Skip to main content
sharethis

สภาฯ เห็นชอบงบประมาณรายจ่ายปี'67 กระทรวงแรงงาน 5.7 หมื่นล้าน ด้วยมติ 271 ต่อ 150 เสียง ด้านเพชรรัตน์ สส.ก้าวไกล อภิปรายเสนอตัดงบฯ 2 โครงการ 14 ล้าน เหตุไม่สอดรับความท้าทายใหม่ด้านวิกฤตทรัพยากรมนุษย์ แต่ไม่เป็นผล

 

22 มี.ค. 2567 ยูทูบ TP Channel ถ่ายทอดสดออนไลน์วานนี้ 21 มี.ค. 2567 ที่รัฐสภา การประชุมสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 28 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่ 2) มีวาระพิจารณา พ.ร.บ. งบประมาณรายจ่ายปี 2567 วันที่ 2 โดยที่ประชุมสภาฯ มีมติเห็นชอบ พ.ร.บ. งบประมาณ พ.ศ. 2567 ตามมาตรา 22 ซึ่งเป็นงบประมาณรายจ่ายของกระทรวงแรงงาน จำนวน 57,607,362,200 ล้านบาท ด้วยคะแนน 271 ต่อ 150 เสียง จากผู้ลงมติจำนวน 424 ราย 

ก่อนหน้าการลงคะแนน เพชรรัตน์ ใหม่ชมภู สส.พรรคก้าวไกล อภิปรายเสนอตัดงบประมาณของกรมพัฒนาทักษะฝีมือแรงงาน มี 2 โครงการด้วยกันคือ โครงการพัฒนาทักษะตามศักยภาพของพื้นที่ ภายใต้แผนงานบูรณาการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาจัดหวัดชายแดนใต้ งบประมาณ 9,680,000 บาท และโครงการพัฒนาฝีมือแรงงานนานาชาติ ภายใต้แผนพัฒนาและเสริมสร้างทรัพยากรมนุษย์ จำนวน 5,000,000 บาท

สส.พรรคก้าวไกล มองว่า ทั้ง 2 โครงการไม่ได้มีการปรับอะไรใหม่จากปีที่แล้ว (2566) ทั้งที่ประเทศไทยกำลังเผชิญวิกฤตเสี่ยงตกงาน เพราะว่าการเข้ามาของเทคโนโลยีใหม่ และแรงงานต้องแบกรับสังคมผู้สูงวัย เธอจึงเสนอว่าไม่จำเป็นต้องมี 2 โครงการนี้ และไปลงทุนกับโครงการที่เน้นเรื่องอัปสกิลและรีสกิลแทน

เพชรรัตน์ ใหม่ชมภู (ที่มา: TP Channel)

"วิกฤตทรัพยากรมนุษย์ และปัญหาเรื้อรัง เราไม่สามรถให้แรงงานไทยทุกคนกลับไปเรียนในระบบทั้งหมดได้ เช่นเดียวกับที่เราไม่ให้ผู้สูงอายุกลับไปเป็นหนุ่มสาวได้ เรามีแต่การพัฒนาทักษะ อัปสกิล และรีสกิล เพื่อตอบสนองความท้าทายครั้งใหญ่นี้" เพชรรัตน์ กล่าว 

เพชรรัตน์ เสนอว่า งบประมาณดังกล่าวควรลงไปที่การอัปสกิล และรีสกิลแรงงาน เพื่อสอบสนองความท้าทาย แต่พบว่านโยบายหาเสียงของพรรคเพื่อไทย เช่น 1 ครอบครัว 1 Soft Power เรียนฟรีมีงานทำ สร้างงาน 20 ล้านตำแหน่ง รายได้ 2 แสนบาทต่อปี กลับไม่ได้รับบรรจุในงบประมาณรายจ่าย แต่ไม่แน่ใจว่าท่านอาจจะใช้คำอื่นๆ แฝงอยู่หรือไม่ จึงอยากให้ กมธ.ชี้แจง 

เพชรรัตน์ ระบุว่า จากการตรวจสอบการดำเนินนโยบาย Soft Power ของพรรคเพื่อไทย ระบุถึงปฏิบัติการ "Quick Win" โดยกำหนดไทมไลน์แล่งเป็น 100 วัน 6 เดือน และ 1 ปี โดย 100 วันแรก มีการลงทะเบียนผ่านกลไกกองทุนหมู่บ้าน เพื่อผู้ที่ต้องการตั้งศูนย์บ่มเพาะอัปสกิล และรีสกิล ต่อมา ในช่วง 6 เดือนแรก ก็อาจจะมีการอัปสกิล และรีสกิล และผ่าน พ.ร.บ.พรรคกล้า และ 1 ปีแรกมีผู้ได้รับการพัฒนาทักษะจำนวน 1 ล้านคน

สส.พรรคก้าวไกล ระบุว่า จากการตรวจสอบในพื้นที่เชียงใหม่ เช่น ต.สันผีเสื้อ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ เมื่อ ต.ค. 2566 ซึ่งเป็นไทม์ไลน์ 100 วันแรกหลังตั้งรัฐบาล มีเพียงการสอบถามรายชื่อผู้ที่ต้องการลงทะเบียนอัปสกิลและรีสกิลเท่านั้น ซึ่งตามไทม์ไลน์กำหนดว่าต้องมีการเปิดลงทะเบียนผู้ที่ต้องการอัปสกิลและรีสกิลแล้ว สะท้อนว่าสิ่งเหล่านี้ยังไม่เป็นรูปเป็นร่าง ทั้งนี้ พรรคเพื่อไทยอาจบอกว่ายังไม่ทันบรรจุในงบประมาณนี้เข้าไปในปี 2567 เพราะว่ายังเป็นช่วงเปลี่ยนผ่านจากรัฐบาลที่แล้ว เธอจึงอยากขอติดตามงบประมาณในการพัฒนาทักษะทั้งรีสกิลและอัปสกิลของพรรคเพื่อไทยต่อไป

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net