Skip to main content
sharethis

กลุ่มเพื่อนเขาใหญ่และภาคประชาชน จ.นครราชสีมา จัดกิจกรรมปกป้องเขาใหญ่จาก ส.ป.ก. หวังจุดกระแสเรียกร้องให้มีการเปิดเผยข้อมูลปัญหาบุกรุกป่าและการออกเอกสารสิทธิ์โดยมิชอบ - 'ชัยวัฒน์' ขีดเส้น 1 เดือน ส.ป.ก. ต้องถอนหมุด หากไม่ทำจะเดินหน้าเอาผิด ส.ป.ก. ทุกจังหวัดเด็ดขาด

Thai PBS รายงานว่าเมื่อวันที่ 24 ก.พ.2567 นักท่องเที่ยวและประชาชนที่เดินทางมาที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ในช่วงวันหยุดยาวสุดสัปดาห์นี้ ส่วนหนึ่งได้แวะถ่ายภาพและร่วมกิจกรรมคอนเสิร์ตและเวทีเสวนาสะท้อนปัญหาบุกรุกป่าเขาใหญ่ ผืนป่ามรดกโลก และเรียกร้องให้มีการเปิดเผยข้อมูลปัญหาที่เกิดขึ้นล่าสุดซึ่งภาคประชาชนชนมองว่าเป็นขบวนการออกเอกสารสิทธิ์ ส.ป ก.4-01 โดยมิชอบ

กิจกรรมครั้งครั้งถือเป็นการส่งเสียงสะท้อนสู่สังคมและกลุ่มทุน เพื่อจุดกระแสสร้างจิตสำนึกปกป้องป่า โดยงานจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 24-26 ก.พ. นี้ บริเวณด้านหน้าทางขึ้นอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่

นางรัตนา ชาว อ.ปากช่อง บอกว่า วันนี้ตั้งใจมาเที่ยวเขาใหญ่และร่วมกิจกรรมคอนเสิร์ต แต่ในวันพรุ่งนี้จะชักชวนครอบครัว ญาติพี่น้อง และคนรู้จักมากิจกรรม save ชัยวัฒน์ ซึ่งเป็นกิจกรรมสำคัญ ในงานคอนเสิร์ตและเวทีเสวนาปกป้องป่าเขาใหญ่

ซึ่งอยากเห็นคนปากช่องแสดงจุดยืนสนับสนุนการทำงานของข้าราชการระดับสูงที่ตรงไปตรงมา และปกป้องการทำงานของเจ้าหน้าที่ระดับปฏิบัติการ ที่ต้องเผชิญกับปัญหาบุกรุกป่าที่อาจมีกลุ่มทุนและผู้มีอิทธิพลอยู่เบื้องหลัง

"อยากให้ธรรมชาติแบบนี้อยู่กับลูกกับหลานไปนานๆ ตอนนี้มันเหลือน้อยแล้ว ไม่อยากให้ตกไปอยู่กับนายทุน หรือคนรวย เรามาเซฟชัยวัฒน์อยากให้กำลังใจข้าราชการที่ทำงานตรงไปตรงมา ทำเพื่อปกป้องทรัพยากรธรรมชาติจริงๆ ไม่ใช่ที่อ้างปกป้องป่าอ้างทำเพื่อประชาชน" นางรัตนา กล่าว

ด้านนายธูป ชาว อ.ปากช่อง ก็บอกว่า ในฐานะนักท่องเที่ยว และเป็นคนปากช่อง นอกจากจะมาเป็นกำลังในให้เจ้าหน้าที่แล้ว ก็มาเป็นกำลังใจให้พี่ด้วน ให้กำลังใจช้างป่าที่ออกมาหากินบริเวณแหล่งน้ำที่ถูกออกเอกสาร ส.ป.ก.4-01 ทับเขตอุทยาน

สอดคล้องกับนักท่องเที่ยวอีกหลายคนที่มองว่า แม้แต่สัตว์ป่ายังต้องการสื่อสารว่าผืนป่าที่ถูกบุกรุกคือบ้าน คือแหล่งอาหารของพวกมัน เราในฐานะคนไทยจึงต้องร่วมกันแสดงออกและส่งเสียงถึงขบวนการบุกรุกป่าที่อาจพยายามเข้ามาถือครองกรรมสิทธิ์ในอนาคต

'ชัยวัฒน์' ขีดเส้น 1 เดือน ส.ป.ก. ต้องถอนหมุด หากไม่ทำจะเดินหน้าเอาผิด ส.ป.ก. ทุกจังหวัดเด็ดขาด

เว็บไซต์เดลินิวส์ รายงานเมื่อวันที่ 24 ก.พ. 2567 ว่านายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผอ.สำนักอุทยานแห่งชาติ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เปิดเผยถึงกรณีข้อพิพาทการออกโฉนด ส.ป.ก. จ.นครราชสีมา รุกล้ำเข้าไปในเขตพื้นที่ป่าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ บริเวณบ้านเหวปลากั้ง หมู่ที่ 10 ต.หมูสี อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ว่าหมุด ส.ป.ก. ที่อยู่ในเขตป่าอนุรักษ์ทั้งหมด ที่มีคำสั่งให้เพิกถอนออกมาแล้วนั้น ก็ต้องมีหนังสือ และต้องรีบถอน ส่วนตัวขอให้เวลา 1 เดือน หรือไม่อย่างนั้นต้องมีเอกสารยกเลิกการออกเอกสาร ส.ป.ก.4-01 ที่ออกทับพื้นที่ป่าให้ชัดเจน ถ้าไม่ทำก็จะแจ้งความดำเนินคดี ส.ป.ก. ทุกจังหวัดแน่นอน 

“เพราะวันนี้กรมอุทยานฯ จับผู้กระทำความผิดไว้ ในจุดที่เป็นพื้นที่ของอุทยาน ก่อนจะกลายเป็นที่ว่างเปล่า แล้วมีคนเข้าไปทำสิ่งปลูกสร้าง เจ้าหน้าที่ก็ต้องจับกุมดำเนินคดี” นายชัยวัฒน์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทั้งนี้ตั้งแต่เกิดเรื่อง ส.ป.ก.นครราชสีมา ไม่เคยให้ข้อมูลที่แท้จริงว่า ในพื้นที่พิพาทรอบ อุทยานฯ เขาใหญ่ มีการออก ส.ป.ก.4-01 ไปแล้วกี่แปลง และมีทำรูปแปลงไปแล้วกี่แปลง ทำให้ถึงเวลานี้ หากตามคำสั่ง ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรฯ ที่ให้เพิกถอนการออก ส.ป.ก. เพื่อมาทำเป็นแนวกันชน หรือ Buffer zone นั้น จะเปล่าประโยชน์ เพราะถ้าไม่รู้ว่ามีพื้นที่เท่าไหร่ แล้วการนำมาทำเป็นป่าแนวกันชน จะรู้ได้อย่างไรว่า ส.ป.ก. เพิกถอนหมุดพิพาทออกไปหมดหรือยัง

'ธรรมนัส' สั่งเด็ดขาด ตรวจการออก ส.ป.ก.4-01 มิชอบทั่วประเทศ

25 ก.พ. 2567 สำนักข่าวไทย รายงานว่า ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า ในวันที่ 27 ก.พ. 2567 ก่อนเข้าประชุมคณะรัฐมนตรี จะประชุมปฏิรูปที่ดินจังหวัดทั่วประเทศ เพื่อมอบนโยบายเกี่ยวกับการดำเนินการบริเวณเขตพื้นที่กันชน (Buffer Zone) ระหว่างเขตปฏิรูปที่ดินกับพื้นที่ป่าอนุรักษ์ในความรับผิดชอบของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช และกรมป่าไม้ เพื่อให้การดำเนินงานของสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) เป็นไปตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง รวมถึงให้การบริหารจัดการพื้นที่เขตปฏิรูปที่ดิน เหมาะสมตามหลักนิติศาสตร์ รัฐศาสตร์ และบริบทความจริงของสังคมในปัจจุบันที่เปลี่ยนแปลงไป

ทั้งนี้ ได้ลงนามคำสั่งด่วนถึงนายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข เลขาธิการ ส.ป.ก. เกี่ยวกับนโยบายดังกล่าว ตลอดจนสั่งการให้เร่งตรวจสอบการจัดที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดินบริเวณพื้นที่ตามแนวเขตปฏิรูปที่ดินที่ติดต่อกับเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่และพื้นที่ต่อเนื่อง รวมถึงพื้นที่ปฏิรูปที่ดินทั่วประเทศ ซึ่งมีแนวเขตกับที่ดินของรัฐทุกประเภท ทั้งในความรับผิดชอบของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กรมป่าไม้ หรือหน่วยงานอื่นๆ ว่ามีกรณีจัดที่ดินโดยผิดกฎหมายหรือไม่ หรือจัดที่ดินให้แก่เกษตรกรโดยมิชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ หรือยังมีที่ดินที่ยังไม่ได้ดำเนินการจัดให้แก่เกษตรกรแต่อย่างใด หากพบว่าการจัดที่ดินดังกล่าวไม่ชอบด้วยกฎหมาย ให้ดำเนินการตามกฎหมายหรือระเบียบที่เกี่ยวข้องให้ถูกต้องโดยเคร่งครัด

ร.อ.ธรรมนัส ย้ำว่า พื้นที่กันชน (Buffer Zone) ระหว่างเขตปฏิรูปที่ดินกับป่าอนุรักษ์ในความรับผิดชอบของกรมอุทยานแห่งชาติฯ และกรมป่าไม้ ส.ป.ก. จะไม่จัดสรรให้เกษตรกรเข้าทำกิน แต่จะกันไว้จัดทำ “ป่าชุมชน” ในเขตปฏิรูปที่ดิน เพื่อให้เกษตรกรได้ใช้ประโยชน์ ควบคู่กับการรักษาและเพิ่มพื้นที่ป่า

นอกจากนี้ยังเตรียมสำรวจพื้นที่ที่ยังไม่ได้รับการจัดสรร หรือที่ดินว่างเปล่า เพื่อรองรับเกษตรกรกลุ่มเปราะบาง หรือกลุ่มผู้ด้อยโอกาสที่ไม่มีที่ดินทำกิน โดยให้จัดสรรที่ดินให้กับกลุ่มเหล่านี้ตามระเบียบ ส.ป.ก. ต่อไป พร้อมเน้นย้ำให้ยึดถือตามคำสั่งอย่างเคร่งครัด

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net