Skip to main content
sharethis

ประชาไท-28 ม.ค.48 คณะกรรมการเครือข่ายองค์กรชุมชนลุ่มน้ำสาละวินและสาขาในประเทศไทย จัดเวทีเสวนาการจัดการทรัพยากรดิน น้ำ ป่า ระหว่างวันที่ 25-26 ม.ค.ที่ผ่านมา ณ บ้านห้วยโผ อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน

นายสันติพงษ์ มูลฟอง ผู้ประสานงานเครือข่ายเด็กและชุมชน ต.สบเมย อ.สบเมย จ.แม่อ่องสอน กล่าวว่า การจัดงานในครั้งนี้เพื่อเพื่อแลกเปลี่ยนสถานการณ์ในพื้นที่ รวมทั้งหาแนวทางและข้อเสนอในการจัดการทรัพยากรร่วมกันในอนาคต ทั้งชาวบ้านในชุมชนและหน่วยงานราชการ

เนื่องจากใกล้ถึงฤดูการในการเพาะปลูกของชาวบ้าน ทำให้เกรงว่าไม่ความเข้าใจของเจ้าหน้าที่ในเรื่องการทำไร่หมุนเวียนจะทำให้เกิดการจับกุมชาวบ้านขึ้นอีก ซึ่งทำให้ชาวบ้านหวาดกลัว รวมถึงการประกันตัวที่มีวงเงินค่อนข้างสูงยิ่งจะมีความยากลำบาก

นายพงษ์พิพัฒน์ มีเบญจมาศ ผู้ประสานงานเครือข่ายองค์กรชุมชนจัดการทรัพยากร ลุ่มน้ำจังหวัดแม่ฮ่องสอน กล่าวว่าในปีที่ผ่านมาความขัดแย้งในเรื่องที่ดินทำกินของชาวบ้านกับเจ้าหน้าที่รัฐค่อนข้างรุนแรงกว่าปีที่ผ่านมา

โดยมีชาวบ้านที่ทำไร่หมุนเวียน พื้นที่ อ.ปางมะผ้า จำนวน 7 คน ถูกฟ้องในข้อหาบุกรุกครอบครองพื้นที่ป่าสงวนแม่ปาย โดยไม่ได้รับอนุญาต ตอนนี้เรื่องอยู่ที่อัยการ พื้นที่ อ.เมือง มีคดีแห้งหรือการยึดพื้นที่ โดยห้ามเข้าไปใช้ประโยชน์ แต่ไม่มีการจับกุมชาวบ้าน จำนวน 5 แปลง และอ.สบเมย มีการยึดพื้นที่จำนวน 3,000 ไร่

"สาเหตุที่ทำให้สถานการณ์รุนแรงกว่าปีที่ผ่านมา คือนโยบายเริ่มเข้มงวด ผลักให้เจ้าหน้าที่ในพื้นที่มีการดำเนินการจับกุม นอกจากนี้นโยบายแก้ปัญหาความยากจนก็เป็นส่วนหนึ่ง เพราะในส่วนที่ดินทำกิน ชาวบ้านไม่รู้เจ้าหน้าที่ก็ไม่มีการอธิบาย เวลาชาวบ้านไปขึ้นทะเบียนคนจน พอระบุพื้นที่ทำกิน เจ้าหน้าที่ก็จะลงว่าอยู่ในเขตป่าสงวน ป่าอนุรักษ์ แล้วกลายเป็นนโยบายที่มาลดพื้นที่ทำกินชาวบ้านแทน" ผู้ประสานงานเครือข่ายองค์กรชุมชนฯ กล่าว

นายพงษ์พิพัฒน์ กล่าวอีกว่าปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นปัญหาเดิมๆ เมื่อแก้จุดหนึ่งก็ไปติดอีกจุดหนึ่ง หน่วยงานราชการลงมาคุยกันเมื่อมีปัญหาแล้วก็ยื้อกันไป พื้นที่ จ.แม่ฮ่องสอนร้อยละประมาณ 70 ชาวบ้านทำไร่หมุนเวียน และร้อยละ 80 เป็นพื้นที่ในเขตป่า

เราเรียกร้องให้มีการกันพื้นที่ทำกินออกจากป่าให้ชัดเจนแต่ราชการไม่ยอม เพราะเป็นพื้นที่จำนวนมาก เมื่อไม่ชัดเจนชาวบ้านก็ต้องอยู่อย่างหวาดระแวง ถูกข่มขู่และจับกุม การติดต่อสื่อสารกันก็เป็นไปด้วยความยากลำบาก

จากการประชุมสัมมนาระหว่างตัวแทนองค์กรเครือข่ายชุมชนตามลุ่มน้ำ ในเดือนมกราคม 2543 ณ ศาลาประชาคมจังหวัดแม่ฮ่องสอน ที่ประชุมเห็นสมควรให้จัดตั้งองค์กรประชาชนในระดับจังหวัด ในนาม "เครือข่ายองค์กรชุมชนการจัดการทรัพยากรลุ่มน้ำจังหวัดแม่ฮ่องสอน" เพื่อเป็นเวทีกลางในการระดมความคิดเห็นและความร่วมมือ เพื่อหนุนช่วยซึ่งกันและกัน ปัจจุบัน เครือข่ายองค์กรชุมชนฯ มีสมาชิก 13 เครือข่าย ทั้ง 7 อำเภอ

ปิ่นแก้ว อุ่นแก้ว
ประชาไทรายงาน

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net