Skip to main content
sharethis

ประชาไท-28 ม.ค.48 ประมงพื้นบ้านระนองเหยื่อซึนามิโอด รัฐช่วยเหลือแต่ประมงพาณิชย์ขนาดใหญ่ ใช้ทะเบียนเรือกีดประมงพื้นบ้านออกจากแผน

"ปัญหาในขณะนี้คือชาวประมงส่วนใหญ่ที่ได้รับเงินชดเชยนั้นมักเป็นผู้ประกอบการเรือขนาดใหญ่ เนื่องจากทางกรมประมงช่วยเหลือเฉพาะผู้ที่ได้มีทะเบียนเรือ หรือใบทะเบียนทำการเพาะเลี้ยงสัตว์ซึ่งออกโดยกรมประมงเท่านั้น ในขณะที่ชาวประมงพื้นบ้านเกือบ 300 คน ไม่ได้รับการช่วยเหลือเพราะไม่ได้ลงทะเบียน" นายประเกียรติ ขุนพล ที่ปรึกษาชมรมประมงพื้นบ้าน กิ่งอำเภอสุขสำราญ จ.ระนอง
ให้สัมภาษณ์" ประชาไท"

นายประเกียรติกล่าวต่อว่า กรณีการเรียกร้องของชาวประมงพื้นบ้าน ที่ได้รับความเสียหายจากคลื่น
ซึนามิ โดยเฉพาะเรือประมง และผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ ต.กำพวน และ ต.นาคา นั้น ทางกรมประมงยังไม่ให้คำตอบกลับมา ที่สำคัญคือรัฐใช้ ใบทะเบียนเรือเป็นเครื่องมือในการกีดกันให้ความช่วยเหลือชาวประมงพื้นบ้าน

"เมื่อไม่มีใบทะเบียน ชาวประมงพื้นบ้านจึงถูกเมินเฉยจากรัฐ ทั้งที่ความเสียหายที่เกิดขึ้นไม่ต่างกันเลย" นายประเกียรติกล่าว

นายก้อหนี หาญจิตร กำนันต.กำพวน กล่าวว่าเวลา ผ่านไปเดือนกว่าแล้ว 30 วันแล้ว แต่ภาครัฐยังไม่มีความคืบหน้า และความชัดเจนในการให้ความช่วยเหลือ ทำให้ชาวประมงไม่ได้รับความช่วยเหลือด้านเครื่องมือหากิน ไม่มีเรือออกทะเล อีกทั้งยังไม่ได้รับความชัดเจนในเรื่องนี้จากรัฐอีกด้วย

นายสุทร เอนกเมธีพฤกษา หัวหน้ากรมประมงจังหวัดระนองกล่าวว่า ตามระเบียบบังคับต้องจ่ายให้ผู้ประสบภัยที่ได้ขึ้นทะเบียนเรือ และเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำก่อนตามขั้นตอน แต่สำหรับผู้ที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนจะให้ความช่วยเหลือในขั้นตอนต่อไป ซึ่งต้องใช้เวลาในการดำเนินการเพราะมีผู้ประสบภัยมาก
นายสุนทรกล่าวต่อว่า จ.ระนองมีเรือประมงได้รับความเสียหาย จำนวน 776 ลำ ส่วนผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำมีจำนวน 1,229 ราย ซึ่งได้จ่ายค่าชดเชยบางส่วนแล้วไป

ในเบื้องต้น สำหรับชาวประมงพื้นบ้านที่ไม่มีทะเบียน ทางกรมประมงได้ตั้งกรรมการขึ้นเพื่อตรวจสอบในเรื่องนี้ว่าเป็นผู้ได้รับผลกระทบจริงหรือไม่ ทั้งนี้ทางกรมประมงจะเร่งดำเนินการในที่สุด

ด้านนายสิทธิ บุณยรัตผลิน อธิบดีกรมประมง เปิดเผยว่า จะจัดระบบชาวประมงที่ผิดกฎหมายใช้โป๊ะ และอวนลอบ ให้เปลี่ยนไปทำอาชีพที่ถูกต้อง โดยจัดหาแหล่งเพาะเลี้ยงรองรับ ทั้งนี้จะเร่งดำเนินการหลังจากวันที่ 15 กุมภาพันธ์นี้ โดยจะเปิดโอกาสให้เจ้าของเรืออุทธรณ์ขอความช่วยเหลือกรณีที่เงินค่าชดเชยได้รับน้อยเกินไปจากความเป็นจริงโดยผู้ที่จะขอความเป็นธรรมต้องยื่นเรื่องไม่เกินวันที่ 15 กุมภาพันธ์

ศิริรัตน์ อนันต์รัตน์
ประชาไทรายงาน

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net