Skip to main content
sharethis

ประชาไท - 4 มิ.ย. 50 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่เมื่อวันที่ 30 พ.ค. ซึ่งเป็นวันที่ตุลาการรัฐธรรมนูญอ่านคำพิพากษาไม่ยุบพรรคประชาธิปัตย์ และยุบพรรคไทยรักไทยและพรรคเล็กอีก 3 พรรค มีผู้ใช้บริการโทรศัพท์มือถือของหลายเครือข่าย ได้แก่ ทรู ฮัทช์ เอไอเอส และดีแทค โพสต์ข้อความลงในเว็บบอร์ดต่างๆ เล่าว่า พวกเขาได้รับเอสเอ็มเอส ลงชื่อ คมช. (คณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข) ระบุว่า "ขอคนไทยยึดพระราชดำรัสในหลวง ตั้งสติมั่น สมานสามัคคี มีเหตุผล เคารพกฎหมาย" รวมถึงข้อความเรียกร้องให้ใช้ดุลยพินิจในการชุมนุมและอยู่ที่บ้านฟังคำตัดสินของตุลาการรัฐธรรมนูญ


            ผู้เล่นที่ใช้ชื่อว่า "กานต์" เล่าไว้ในกระทู้ "กระทู้จาก "โต๊ะราชดำเนิน": เมื่อวานโทรไปบอก call center Hutch ซะว่า...." ของเว็บบอร์ดนิตยสารฟ้าเดียวกันว่า เขาได้รับเอสเอ็มเอสหลายครั้ง โดยครั้งแรกได้รับในเย็นวันที่ 30 พ.ค. โดยเป็นการส่งผลคำพิพากษาไม่ยุบพรรคประชาธิปัตย์ ทั้งนี้ ได้ตั้งข้อสังเกตว่า ไม่มีการส่งผลหลังตุลาการรัฐธรรมนูญอ่านคำพิพากษายุบพรรคไทยรักไทยแล้วในช่วงดึก ต่อมา ในเย็นวันที่ 31 พ.ค. มีข้อความ "ขอคนไทยยึดมั่นดำรัสในหลวง ตั้งสติมั่น สมานสามัคคี มีเหตุผล เคารพกฎหมาย /คมช." ส่งมาซ้ำกัน 2 ครั้ง และในเย็นวันที่ 1 มิ.ย. มีข้อความส่งมาว่า "เครือข่ายจุฬาเชิดชูคุณธรรมนำประชาธิปไตย (จปค.) ซึ่งแกนนำส่วนใหญ่เป(…)" แต่ข้อความในตอนท้ายขาดไป ทั้งนี้ยังระบุด้วยว่า เขาไม่เคยสมัครใช้บริการ Hotnews ดังกล่าวมาก่อน


            ผู้เล่นที่ใช้ชื่อ "queen"s power" เล่าไว้ในกระทู้ "ผมได้รับ sms เข้ามือถือ จาก คมช. โดยใช้เิงินภาษีปชช." ว่า "ได้รับ sms จาก คมช. ได้มาสองข้อความแล้วจาก หมายเลข 022996000" โดยข้อความที่ได้รับคือ "ผบ.ทบ. และ ปธ.คมช. อยากเห็นบ้านเมืองเกิดความสงบ เรียบร้อยและมีความสมานฉันท์ จึงขอให้แต่ละฝ่ายได้ทำหน้าที่ของตนเองให้ดีที่สุดและยึดแนวทางสันติ" และ "คมช.ขอให้พี่น้องประชาชนใช้ดุลยพินิจในการเข้าร่วมชุมนุมเพื่อไม่ให้เกิดความรุนแรงและ ส่งผลเสียหายกับประเทศชาติ"


ขณะที่ผู้เล่นที่ใช้ชื่อว่า "ดอ เด็ก" เล่าผ่านกระทู้ "ใครได้รับ SMS จาก 02996000 บ้าง" ว่า เขาได้รับข้อความ "ผบทบ. และประธาน คมช.อยากเห็นบ้านเมืองเกิดความสงบเรียบร้อยและมีความสมานฉันท์ จึงขอให้แต่ละฝ่ายได้ทำหน้าที่ของตนเองให้ดีที่สุด และยึดแนวทางสันติ" ถึง 3 ครั้ง โดยแสดงความเห็นว่า "ไม่รู้ว่าเข้าข่ายละเมิดสิทธิหรือเปล่า เหมือนพวก "ข้อความขยะ""


            ด้านนายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บก.ลายจุด แกนนำกลุ่มไทยเซย์โน ให้สัมภาษณ์ "ประชาไท"กล่าวถึงกรณี เอสเอ็มเอส จาก คมช.ว่า ได้รับข้อความสมานฉันท์ทำนองดังกล่าวมา 3-4 ฉบับแล้วในนามของ hotnews ทั้งที่ไม่ได้สมัครรับข่าวสาร ข้อความดังกล่าวสร้างความรำคาญและหงุดหงิดให้อย่างมาก โดยเฉพาะข้อความที่ส่งในวันตัดสินคดียุบพรรคที่ระบุว่าให้ดูทีวีอยู่บ้าน อย่าออกไปศาลรัฐธรรมนูญ


            "เขาควบคุมสื่อที่มีอยุ่ในมือรัฐทั้งหมด จับมือกับสื่อของเอกชน สำนักข่าวต่างๆ เราไม่เหลือพื้นที่หลากหลาย นอกจากอินเทอร์เน็ต แต่อินเทอร์เน็ตก็โดนอีกจนได้ เรียกว่าเขาไล่รุกไปในพื้นที่การรับรู้ สิ่งที่เรารับรู้ผ่านสื่อตอนนี้ ก็คือ สิ่งที่เขาพยายามจะพูด มันเต็มไปด้วยคำพูดของ คมช. แต่ความหลากหลายของข้อมูล มันหายไปหมดแล้ว หลังรัฐประหาร พอเน็ตและวิทยุชุมชนโดนปิด ก็บุกต่อเข้าไปใน เอสเอ็มเอส" บก.ลายจุด กล่าว


            เขากล่าวเปรียบเทียบด้วยว่า กรณีนี้ไม่ต่างอะไร Junk mail (จดหมายขยะ) ที่เป็นปัญหาต่อโลกอินเทอร์เน็ตอยู่ในปัจจุบัน แต่เป็น Junk เอสเอ็มเอส ที่ คมช. เป็นผู้ส่งให้ถึงมือถือของประชาชน เพราะ เอสเอ็มเอส มันมีความเป็นส่วนตัวเสียยิ่งกว่าอีเมล และเมืองไทยอีเมลยังสั่นสะเทือนสู้เอสเอ็มเอสไม่ได้ เนื่องจากคนไทยมีมือถือเกือบยี่สิบล้านเครื่อง


            "คนรับสื่อมีสิทธิที่จะเลือกและไม่เลือก แต่ส่งเอสเอ็มเอสมา ผมไม่มีโอกาสไม่เลือก มันยิงเข้ามือถือ ยังไงก็ยังต้องอ่านหัวข้อ อ่านไปก็โมโห ใจก็คิดว่า ถ้า คมช. ได้รับเอสเอ็มเอสจากเราบ้างจะรู้สึกยังไง เช่น ประชาชนสนามหลวง ตะโกนก้อง คมช. ออกไป"


 


คมช.ยิงอาวุธลับ SMS สยบม็อบ


คมช.เปิดปฏิบัติการ "แอร์วอร์" ยิงข้อความวิงวอนคน ไทย ยึดมั่นกระแสพระราชดำรัสในหลวง ผ่านเครือข่าย โทรศัพท์มือถือ สยบความเคลื่อนไหวทุกม็อบ


            เมื่อวันที่ 30 พ.ค.ที่ผ่านมาหลังจากที่คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญอ่านคำวินิจฉัย คดีประวัติศาสตร์ไปได้ประมาณ 1 ชั่วโมง ซึ่งตรงกับเวลาประมาณ 14.30 น. ได้มีข้อความ "ขอคนไทย ยึดดำรัสในหลวง ตั้งสติมั่น สมานสามัคคี มีเหตุผล เคารพกฎหมาย จาก คมช." ส่งผ่านเข้าไปยังเครื่องรับลูกข่ายทั้งหมด ในเครือข่ายโทรศัพท์ เอไอเอส ทุกระบบจำนวนกว่า 15 ล้านเครื่อง


            ทั้งนี้ จากการตรวจสอบในเบื้องต้น ปรากฏ ว่าผู้ที่ได้รับข้อความนี้ จะมีเฉพาะผู้ที่ใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ในเครือข่ายของเอไอเอสเท่านั้น ส่วนโทรศัพท์เคลื่อนที่เครือข่ายอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น DTAC, ทรูมูฟ, ไทยโมบาย ไม่มีใครได้รับข้อความดังกล่าวแต่ประการใด เกี่ยวกับประเด็นดังกล่าวนี้ "สยามธุรกิจ" ได้สอบถามไปยัง บริษัท เอไอเอส ถึงที่มาของข้อความดังกล่าว โดย นางวิไล เคียงประดู่ ผู้อำนวยการฝ่ายประชาสัมพันธ์ เอไอเอส กล่าวว่า เรื่องนี้ถือเป็นการขอความร่วมมือจาก คมช.มายังผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ให้ช่วยประชาสัมพันธ์ ข้อความดังกล่าว เพื่อเป็นการเตือนสติประชาชนในการรับฟังการวินิจฉัยของศาล


            ส่วนกรณีที่ว่า การส่งข้อความดังกล่าวมีค่าใช้จ่ายอย่างไรนั้น นางวิไล กล่าวว่า โดยปกติแล้วการส่งข้อความต่างๆ หากเป็นช่วงโปรโมชั่นจะตกที่ข้อความละ 1 บาท แต่หากพ้นช่วงโปรโมชั่นจะตกที่ข้อความละ 3 บาท สำหรับเลขหมายโทรศัพท์ของเอไอเอสนั้นมีทั้งสิ้นประมาณ 20 ล้านเลขหมาย ดังนั้นหากคิดที่ 1 บาทก็จะตกประมาณ 20 ล้านบาท ทั้งนี้ข้อความดังกล่าวทางเอไอเอส ถือว่าเป็นการให้ความร่วมมือกับ คมช. โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด โดยเอไอเอส ได้ทยอยส่งไปยังทุกหมายเลข


            สำหรับเครือข่าย DTAC และทรูมูฟ นั้น จากการสอบถามผู้บริหารทั้ง 2 องค์กร ได้รับคำตอบว่าไม่ได้รับการร้องขอให้ช่วยประชาสัมพันธ์ข้อความดังกล่าว


            ด้าน พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษก คมช.กล่าวถึงที่มาของข้อความดังกล่าวกับ "สยามธุรกิจ" ว่า น่าเป็นการขอความร่วมมือจากเครือข่ายโทรศัพท์มือถือในการประชาสัมพันธ์ ข้อความดังกล่าว สืบเนื่องมาจากผู้บังคับบัญชา คือ พล.อ.สนธิ บุณยรัตกลิน ประธานคมช. ต้องการที่จะสื่อให้คนไทยอยู่ในความสงบในการฟังคำตัดสินของศาลอย่างมีสติ จึงได้ให้ทางกองทัพบกช่วยหาช่องทางในการกระจายข้อความดังกล่าวไปยังประชาชนให้มากที่สุด


            พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งามทอง โฆษกกองทัพบก กล่าวว่า วัตถุประสงค์ของการกระจายข้อความดังกล่าว เนื่องจาก คมช.ต้องการให้ประชาชนจงตั้งใจฟังคำวินิจฉัยของศาลและน้อมรับคำตัดสินของศาล การที่จะออกมาทำให้สังคมเกิดความวุ่นวายนั้นเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ รวมทั้งไม่ต้องการให้เกิดความวุ่นวายหลังจากที่ศาลมีคำตัดสินออกมา


            ส่วนกรณีที่โทรศัพท์มือถือบางเครือข่ายไม่ได้รับข้อความดังกล่าว เนื่องจาก ทีมโฆษกกองทัพบกไม่ได้ประสานไปยังผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ แต่เราประสานไปยังสำนักข่าวต่างๆ ดังนั้นหากเครือข่ายโทรศัพท์ใดรับข่าวสารจากสำนักข่าวที่ได้รับข้อความนี้ก็จะช่วยประชาสัมพันธ์ให้ นอกจากนี้ไม่เฉพาะแต่สำนักข่าวหรือ ผู้ให้บริการโทรศัพท์เท่านั้น ยังรวมไปถึงทุกคนที่ได้รับข้อความ ดังกล่าวกรุณาช่วยประชาสัมพันธ์บอกต่อไปด้วย เพื่อให้เกิดความสงบในบ้านเมือง


ที่มา: สยามธุรกิจฉบับวันที่ 2 - 5 มิ.ย. 2550 


 


 


คมช.ขอ"เอไอเอส"ส่งข้อความผ่านมือถือ ยึดพระราชดำรัส-ห้ามก่อความวุ่นวาย


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในระหว่างตุลาการรัฐธรรมนูญอ่านคำพิพากษาคดียุบพรรคการเมือง ปรากฏว่ามีการส่งข้อความสั้น (เอสเอ็มเอส) จากผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่บางรายส่งไปยังลูกค้าโดยมีข้อความระบุว่า "ให้ยึดพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และไม่ให้ทุกคนก่อความวุ่นวาย โดยลงชื่อข้อความว่า มาจากคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.)


นายฐิติพงศ์ เขียวไพศาล ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ สายงานการตลาด บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือเอไอเอส กล่าวว่า คมช.ได้ขอความร่วมมือผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ทุกรายให้ส่งข้อความดังกล่าวกับลูกค้า ซึ่งทางบริษัทก็ได้ทยอยส่งข้อความให้กับลูกค้าที่ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ของเอไอเอสทุกราย โดยบริษัทเห็นว่า การดำเนินการในลักษณะดังกล่าวถือเป็นเรื่องที่ทุกบริษัทจะต้องให้ความร่วมมือกับทางภาครัฐอยู่แล้ว เพื่อให้เกิดความสงบเรียบร้อยภายในประเทศ


ด้านนายธนา เธียรอัจฉริยะ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค กล่าวว่า ขณะนี้ ดีแทค ยังไม่ได้ส่งข้อความให้กับลูกค้า เนื่องจากได้สอบถามไปยังนายทหารที่อยู่ใน คมช. ที่รับผิดชอบในเรื่องนี้ ได้รับคำตอบว่าไม่ทราบเรื่องดังกล่าว อย่างไรก็ตาม บริษัทได้รับโทรสารที่ส่งมาจากกระทรวงกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) ขอความร่วมมือให้บริษัทส่งข้อความสั้นดังกล่าว จึงไม่ทราบว่าจะเชื่อฝ่ายไหนดี จึงต้องรอเอกสารที่มีการเซ็นร่วมกันระหว่าง คมช.กับ กระทรวงไอซีทีมายืนยันกับดีแทคอีกครั้งก่อน


ที่มา: หนังสือพิมพ์มติชน ฉบับวันที่ 31 พ.ค. 50 หน้า 15


 


 


 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net