ธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย(เอดีบี) เปิดเผยรายงานว่า คลื่นซึนามิที่พัดถล่มพื้นที่ในเอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีผลทำให้ประชาชนเกือบ 2 ล้านรายต้องตกอยู่ในสภาพยากจน และกว่า 150,000 รายต้องเสียชีวิตไปในมหันตภัยครั้งนี้

ทั้งนี้ นายอิฟซัล อาลี หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ประจำเอดีบี กล่าวว่า ผลกระทบเรื่องความยากจนจากมหันตภัยครั้งนี้กินวงกว้าง และความยากจนก็เป็นผลกระทบที่สำคัญที่สุดที่มักเกิดขึ้นภายหลังจากภัยธรรมชาติ

โดยแค่ประเทศอินโดนีเซียประเทศเดียวก็มีประชาชนเกือบ 1 ล้านรายต้องตกอยู่ในสภาพยากจนอันเนื่องมาจากอำนาจในการทำลายล้างของคลื่นยักษ์ ส่วนอินเดียนั้นก็อาจมีจำนวนคนยากจนภายใน ประเทศเพิ่มขึ้นเป็น 645,000 ราย ศรีลังกา ประมาณ 250,000 ราย และมัลดีฟส์เองก็อาจจะมีคนยากจนเพิ่มอีก 23,500 ราย

ทั้งนี้ รายงานการประเมินเบื้องต้นถึงผลกระทบจากแผ่นดินไหวและซึนามิของเอดีบีระบุว่า ความเสียหายที่เกิดขึ้นในประเทศอินโดนีเซีย, อินเดีย และไทยนั้นดูเหมือนจะเกิดขึ้นในพื้นที่ห่างไกลมากกว่าที่จะเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจที่มีประชากรหนาแน่นหรือศูนย์กลางอุตสาหกรรม ซึ่งมีแรงผลักดันการขยายตัวของเศรษฐกิจในภูมิภาค

ประชาไทรายงาน