เผยเอกสารของอำเภอแม่สอด ขอกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน สกัดกั้นจับกุมชาวพม่าหนีเกณฑ์ทหารเข้าไทย
22 มี.ค. 2567 สืบเนื่องจากความระส่ำระสายทางการเมืองที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในประเทศพม่าเมื่อวันที่ 10 ก.พ. ที่ผ่านมา เผด็จการทหารพม่าได้ประกาศใช้กฎหมายบังคับเกณฑ์ทหารสำหรับผู้ชายอายุ 18-35 ปี และ ผู้หญิงตั้งแต่อายุ 18-27 ปี ให้เข้ารับราชการอย่างน้อย 2 ปี
ย้อนไปเมื่อกลางเดือนที่แล้ว หลังจากมีการประกาศใช้กฎหมายดังกล่าว สื่อเบนาร์นิวส์รายงานการจับกุมชาวพม่ากว่า 160 คน ที่หนีการเกณฑ์ทหารเข้ามาทางชายแดนไทย
ล่าสุดวันนี้ (22 มี.ค.) มีการเปิดเผยเอกสารลงนามโดย “สัญญา เพชรเศษ” นายอำเภอแม่สอด ขอความร่วมมือกำนันและผู้ใหญ่บ้านเพิ่มความเข้มข้นและความถี่ในการปฏิบัติการป้องกัน สกัดกั้น ปราบปราม และจับกุมผู้หลบหนีเข้าเมืองที่อาจเพิ่มขึ้น โดยในเอกสารลงวันที่วานนี้ (21 มี.ค.)
ปชช.ในพม่าเริ่มได้จดหมายเรียกตัว
ขณะที่พีพีทีวีออนไลน์รายงานอ้างอิงจากสำนักข่าว CNA ระบุว่า กองทัพพม่าเริ่มส่งจดหมายเรียกตัวพลเรือนเข้ารับการเกณฑ์ทหารชุดแรกแล้ว
โดยประชาชนที่มีคุณสมบัติตามพื้นที่ต่าง ๆ ของพม่าเริ่มทยอยได้รับจดหมายเรียกตัวกันแล้ว ซึ่งจดหมายเหล่านี้อาจไม่อยู่ในรูปแบบมาตรฐาน แต่แต่ละฉบับจะมีข้อความลักษณะเดียวกัน คือ แนะนำให้ผู้รับไปลงทะเบียนเข้ารับการเกณฑ์ทหาร และเตือนว่า “การไม่รายงานตัวจะส่งผลให้ถูกดำเนินคดี”
กองทัพพม่าสั่งห้ามชาวยะไข่ออกจากย่างกุ้ง
วานนี้ (21 มี.ค.) สำนักข่าวชายขอบรายงานอ้างอิงสำนักข่าวอิระวดี ระบุว่า กองทัพพม่าออกคำสั่งให้บริษัทผู้ประกอบการรถโดยสารในย่างกุ้งห้ามขายตั๋วรถให้กับประชาชนที่มีเชื้อชาติยะไข่ หรือชาวอาระกันที่มีภูมิลำเนาในรัฐอาระกัน ที่ต้องการเดินทางออกจากเมืองย่างกุ้ง หลังกองทัพอาระกัน (Arakan Army) ทำสงครามรุกคืบพยายามยึดเมืองหลวงในรัฐอาระกัน และกองทัพพม่าเองกำลังพ่ายสงครามในรัฐอาระกัน โดยกองทัพพม่าขู่จะลงโทษหนักผู้ประกอบการหากฝ่าฝืน
นอกจากประชาชนเชื้อชาติยะไข่แล้ว ประชาชนจากรัฐอื่นๆ ก็กำลังเผชิญกับการถูกจำกัดการเดินทางออกจากเมืองย่างกุ้ง โดยผู้ประกอบการรถโดยสารจะไม่ขายตั๋วรถให้จนกว่าผู้โดยสารจะแสดงเอกสารบัตรประจำตัว และจดหมายอนุญาตให้เดินทางออกนอกพื้นที่จากทางการท้องถิ่น หรือจากสถานีตำรวจ ขณะที่หลายคนตั้งข้อสังเกตว่า กฎเกณฑ์ดังกล่าวมีขึ้นเพื่อป้องกันไม่ให้เยาวชนหลบเลี่ยงจากการเป็นทหารหรือไม่
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)