Skip to main content
sharethis

การรุกรานยูเครนของรัสเซียเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ 2565 ทำให้สวีเดนและฟินแลนด์ตัดสินใจสมัครเข้าเป็นสมาชิกองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ หรือนาโต้ (NATO) ในเดือนพฤษภาคมของปีเดียวกัน อย่างไรก็ตามบรรดาประเทศพันธมิตรได้ขยายระยะเวลาในการเชิญทั้งสองประเทศออกไปในที่ประชุมสุดยอดของนาโต้ที่กรุงมาดริด ประเทศสเปน เมื่อเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2565 

ฟินแลนด์ได้เข้าเป็นสมาชิกนาโต้ชาติที่ 31 อย่างเป็นทางการในเดือนเมษายน พ.ศ. 2566  ในขณะที่สวีเดนยังพบเจออุปสรรคจากตุรกีและฮังการี แม้ว่ารัฐบาลสวีเดนได้มีปรับแก้กฎหมายต่อต้านการก่อการร้ายภายในประเทศตามคำเรียกร้องของตุรกี อย่างไรก็ตาม ตุรกีเรียกร้องประเด็นอื่นๆ เพิ่มเติมซึ่งที่ไม่เกี่ยวข้องกับสวีเดน ไม่ว่าจะเป็นการท่ีรัฐบาลอังการาต้องการซื้อเครื่องบินรบ F-16 จากสหรัฐฯ และต้องการเข้าเป็นส่วนหนึ่งของสหภาพยุโรป การอภิปรายในรัฐสภาตุรกีได้เริ่มขึ้นในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2566 ในที่สุดหลังจากได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภา ประธานาธิบดีเรเจฟ ทายยิบ แอร์โดอัน ได้ให้สัตยาบันรับรองสวีเดนเป็นสมาชิกนาโต้

หลังจากการเจรจาต่อรองและความพยายามทางการทูตอย่างยาวนาน สวีเดนก็สามารถเอาชนะอุปสรรคต่าง ๆ ในการเข้าร่วมนาโต้ได้ในวันที่ 26 กุมภาพันธ์ หลังจากฮังการีซึ่งเป็นชาติสุดท้ายได้ให้การรับรองสวีเดนเข้าเป็นสมาชิกนาโต้ หลังจากก่อนหน้านี้ได้ชะลอการให้สัตยาบัน โดยระบุว่าสวีเดนวิพากวิจารณ์ปัญหาประชาธิปไตยในฮังการี

ในวันที่ 7 มีนาคม สวีเดนได้เข้ามาเป็นสมาชิกอย่างเป็นทางการของนาโต้ นั่นหมายความว่าสวีเดนสามารถมีส่วนร่วมในกิจกรรมต่างๆในฐานะพันธมิตรได้อย่างเต็มที่ แทนที่จะเป็นเพียงแค่ผู้สังเกตการณ์การประชุม กระบวนการนี้ถือเป็นก้าวที่สำคัญก่อนการประชุมสุดยอดครบรอบ 75 ปี ของนาโต้ที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี.  ที่กำลังจะเกิดขึ้นในเดือนกรกฎาคมในปีนี้

ภูมิภาคนอร์ดิกรวมเป็นหนึ่งในนาโต้

เมื่อภูมิภาคนอร์ดิกทั้งหมดเป็นส่วนหนึ่งของนาโต้แล้ว ยุโรปจะสามารถประกันความมั่นคงของตนเองได้มากขึ้น ทั้งยังเป็นหุ้นส่วนที่เข้มแข็งในด้านการป้องกันประเทศให้สหรัฐอเมริกาและแคนาดา  นอกจากนี้การละลายของธารน้ำแข็งทางตอนเหนือนั้นถือเป็นการสร้างโอกาสใหม่ ๆ ให้ทั้งมิตรและศัตรู การขยายตัวของนาโต้จะเพิ่มขีดความสามารถในการรักษาความมั่นคงในบริเวณนี้ไว้ได้ การเข้ามาของสวีเดนและฟินแลนด์จะช่วยเสริมสร้างการป้องกันในภูมิภาคอาร์กติก ซึ่งก่อนหน้านั้นมีเพียงแค่นอร์เวย์และไอซ์แลนด์ที่เผชิญกับพรมแดนอันทอดยาวของรัสเซีย

การที่ยุโรปรวมตัวกันในนาโต้ยังส่งสัญญาณที่ชัดเจนไปยังรัสเซียว่าความพยายามของรัสเซียในการทำให้พันธมิตรอ่อนแอลงนั้นล้มเหลว ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันนี้จะเสริมสร้างขีดความสามารถของนาโต้ในการเผชิญหน้ากับเครมลิน และรับมือกับความท้าทายระดับทวีป เช่น การก่อการร้าย ภัยคุกคามทางไซเบอร์ การคอรัปชั่น และปัจจัยอื่น ๆ ที่เป็นภัยต่อความมั่นคง

สวีเดนในฐานะสมาชิกนาโต้อย่างสมบูรณ์

สวีเดนเป็นดินแดนที่เชื่อมพื้นที่แอตแลนติก อาร์กติก และบอลติก เข้าด้วยกัน จึงมีความสำคัญอย่างมากในแง่ยุทธศาสตร์และการเคลื่อนกำลังพลในปฏิบัติการร่วม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศแถบนอร์ดิกและบริเวณอาร์กติก รวมถึงประเทศแถบบอลติกและโปแลนด์อีกด้วย

สวีเดนวางแผนที่จะพัฒนาขีดความสามารถทางทหาร หลังจากใช้งบประมาณด้านกลาโหมอยู่ที่ประมาณ 1% ของGDPมาเป็นเวลาหลายปี  รัฐบาลพรรคขวากลางได้เพิ่มงบประมาณด้านกลาโหมอย่างมีนัยยะสำคัญ ซึ่งอาจเปิดทางให้สวีเดนสามารถบรรลุเป้าหมายของนาโต้ในการเพิ่มงบประมาณกลาโหมเป็น 2% ของGDP ภายในปีนี้

สวีเดนยังมีความพยายามในการเสริมสร้างความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้านในแถบนอร์ดิก และเชื่อมสัมพันธ์พหุพาคี โดยเฉพาะกับสหรัฐฯ และสหราชอาณาจักรซึ่งสวีเดนได้ลงนามในข้อตกลงความร่วมมือทางทหารขั้นสูงด้วย 

ข้อได้เปรียบใหม่ในทางยุทธศาสตร์ของพันธมิตร

การเป็นสมาชิกนาโต้ของสวีเดนนำมาซึ่งข้อได้เปรียบหลายประการ ประการสำคัญคือความสามารถในด้านการป้องกัน เพิ่มอิทธิพลทางยุทธศาสตร์เหนือทะเลบอลติก สำหรับสวีเดนแล้ว เกาะกอตแลนด์เป็นเกาะยุทธศาสตร์ที่สวีเดนให้ความสำคัญมากที่สุด หลังการเข้าร่วมนาโต้ เกาะแห่งนี้จะเป็นยุทธศาสตร์ใหม่ที่ช่วยให้นาโต้สามารถควบคุมภูมิภาคนี้ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งภายใต้บริบทความขัดแย้งกับรัสเซีย

สวีเดนยังมีกองทัพเรือที่ใหญ่เป็นอันดับสามในแถบทะเลบอลติก รองจากรัสเซียและเยอรมนี  อีกทั้งยังมีกองทัพอากาศที่จะมีส่วนช่วยในการรักษาความปลอดภัยในการเคลื่อนกำลังพลและยุทโธปกรณ์ข้ามทะเลบอลติก

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสวีเดน

สวีเดนมีกองกำลังสะเทินน้ำสะเทินบกเคลื่อนที่ ซึ่งออกแบบมาเฉพาะในด้านความเร็วและความคล่องตัวในปฏิบัติการพื้นที่บริเวณชายฝั่ง กองกำลังดังกล่าวสามารถเสริมสร้างประสิทธิภาพอย่างมากให้กับปฏิบัติการในสภาพหมู่เกาะที่ซับซ้อน เช่น ชายฝั่งของประเทศเอสโตเนีย 

สวีเดนและฟินแลนด์ยังมีสิ่งที่ประเทศสมาชิกนาโต้ในแถบทะเลบอลติกไม่มี นั่นคือ เรือรบเคลื่อนที่เร็ว เรือสะเทินน้ำสะเทินบก และเรือล่าใกล้ชายฝั่งที่ได้รับการฝึกฝนให้ป้องกันตนเองจากกองกำลังของศัตรูได้ ทั้งยังสามารถโจมตีได้อีกด้วย นอกเหนือจากนี้แล้ว ในบรรดาสมาชิกนาโต้มีเพียงแค่สหรัฐฯและสหราชอาณาจักรเท่านั้นที่มีกองกำลังสะเทินน้ำสะเทินบกที่เข้มแข็ง

ยิ่งไปกว่านั้น สวีเดนถือว่ามีความเชี่ยวชาญในการล่าเรือดำน้ำของศัตรู เนื่องจากมีเรือดำน้ำเครื่องยนต์ดีเซลที่ออกแบบมาให้สามารถปฏิบัติการในน่านน้ำตื้นและน่านน้ำที่ท้าทาย

ในแง่ของอากาศยานรบ กองทัพอากาศของสวีเดนมีขนาดใหญ่ที่สุดในภูมิภาคนอร์ดิก อากาศยานเหล่านี้มีอาวุธที่ทันสมัย ไม่ว่าจะเป็นขีปนาวุธต่อต้านเรือ และจรวดนำวิถีอากาศสู่อากาศ ที่จะช่วยสนับสนุนนาโต้ยามต้องเผชิญหน้ากับรัสเซีย

อย่างไรก็ตาม แม้กองทัพสวีเดนจะมีความแข็งแกร่งและทันสมัย แต่ก็ยังมีทรัพยากรที่น้อยเกินไปและยังต้องการการพัฒนาระบบให้ดีมากยิ่งขึ้น กองทัพเรือจะต้องเสริมกำลังให้แข็งแกร่งมากพอเพื่อให้สามารถป้องกันสวีเดนและทะเลบอลติกจากกองทัพรัสเซียที่มีขนาดใหญ่และเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วได้ นอกจากนั้น กองทัพภาคพื้นดินของสวีเดนยังมีจำนวนน้อย และจะต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการผลิตและหมุนเวียนกองกำลังถาวรให้กับนาโต้  ดังนั้น การมีส่วนร่วมของสวีเดนในด้านกลาโหมในส่วนนี้จึงมีไม่มากนัก

บทบาททางภูมิยุทธศาสตร์ของสวีเดนในนาโต้

ภารกิจหลักของสวีเดนและประเทศนอร์ดิกอื่น ๆ ในฐานะสมาชิกนาโต้คือการสนับสนุนการป้องกันร่วมกับพันธมิตรในภูมิภาคยุโรปเหนือ ซึ่งรวมถึงประเทศในแถบบอลติกและโปแลนด์

จากรายงานของคณะกรรมาธิการป้องกันประเทศ ในเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2566 สวีเดนมีสถานะเป็นฐานปฏิบัติการที่ให้การสนับสนุนกองกำลังทางบก ทะเล และทางอากาศของประเทศพันธมิตร รวมทั้งเป็นพื้นที่สำหรับการจัดหาและขนส่งของนาโต้ สวีเดนไม่ได้มองตนเองว่าเป็นหน้าด่านในสงครามแต่มองตนเองเป็นจุดสำคัญทางยุทธศาสตร์ที่จะรักษาเส้นทางสัญจรเพื่อป้องกันพื้นที่ทางตอนเหนือของนอร์เวย์ ฟินแลนด์ และประเทศแถบบอลติก และเนื่องด้วยความตกลงสนับสนุนชาติเจ้าภาพในยามสงครามระหว่างสวีเดนและนาโต้ กองกำลังพันธมิตรสามารถใช้ประโยชน์จากอาณาเขตของสวีเดนได้ ไม่ว่าจะเป็นทางน่านฟ้า และน่านน้ำได้ แม้ว่าอาจจะต้องขอนุญาตสวีเดนก่อนทุกครั้ง

ตลอดหลายปีที่ผ่านมา สวีเดนได้พยายามพัฒนาความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านในแถบนอร์ดิกมาตลอด โดยมีฟินแลนด์เป็นหุ้นส่วนสำคัญ ดังนั้นสวีเดนจึงมองตนเองว่าเป็นส่วนสำคัญหลักในกลุ่มประเทศนอร์ดิกที่เป็นพันธมิตรนาโต้

ในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2566 ทันทีที่รัสเซียเข้ารุกรานยูเครนอย่างเต็มรูปแบบ สวีเดน นอร์เวย์ ฟินแลนด์ และเดนมาร์กได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจเพื่อบูรณาการกองกำลังอากาศของทั้ง 4 ประเทศ เพื่อที่จะปฏิบัติการร่วมกันภายใต้สถานการณ์ต่าง ๆ ได้ ประเทศที่ลงนามได้ให้คำมั่นถึงการบูรณาการโครงสร้างการบังคับบัญชา การวางแผนปฏิบัติการ การเฝ้าระวังน่านฟ้าร่วมกัน การฝึกและการซ้อมรบ และแม้ว่าความเป็นสมาชิกภาพของสวีเดนในนาโต้จะทำให้สวีเดนเข้าร่วมในกลไกต่าง ๆ ของนาโต้ได้อย่างเต็มที่ แต่ความร่วมมือระหว่างประเทศในแถบนอร์ดิกที่มีมาอย่างยาวนานจะยังคงดำเนินต่อไป และจะเป็นส่วนเสริมที่สำคัญต่อนาโต้

สถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นได้ 

ในระยะสั้น : รัสเซียเพิ่มความแข็งกร้าวต่อประเทศนอร์ดิก

รัสเซียจะแสดงท่าทีที่แข็งกร้าวมากขึ้นต่อประเทศนอร์ดิก โดยเฉพาะสวีเดน และยังได้ข่มขู่ว่าจะดำเนินการทั้งทางการเมืองและทางทหารต่อสวีเดน มาเรีย ซาคาโรวา ซึ่งเป็นผู้อำนวยการฝ่ายสื่อของกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย ได้แสดงความเห็นว่า “การละทิ้งนโยบายที่ยาวนานในการไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใดและเข้าร่วมกลุ่มที่ต่อต้านรัสเซียอย่างเปิดเผยนั้นไม่อาจทำให้ชาวสวีเดนทั่วไปรู้สึกได้ถึงความปลอดภัย”

แม้ว่าพันธมิตรวางแผนที่จะสนับสนุนสวีเดนด้วยกองกำลังและทรัพยากรทางทหารเพิ่มเติม ในกรณีเกิดความขัดแย้งขึ้นใกล้พรมแดนทางตอนเหนือของนาโต้ แต่ก็อาจจะเพิ่มความเป็นไปได้ที่จะเกิดสงครามโดรนซึ่งทางรัสเซียได้ประกาศอย่างชัดเจนแล้วว่าจะจัดการกับสวีเดนด้วยระบบโดรนและอากาศยานไร้คนขับหากสวีเดนเข้าร่วมพันธมิตร

นอกจากนี้ รัสเซียยังได้ติดตั้งขีปนาวุธนิวเคลียร์ไว้ที่คาลินินกราด ซึ่งอยู่ห่างจากสวีเดนเพียง 300 กิโลเมตร นักวิจัยหลายรายเชื่อว่าหลังจากได้รับการปรับแต่งแล้ว ขีปนาวุธนี้จะสามารถไปได้ไกลถึง 2,000 กิโลเมตร ฉะนั้นแล้วจากตำแหน่งที่ตั้ง ขีปนาวุธดังกล่าวสามารถครอบคลุมพื้นที่ขนาดใหญ่ของยุโรปได้

ในระยะยาว : รัสเซียโจมตีประเทศสมาชิกนาโต้

หากรัสเซียจะโจมตีประเทศสมาชิกนาโต้ ประเทศกลุ่มบอลติกเป็นกลุ่มที่เสี่ยงต่อการถูกโจมตีมากที่สุด สวีเดนก็อาจจะตกเป็นเป้าด้วยเช่นกัน การโจมตีภาคพื้นดินในระยะใกล้ไม่น่าจะเกิดขึ้นได้ เนื่องจากขีดความสามารถในการปฏิบัติการของรัสเซียนั้นจำกัด สถานการณ์ที่เป็นไปได้มากกว่าคือการใช้กลยุทธ์สงครามแบบทางอ้อม เช่นการโจมตีทางอากาศและการใช้โดรน เพราะถึงแม้รัสเซียจะถูกคว่ำบาตร แต่ก็ยังคงนำเข้าเทคโนโลยีจากจีนได้ ทำให้มีโอกาสพัฒนาและผลิตอาวุธขั้นสูงจำนวนมาก รวมถึงโดรนประเภทใหม่ ๆ 

ในปีต่อ ๆ ไป ยังมีการคาดการณ์ว่ารัสเซียจะสามารถฟื้นฟูขีดความสามารถทางด้านการทหาร และเพิ่มโอกาสในการรุกรานยูเครนและประเทศอื่น ๆ อีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ความแข็งแกร่งของนาโต้และยูเครนในอนาคต และตำแหน่งแห่งที่ของรัสเซียอาจจะเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยยะสำคัญ ขึ้นอยู่กับผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีของสหรัฐฯในเดือนพฤจิกายนที่จะถึงนี้

 เรียบเรียงจาก


 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net