Skip to main content
sharethis

ประชาไท - 4 ม.ค.48 นายวินัย มงคลธารณ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดระนองกล่าวถึงกรณีการจัดหาที่อยู่อาศัยให้ผู้ประสบภัยว่า ส่วนของจังหวัดระนอง อำเภอที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดคืออำเภอ กะเปอร์ และกิ่งอำเภอสุขสำราญ ซึ่งทางจังหวัดได้เตรียมพร้อมจะปฏิบัติตามนโยบายที่ผ่านมติของคณะรัฐมนตรี (ครม.)ในวันนี้

อย่างไรก็ตาม ในเบื้องต้นทางจังหวัดได้ทำหน้าที่เป็นองค์กรกลางประสานงานระหว่างกระทรวงกลาโหม และกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เพื่อทำการสำรวจความเสียหาย ทั้งด้านชีวิตและทรัพย์สิน ของประชาชนในพื้นที่

นายวินัยกล่าต่อไปว่า ตนเชื่อว่ามติดังกล่าวไม่น่าจะส่งผลกระทบต่อประชาชนที่ได้รับความเสียหายบ้านเรือนพังจากเหตุการณ์คลื่นยักษ์ เนื่องจากประชาชนส่วนใหญ่ มีเอกสารสิทธิครอบครองที่ดินชัดเจนอยู่แล้ว

"ส่วนกรณีที่ประชาชนไม่มีเอกสารสิทธิ ส่วนใหญ่อยู่ในที่ดินของอุทยานฯ จึงไม่เป็นปัญหาในเรื่องการเวนคืนที่ดิน ดังนั้นในฐานะผู้ปฏิบัติงาน จึงพร้อมจะรับคำสั่งในส่วนของนโยบายเพื่อแก้ไขปัญหาต่อไป" ผู้ว่าราชการจังหวัดระนองกล่าว

ด้านนายไพบูลย์ สวาทนัน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหาดทรายดำ หมู่ 5 ต.หงาว อ.เมือง จ.ระนองกล่าวว่า กระแสข่าวการเวนคืนที่ดินสาธารณะนั้น หากต้องอพยพออกนอกพื้นที่จริง ชาวประมงที่นี่ซึ่งเป็นชุมชนประมงดั้งเดิมอายุประมาณร้อยกว่าปี จะได้รับผลกระทบอย่างแน่นอน เนื่องจากจะไม่สามารถประกอบอาชีพได้ และจะทำให้ชุมชนเดิมล่มสลายในที่สุด

ด้านนายสุรเดช พินิจ ชาวบ้านหาดประพาส หมู่ 4 ต. กำพวน กิ่งอ.สุขสำราญ กล่าวว่า ชาวบ้านที่หาดประพาส ทำอาชีพชาวประมงมาตั้งแต่ดั้งเดิม เป็นหมู่บ้านชาวประมงที่มีอายุไม่ต่ำกว่า 200 ปี ชาวประมงที่นี่ไม่ต้องการย้ายไปที่อื่น เนื่องจากต้องอยู่กับทะเล เพื่อประกอบอาชีพเลี้ยงดูครอบครัว

ศิริรัตน์ อนันต์รัตน์
ประชาไทรายงาน

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net