค.48 ในการเสวนาเรื่องวิทยุชุมชนกับอิสรภาพของสื่อ น.ส.อัญชลี เจ้าของคลื่นวิทยุชุมชน 92.25 ซึ่งมีข่าวว่า เจ้าหน้าที่รัฐเข้าตรวจสอบการออกอากาศไปเมื่อเร็วๆ นี้กล่าวว่า เป็นสื่อมวลชนมากว่า 20 ปี ไม่เคยเจอยุคที่ตีกรอบทางความคิดเท่าตอนนี้

งานดังกล่าวจัดขึ้นโดยเว็บไซต์ไทยเอ็นจีโอร่วมกับมูลนิธิกองทุนไทย และวิทยาลัยนวัตกรรมสังคม มหาวิทยาลัยรังสิต โดยมีน.ส.สุภิญญา น.ส.อัญชลี ไพรีรักษ์ นักจัดรายการวิทยุชุมชน อ.จรัล ดิษฐาอภิชัย คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ อ.อนุสรณ์ ศรีแก้ว คณะบดีคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต นายอภิชาติ ศักดิเศรษฐ์ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ และนายจักรกฤษ ศิลปชัย นักจัดรายการวิทยุ ร่วมเสวนา

น.ส.อัญชลีกล่าวว่า วิทยุชุมชนเป็นสิ่งที่ดีสำหรับชุมชน แต่ถูกนำไปใช้ในทางที่ผิดมานานถึง 2-3 ปีจนกลายเป็นวิทยุชุมชนเชิงพาณิชย์ไปหมดแล้ว ถ้าจะจัดการกับปัญหาให้เด็ดขาด ก็ควรจะปิดหรือห้ามไม่ให้มีการโฆษณา 6 นาทีเลย แล้ววิทยุชุมชนที่แอบแฝงจะลดลงไปเอง

"หัวใจการจัดระเบียบวิทยุชุมชนที่แท้จริงก็คือต้องคืนคลื่นให้ชุมชน วิธีการจัดการแบบง่าย ๆ เลย ก็คือ น่าจะแบ่งให้มีการจัดวิทยุชุมชนตามเขตเลือกตั้ง ไม่ใช่แบ่งตาม 30-30-15 ตามที่รัฐบอก มันไม่ใช่สูตรปุ๋ย และกำลังในการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่รัฐมีไม่พออยู่แล้ว" น.ส.อัญชลีกล่าว

น.ส.อัญชลีระบุว่า สูตรดังกล่าวคือการจำกัดกำลังส่ง 30 วัตต์ เสาสูงไม่เกิน 30 เมตร ระยะส่ง ไม่เกิน 15 ก.ม . ซึ่งไม่เป็นจริงในทางปฏิบัติ อีกทั้งเครื่องส่งที่วิทยุชุมชนแต่ละสถานีนำมาใช้นั้นก็เป็นคนของกรมประชาสัมพันธ์ก็เป็นผู้ผลิตซึ่งสามารถเพิ่มกำลังส่งได้ถึง 1,000 วัตต์ และยังติดตั้งให้ฟรีอีกด้วย

ด้านน.ส.สุภิญญา กลางณรงค์ เลขาธิการคณะกรรมการณรงค์เพื่อการปฏิรูปสื่อ (คปส.) กล่าวว่า หากจะเปิดวิทยุชุมชนแบบเสรีอย่างแท้จริงตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด จะต้องเป็นการเปิดที่ไม่ใช่แต่เสรีภาพทางการค้าที่จะให้นายทุนบางกลุ่มเท่านั้น แต่รัฐควรจะเปิดกว้างในแง่สิทธิเสรีภาพของความเข้าถึงและเท่าเทียมมากกว่า ไม่ใช่ว่าใครที่เห็นต่างหรือคิดต่างจากรัฐก็ทำการปิดเขา ควรเปิดให้กว้างและเปิดให้ตลอด

เลขาธิการ คปส.กล่าวอีกว่า การที่รัฐเปิดให้มีวิทยุชุมชนได้ก็เหมือนกับต้นหญ้าที่ได้แสงแดด ทุกส่วนก็พร้อมจะเติบโตงอกงามเพื่อสร้างรัฐที่ดี แต่บางส่วนที่มีการติติงเพื่อให้การทำงานของรัฐมีประสิทธิภาพมากขึ้นกลับถูกตัดตอนโดยรัฐบาลเอง ทำให้วิทยุชุมชนบางส่วนที่เกิดขึ้นมาเพื่อเติมเต็มสังคม ถูกเซ็นเซอร์ไปโดยปริยาย และยังต้องมีการปรับเปลี่ยนตัวเองเพื่อความอยู่รอด อย่างเช่นหันไปเปิดเพลงเพียงอย่างเดียว

นายอภิชาติ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวว่า ระบบสื่อในปัจจุบันถูกผูกขาดโดยอำนายรัฐ เช่น วิทยุกระจายเสียงที่ถูกใช้เพื่อค้ำจุนอำนาจรัฐตลอดมา แต่ถ้ามีใครหรือฝ่ายใดให้วิทยุชุมชนในการต่อต้านรัฐ วิทยุชุมชนนั้นก็จะถูกยึดคืนโดยรัฐที่ใช้วิธีการต่าง ๆ และในขณะนี้รัฐบาลก็หวาดระแวงว่าวิทยุชุมชน และเกรงว่าวิทยุกระจายเสียงจะตกไปอยู่ในมือของผู้อื่นนอกจากรัฐบาล

ส่วนนายจรัล กล่าวว่า เรื่องของวิทยุชุมชนนั้นเป็นเรื่องที่แปลกใหม่สำหรับประเทศไทย เพราะไม่เคยมาก่อนว่าคนตัวดำ ๆ ที่จบแค่ประถมศึกษาชั้นปีที่ 4 หรือแม้แต่จบปริญญาตรี ปริญญาโท จะไปนั่งจัดรายการวิทยุ ก็เปรียบเสมือนกับท่าทีของเด็กที่ต้องช่วยกันโอบอุ้ม สนับสนุนส่งเสริม ไม่ใช่มานั่งจับผิด แต่ต้องกันแก้ไขข้อบกพร่องให้ดีขึ้น

สิรินภา อิ่มศิริ

สแกน QR Code เพื่อร่วมบริจาคเงินให้กับประชาไท

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net