7 เม.ย.52  ที่เวทีปราศรัยของกลุ่มคนเสื้อแดงบริเวณหน้าทำเนียบรัฐบาล เวลาประมาณ 20.30 น. พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวปราศรัยกับผู้ชุมนุมผ่านระบบวิดีโอลิงก์ ถึงการแถลงข่าวของนายเนวินว่า เป็นผู้ร้ายสอนพระเอกในเรื่องความจงรักภักดี ซึ่งตนเองมีความจงรักภักดีอยู่แล้วในสายเลือด พร้อมทั้งระบุว่า เพื่อนที่วอชิงตันได้แจ้งข่าวว่า นายราล์ฟ บอยซ์ ไม่พอใจที่ พล.อ.พิจิตร กุลละวณิชย์ องคมนตรีได้ให้ข่าวอ้างนายบอยซ์เรื่องข้อมูลบัญชีของทักษิณที่เคย์แมน ทั้งที่นายบอยซ์ไม่เคยพูด นอกจากนี้ยังอ้างว่า มีลูกน้องคนหนึ่งบอกกับพ.ต.ท.ทักษิณว่า ในการชุมนุมใหญ่วันพรุ่งนี้ (8 เม.ย.) จะเอาคนปลอมเป็นเสื้อแดงสร้างความวุ่นวายและให้ช่อง 11 ตามถ่าย อีกทั้งกระทรวงคมนาคมก็มีการห้ามรถทัวร์บรรทุกเสื้อแดงเข้ากรุงเทพฯ ถ้าใครบรรทุกมาจะไม่ต่อทะเบียนให้ ซึ่งเหล่านี้ล้วนเป็นวิธีการเก่าๆ ที่ผู้คนรู้ทันหมดแล้ว

"วันก่อนพล.อ.เปรมไปพูดเรื่องความดี ความเลว ความจริงในระบอบประชาธิปไตยหรือระบอบการเมืองเรา ความดีคือการสร้างความมั่งคั่งและความผาสุกให้ประชาชน การให้สิทธิเสรีภาพและความเป็นธรรมกับประชาชน ความดีคือประชาธิปไตยและคนที่ทำงานเพื่อประชาธิปไตย เพื่อประชาชนจริงๆ ความเลวคือเผด็จการ ปฏิวัติ รัฐประหาร ทำให้ประเทศเสื่อมเสีย ทำให้ประชาชนเกิดความทุกข์ ยิ่งไปกว่านั้น พอปฏิวัติเสร็จผิดกฎหมาย ก็ไปเหมือนบังคับให้พระเจ้าอยู่หัวลงพระปรมาภิไธยเพื่อให้สิ่งที่ผิดเป็นสิ่งที่ถูก ทำให้ต่างชาติแคลงใจว่าระบบประชาธิปไตยคืออะไรกันแน่ อย่างนี้เขาเรียกว่าเลวครับป๋า แล้วถ้าใครเป็นผู้นำการปฏิวัติ วางแผนการปฏิวัติ พาเข้าเฝ้าฯ ด้วย ยิ่งเลวกว่าอีก"

พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า เรากำลังมาถึงจุดที่เกิดการต่อสู้กันทางแนวความคิดและแนวปฏิบัติทางการเมือง ตั้งแต่ปี 2475 ก่อนคณะราษฎรยึดอำนาจ ในวันนั้นพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 7 ทรงพระราชทานประชาธิปไตยให้กับประชาชน แล้วมีรัฐธรรมนูญฉบับแรก ซึ่งถ้าจำไม่ผิดในรัฐธรรมนูญฉบับนั้นมาตรา 12 ระบุด้วยว่า ใครก็ตาม ไม่ว่าจะมีฐานันดรศักดิ์อะไร เมื่อเกิดเป็นคนไทยมีสิทธิเท่าเทียมกันทั้งหมด แต่หลังจากนั้นก็เกิดการพยายามต่อสู้ของอภิสิทธิ์ชนทั้งหลายเพราะต้องการประโยชน์ ไม่ต้องการให้เป็นประชาธิปไตยจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นอำมาตย์ ทหารผู้ใหญ่ อภิสิทธิ์ชนทั้งหลาย แล้วมายุคสมัยนี้ยังมีอีกกลุ่ม คือ นักการเมืองที่ทำมาหากินกับการเมือง คนเหล่านี้ได้ประโยชน์จากการเมืองที่อ่อนแอ จากรัฐบาลที่ล้มแล้วล้มเล่า แต่ประชาชนเสียประโยชน์ตลอดเวลา การต่อสู้นี้ต่อเนื่องมายาวนาน ที่บอกว่ามีเลือกตั้งมา 22 ครั้ง มีปฏิวัตินับเฉพาะที่สำเร็จมี 10 ครั้ง ถามว่าใครจะเชื่อถือประเทศไทย ใครจะคบประเทศไทย long term แล้วประชาชนจะได้ประโยชน์อะไร เพราะการเมืองแก้ปัญหาเฉพาะหน้าทุกวัน

"วันนี้สำคัญที่สุดที่เราต้องเลือกว่า เราจะยอมให้การเมืองเป็นแบบเก่า มีอภิสิทธิ์ชน มีอำมาตยาธิปไตย มีทหารเป็นเครื่องมือปฏิวัติ แต่พวกเราลำบากแล้วลำบากอีกหรือเปล่า ผมคิดว่าเรายอมต่อไปไม่ได้แล้ว ระบอบประชาธิปไตย ที่แท้จริง อำนาจการตัดสินใจทางการเมืองอยู่ที่ประชาชนและตัวแทนที่มาอย่างถูกต้องจากประชาชนเท่านั้น  ไม่มีผู้มีบารมีนอกรัฐธรรมนูญไปแอบสั่งราชการตรงนั้นตรงนี้ ไปสั่งองค์กรอิสระ ไปสั่งศาล ไม่มี ..ความเป็นธรรม ความเสมอภาคเกิดขึ้นทันที ถามว่าเราจะไปแบบประเทศที่เจริญแล้วหรือเราจะเป็นอยู่อย่างนี้ ถ้าเราจะเป็นแบบประเทศเจริญแล้ว เราต้องปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ ไม่ให้พวกนี้นำมาใช้ประโยชน์ พวกนี้อิงสถาบันเพื่อประโยชน์ตัวเองทั้งนั้น ลำพังเป็นทหารแก่เกษียณคนหนึ่งสั่งศาลได้ไหม สั่งองค์กรอิสระได้ไหม สั่งทหารปฏิวัติได้ไหม"

"ถ้าประเทศเจริญ มีความเป็นธรรม พี่น้องประชาชนมีความสุข พระเจ้าอยู่หัวจะมีความสุขมาก"

"วันนี้อย่ามาพูดว่า รอก่อน เดี๋ยวจะเอาคนกลางมาแก้รัฐธรรมนูญ ถามว่าคนกลางรับผิดชอบต่อประชาชนหรือไม่ ใครก็ตามที่จะเข้ามาตัดสินใจทางการเมืองต้องรับผิดชอบโดยตรงต่อประชาชน  ระบบมีอยู่แล้ว พยายามจะปิด พยายามจะดึง วันนี้ต้องยอมอดทน เจ็บปวด และเริ่มต้นใหม่ เปลี่ยนประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่แท้จริงที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ไม่มีการปฏิวัติอีกแล้ว พอแล้ว ถ้าปฏิวัติเมื่อไร ประชาชนเสื้อแดงจะนำลุกฮือก่อนเพื่อน" พ.ต.ท.ทักษิณกล่าว

เขากล่าวด้วยว่า ถ้ามีประชาธิปไตยที่แท้จริง จะเห็นเสรีภาพของประชาชน เสรีภาพที่มีกติกากำหนดชัดเจน ไม่ใช่กติกาที่เลือกใช้เฉพาะอภิสิทธิ์ชน เป็นกติกาที่เปิดเผยชัดเจนว่า เรามีเสรีภาพอะไรบ้าง เพื่อให้เราอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข ลูกตาสีตาสา ลูกนายพล ลูกรัฐมนตรี มีศักดิ์ศรีเท่ากัน ความเสมอภาคทางสังคมต้องเกิด ความเป็นธรรมต้องเกิด ทุกคนอยู่ใต้กฎหมายเดียวกันหมด

"พรุ่งนี้เราจะมากันอย่างสันติ เราไม่มีระเบิดปิงปอง เราไม่ปลอมอย่างที่คนอื่นมาปลอมเป็นเรา แต่เราต้องมาอย่างสันติด้วยปริมาณมากๆ เพื่อแสดงให้รู้ว่า คนไทยทั้งประเทศวันนี้รับไม่ไหวกับการเมืองแบบเก่าอีกแล้ว คนไทยวันนี้ต้องการให้ประเทศก้าวหน้า มีอนาคตที่เห็นได้ชัดเจน ลูกหลานเห็นอนาคตตัวเองหมด เขาสกัดเท่าไร ใช้วิชาเก่าๆ เท่าไร ก็เท่ากับเป็นการส่งเสริมให้พวกเราพร้อมกันมาเท่านั้น จะปิดข่าว จะบิดข่าว ก็ขอขอบคุณ เพราะทำให้พวกเราอยากมาดูด้วยตาตัวเอง ผมเตือนไว้แล้วว่า พฤษภาทมิฬพังเพราะปิดข่าวและบิดข่าว วันนี้เหมือนกัน ไม่ยอมพัฒนา" พ.ต.ท.ทักษิณกล่าว