กรุงเทพฯ-13 ธ.ค.47 "กรรมการบริหารสนับสนุนความตั้งใจของทางการที่จะฟื้นฟูกระบวนการแปรรูปรัฐวิสาหกิจ และเร่งให้มีการแก้ไขกฎหมายที่จะช่วยสนับสนุนการดำเนินการแปรรูปรัฐวิสาหกิจต่อไป" ตอนหนึ่งในประกาศข่าวสาธารณะของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ(ไอเอ็มเอฟ) เมื่อวันที่ 1 ธันวาคมที่ผ่านมา

คณะกรรมการบริหารกองทุนการเงินระหว่างประเทศ(ไอเอ็มเอฟ) ได้ประชุมเมื่อวันที่ 1 ก.ย. ที่ผ่านมา เพื่อทบทวนภาวะเศรษฐกิจไทยตามพันธะข้อสี่ ประจำปี 2547

ทั้งนี้ตามพันธะข้อสี่แห่งข้อตกลงว่าด้วยกองทุนการเงินระหว่างประเทศ กองทุนการเงินฯ จะทำการปรึกษาหารือเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจของประเทศสมาชิกระดับทวิภาคี ตามปรกติเป็นประจำทุกปี โดยจะส่งเจ้าหน้าที่ไปยังประเทศสมาชิกเพื่อรวบรวมรายงานข้อมูลเศรษฐกิจและการเงิน ตลอดจนปรึกษาหารือกับทางการ เพื่อจัดทำรายงานภาวะเศรษฐกิจการเงิน เสนอเข้าสู่วาระการประชุมของคณะกรรมการฯ หลังจากนั้นถึงรายงานกลับมาสู่ประเทศสมาชิกเพื่อทราบ

รัฐบาลปัจจุบันประกาศเดินหน้าแผนการแปรรูปรัฐวิสาหกิจโดยเฉพาะด้านสาธารณูปโภคที่สำคัญ อาทิ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) การประปานครหลวง(กปน.) ขณะที่สหภาพแรงงงานของแต่ละที่ องค์กรฝ่ายประชาชนยังคัดค้านแผนฯ ดังกล่าว ด้วยเกรงว่า จะก่อให้เกิดผลกระทบกับพนักงาน รวมถึงผลกระทบต่อประชาชนในฐานะผู้แบกรับภาระหลังการแปรรูปฯ

นอกจากนั้นคณะกรรมการฯ แสดงความยินดีต่อความคืบหน้าในการดำเนินการเปิดเสรีทางการค้าของไทย อย่างไรก็ดียังเห็นว่า น่าจะปรับปรุงระบบภาษีศุลกากร โดยเฉพาะการเปลี่ยนระบบภาษีตามปริมาณ(specific)มาเป็นระบบภาษีตามมูลค่า(ad valorem)

อย่างไรก็ดีทางไอเอ็มเอฟตั้งข้อสังเกตว่า การเจรจาเปิดเสรีทางการค้าในระดับทวิภาคีและในระดับภูมิภาคที่ทางการพิจารณาอยู่อาจจะสนับสนุนให้เกิดสภาพแวดล้อมที่ดีต่อการดำเนินธุรกิจในประเทศ ตลอดจนช่วยขยายตลาดทางการค้า

แต่ทั้งนี้ไอเอ็มเอฟสนับสนุนให้ทางการไทยดำเนินการเปิดเสรีทางการค้าในระดับทวิภาคี ที่สอดคล้องกับกรอบการตกลงการเปิดเสรีทางการค้าในระดับพุภาคี

ทั้งนี้โดยภาพรวมไอเอ็มเอฟแสดงความชมเชยรัฐบาลในความคืบหน้าของการดำเนินการแก้ไขปัญหาความยากจนในประเทศไทย

ประชาไทรายงาน