Skip to main content
sharethis

กรุงเทพฯ-5 ธ.ค.47 น.สพ.ยุคล ลิ้มแหลมทอง อธิบดีกรมปศุสัตว์ ระบุว่า กรมปศุสัตว์ได้เร่งให้ผู้เลี้ยงเป็ดไล่ทุ่งปรับวิธีการเลี้ยงเข้าสู่โรงเรือนเลี้ยงให้เร็วที่สุด โดยกำหนดไม่ให้เกินเดือนธันวาคมศกนี้ เนื่องจากเกรงว่า หากเข้าสู่ฤดูหนาวแล้วหากไม่ได้ป้องกันแก้ไขทันท่วงที ปัญหาอาจจะรุนแรงมากยิ่งขึ้น

ตามข้อเสนอของกรมปศุสัตว์ระบุว่า การนำเป็ดไล่ทุ่งเข้าสู่ระบบโรงเรือนที่สะอาด มีแหล่งน้ำ มีอาหารที่ปราศจากเชื้อโรค และที่สำคัญต้องมีตาข่ายปิดคลุมป้องกันนกและสัตว์ที่จะนำเชื้อมาสู่เป็ดที่เลี้ยงจะช่วยให้เป็ดไม่ติดเชื้อ หรือแพร่เชื้อไปสู่สัตว์อื่นๆ

อธิบดีกรมปศุสัตว์เห็นว่า การเลี้ยงเป็ดไล่ทุ่งแบบเดิมมีความเสี่ยงต่อการแพร่กระจายเชื้อสูง เพราะที่ผ่านมาการตรวจหาเชื้อไข้หวัดนกแต่กลับไม่พบในเป็ดที่มีการติดเชื้อ และตรวจหาเชื้อได้ยาก ผลทำให้ไม่สามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้

ที่ผ่านมารัฐบาลมอบให้กรมปศุสัตว์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหาวิธีป้องกันและแก้ไขอย่างเร่งด่วน พร้อมทั้งเร่งถ่ายทอดความรู้และทำความเข้าใจให้กับเกษตรกรผู้เลี้ยงเป็ดในการป้องกันและแก้ไข รวมถึงการปรับพฤติกรรมให้อยู่อย่างปลอดภัยในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดนก

ส่วนการดำเนินการแก้ไขปัญหาในเบื้องต้น คือขณะนี้ได้รับซื้อและทำลายไข่เป็ดไปแล้วประมาณ 3.8 ล้านฟอง ใช้งบประมาณ 25 ล้านบาท เพื่อตัดวงจรของลูกเป็ดที่จะฟักแล้วนำไปเลี้ยงแบบไล่ทุ่งของเกษตรกร
เนื่องจากเป็ดที่ฟักออกมาเป็นตัว เมื่อนำไปเลี้ยงเป็นเป็ดไล่ทุ่งปัญหาการระบาดของเชื้อไข้หวัดนกก็จะเกิดขึ้นมาอีก เพราะว่าเป็ดไล่ทุ่งไม่ได้เลี้ยงในโรงเรือน ซึ่งอาจจะติดเชื้อไข้หวัดนกได้ และมีโอกาสที่จะแพร่เชื้อในเปอร์เซ็นต์สูง ไม่เหมือนกับการเลี้ยงสัตว์ในระบบฟาร์มที่สามารถควบคุมโรคได้ ซึ่งขณะนี้ยังเหลือเป็ดไล่ทุ่งอยู่อีกประมาณ 12.3 ล้านตัว ที่มีการเลี้ยงอยู่ก่อนหน้านี้แล้ว

ประชาไทรายงาน

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net