Skip to main content
sharethis

ประชาไท - 15 ก.พ.48 ก่อนที่สนธิสัญญาเกียวโต(Kyoto Protocol) จะมีผลบังคับใช้ในวันพรุ่งนี้ (16 ก.พ.) นายโนบูทากะ มาชิมูระ รัฐมนตรีต่างประเทศของญี่ปุ่นได้ออกมาแถลงเรียกร้องให้สหรัฐและประเทศอื่น ๆ เข้าร่วมในสนธิสัญญาเกียวโต โดยเขาเชื่อว่าหากประเทศที่อยู่นอกสนธิสัญญายืนยันจะใช้มาตรการของตนเองอาจจะไม่ได้ผล

ทั้งนี้ สนธิสัญญาฉบับนี้จัดทำขึ้นที่เมืองเกียวโต เมืองหลวงเก่าของญี่ปุ่นในปี 2540 เพื่อจำกัดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่ทำลายบรรยากาศโลก ทำให้โลกมีอุณหภูมิสูงขึ้น โดยมีประเทศให้สัตยาบันแล้ว 141 ประเทศ

แต่จนปัจจุบันประเทศอุตสาหกรรมอย่างสหรัฐและออสเตรเลีย ยังคงไม่ยอมลงนามในสนธิสัญญาดังกล่าว โดยอ้างว่า ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของตนมากเกินไป ส่วนประเทศที่กำลังพัฒนาอย่างจีนและอินเดียก็อยู่นอกสนธิสัญญาเช่นกัน

ก่อนหน้านี้นักวิทยาศาสตร์ประจำองค์การการบินและอวกาศแห่งสหรัฐอเมริกา (นาซ่า) ระบุในเว็บไซต์ของนาซ่าว่า ปีนี้อากาศจะร้อนหนัก อาจถึงขั้นร้อนที่สุดในรอบ 205 ปี นับตั้งแต่ได้บันทึกอุณหภูมิของโลกเป็นครั้งแรกในปี 2343

โดยในช่วง 30 ปีที่ผ่านมา อุณหภูมิโลกมีแนวโน้มร้อนขึ้นมาตลอด ปีที่ร้อนที่สุดเป็นประวัติการณ์คือปี 2541 ตามมาด้วยปี 2545 เป็นอันดับสอง และปี 2546 เป็นอันดับสาม สำหรับปี 2547 ถูกจัดอันดับว่าเป็นปีที่โลกร้อนสุดเป็นอันดับสี่ โดยมีอุณหภูมิร้อนกว่า 50 ปีก่อนราว 1.5 องศา นักวิทยาศาสตร์ระบุว่าสาเหตุหลักเกิดจากการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่เพิ่มมากขึ้น ประกอบกับปรากฏการณ์เอลนีโญ่ โดยก๊าซเรือนกระจกหลักๆ คือ ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากรถยนต์และอุตสาหกรรม

ทั้งนี้ เอลนีโญ่ เป็นปรากฏการณ์แปรปรวนที่เกิดกับอุณหภูมิของกระแสน้ำทะเลที่อุ่นขึ้นผิดปกติ บริเวณตอนกลางและตะวันออกของมหาสมุทรแปซิฟิกเขตร้อน สภาพดังกล่าวเกิดจากการอ่อนกำลังลงของลมค้า ทำให้เกิดคลื่นใต้ผิวน้ำพัดพาเอามวลน้ำอุ่นที่สะสมอยู่บริเวณแปซิฟิกตะวันตกไปแทนที่น้ำเย็นทางแปซิฟิกตะวันออก ส่งผลให้ผิวน้ำทะเลบริเวณนี้อุ่นขึ้นกว่าปกติ และอากาศวิปริต

ด้านกรีนพีซ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้จัดงานเฉลิมฉลองพิธีสารเกียวโตในวันพรุ่งนี้ (16 ก.พ.) บริเวณวิตอรี่ พอยท์ อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เวลา 16.30 น. โดยมีกิจกรรมหลากหลายกับอาสาสมัครเยาวชนยุคพลังงานสะอาด

ประชาไทรายงาน

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net