Skip to main content
sharethis

กรุงเทพฯ-2 มี.ค.48 ฑูตพิเศษไทยระบุ โอไอซีเข้าใจผิดว่ารัฐบาลไทยใช้ความรุนแรงกับมุสลิมภาคใต้ เตรียมแจงสมาชิกฯ ในทุกประเด็นโดยเฉพาะแผนการแบ่งพื้นที่ 3 โซนว่าเป็นเพียงกลยุทธ์ของกองทัพ ไม่ใช่นโยบายรัฐบาล

นายนิสสัย เวชชาชีวะ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในฐานะหัวหน้าคณะผู้แทนพิเศษ ที่จะเดินทางไปชี้แจงกับองค์การการประชุมอิสลาม หรือโอไอซี เปิดเผยว่า จะเดินทางไปชี้แจงกับเลขาธิการองค์การที่ประชุมกลุ่มประเทศมุสลิม ในวันที่ 5 มีนาคม 2548 โดยตั้งใจจะให้ความกระจ่างในทุกเรื่องอย่างจริงจัง โดยเฉพาะการดำเนินการของรัฐบาล เพราะถ้อยคำที่ทางเลขาธิการโอไอซีพูดออกมา เหมือนกับรัฐบาลไทยเป็นผู้ก่อความรุนแรง ทั้งที่ข้อเท็จจริงไม่ได้เป็นเช่นนั้น

ทั้งนี้ที่ผ่านมา รัฐบาลไทยได้ทำทุกอย่างที่จะพัฒนาสังคมมุสลิม โดยไม่มีอคติ ส่วนการแบ่งพื้นที่สามจังหวัดเป็นสีต่างๆ เป็นกลยุทธ์ทางการทหาร ไม่ใช่นโยบายของรัฐบาล

ก่อนหน้านี้ โอไอซีออกมาแถลงว่า เลขาธิการขององค์การฯ ไม่พอใจอย่างรุนแรงกับเหตุนองเลือด และเหตุรุนแรงทางภาคใต้ของไทย พร้อมกับขอร้องรัฐบาลไทยให้ยุติเหตุรุนแรง และพัฒนาเศรษฐกิจสังคมภาคใต้โดยไม่เลือกปฏิบัติ โดยไม่คำนึงถึงผลการเลือกตั้งที่ออกมา

นายจรัญ มะลูลีม ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายอักมาลุดดีน อิซานโอกลู เลขาธิการโอไอซี เพิ่งเข้ามารับตำแหน่งนี้ได้ไม่นาน เคยเข้ามาขอข้อมูลเกี่ยวกับปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้

ทั้งนี้นายจรัญเห็นว่า ที่ผ่านมาโอไอซีเข้าใจสถานการณ์ดี แต่การรื้อฟื้นเรื่องนี้ขึ้นมาพูดอีก อาจเป็นเพราะเว็บไซด์ของโลกอาหรับเขียนถึงปัญหาความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ จึงต้องมีการชี้แจงให้ทราบ เพื่อรักษาความสัมพันธ์กับประเทศมุสลิม ทั้งประเทศไทยก็เป็นหนึ่งในสมาชิกสมทบของ โอไอซี ซึ่งดีกว่าบางประเทศที่มีมุลิมเป็นชนกลุ่มน้อย แต่มีจำนวนชาวมุสลิมมากกว่าในประเทศไทยเสียอีก

"ที่ผ่านมากผมเองก็เคยชี้แจงด้วยตัวเองมาแล้ว รวมทั้งการชี้แจงให้กับตัวแทนองค์กรมุสลิม 200 องค์กร ที่เดินทางมาประเทศไทย เมื่อปลายปี2547 ที่นำโดยนายซาฟิอี มะอารีฟ ผู้นำกล่มมูฮัมมาดียะห์ ของประเทศอินโดนีเซียแล้ว" นายจรัญกล่าว

นายสุนัย ผาสุก ที่ปรึกษาของกลุ่มฮิวแมนไรท์วอทช์เอเชีย กล่าวถึงรายงานของกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ เกี่ยวกับสิทธิมนุษยชนในไทย ประจำปี 2547 ว่า รายงานฉบับนี้ ให้น้ำหนักกับเหตุรุนแรงทางภาคใต้มากกว่าเรื่องอื่น ขณะเดียวกันดูเหมือนสหรัฐฯ จะใช้ภาษาแตกต่างจากปีก่อน การสรุปภาพรวมเป็นการสรุปที่ระมัดระวัง เห็นจากคำพูดที่ว่าเจ้าหน้าที่เป็นคนละเมิดสิทธิ์ โดยไม่ได้ฟันธงไปถึงนโยบายรัฐบาลชุดก่อน ที่กำลังต่อเนื่องถึงรัฐบาลชุดนี้ว่า เปิดทางให้มีการละเมิดสิทธิได้กว้างขวาง เกิดบรรยากาศอยู่เหนือกฏหมายขึ้นมา

นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว โฆษกกระทรวงต่างประเทศ กล่าวว่า รายงานฉบับนี้ มุ่งแต่เฉพาะประเด็นที่สหรัฐเห็นว่าเป็นปัญหา ไทยต้องการให้รายงานสะท้อนภาพที่แท้จริงออกมา ต้องพูดถึงความคืบหน้า และพัฒนาการทางบวกด้วย ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาการประชาธิปไตย และการดำเนินการของรัฐบาล ที่ให้ความสำคัญกับการปราบปรามคอรัปชั่น

"โดยหลักการ เราไม่เห็นด้วยกับการทำรายงานลักษณะนี้ หากสหรัฐฯ มีประเด็นที่เป็นกังวลก็มีช่องทางทางการทูตคุยกับไทยได้อยู่แล้ว โดยไม่ต้องเผยแพร่ให้สาธารณชนในประเทศไทยรับทราบ"

สแกน QR Code เพื่อร่วมบริจาคเงินให้กับประชาไท

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net