Skip to main content
sharethis

แนวร่วมเพจวันนี้ก้าวไกลโกหกอะไร ร้อง ป.ป.ช. ดำเนินคดีอาญา-ตรวจสอบริยธรรมเพื่อถอดถอน 3 สส.ก้าวไกล ระบุ 'จิรัฏฐ์' ทำเอกสารปลอม ส่วน 'วิโรจน์-ศุภณัฐ' นำข้อมูลเท็จเข้าระบบคอมพิวเตอร์-กล่าวหากองทัพ ติงก้าวไกลเลิกเล่นบทเหยื่อ


ที่มาภาพ: สำนักข่าวไทย

สำนักข่าวไทย รายงานเมื่อวันที่ 2 ก.พ. 2566 ว่าตัวแทนจากเพจ “วันนี้ก้าวไกลโกหกอะไร”  นำโดยนายทันกวินท์ รัฐวัฒก์อังกูร นายแทนคุณ จิตต์อิสระ และนายนิยม นพรัตน์ ยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อขอให้ดำเนินคดีอาญาและตรวจสอบจริยธรรม  สส.ก้าวไกล 3 คน ประกอบด้วย นายจิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศรและนายศุภณัฐ  มีนชัยนันท์ ซึ่งกระทำความผิดในขณะดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร

นายทันกวินท์ กล่าวว่า นายจิรัฏฐ์นำเอกสารใบสด.43 แสดงต่อสาธารณชน โดยระบุว่าเป็นเอกสารที่ออกโดยหน่วยงานราชการ พร้อมท้าให้ไปตรวจสอบลายเซ็นในปี 2554 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่นายจิรัฏฐ์ผ่อนผันทหารอยู่ ขณะที่หน่วยงานภาครัฐยืนยันว่าไม่ใช่เอกสารที่ออกโดยหน่วยงานราชการ จึงเกิดพิรุธว่าในช่วงเวลาที่นายจิรัฏฐ์กล่าวอ้าง เหตุใดจึงมีคำว่าหมายเลขดำอยู่บนเอกสารที่นำมาแสดง เรื่องนี้จึงไม่ใช่การซื้อใบสด.43 แต่เป็นการปลอมแปลงเอกสาร โดยที่นายจิรัฏฐ์ทราบดีอยู่แล้วว่าเอกสารนั้นเป็นอย่างไร จึงเข้าข่ายใช้เอกสารปลอมเผยแพร่ต่อสาธารณะ 

“นอกจากนี้ยังมีเรื่องของการนำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์จากการให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน เพราะข้อเท็จจริงคือหากไม่ได้รับการตรวจเลือกในวันที่ถูกเรียกตัว จะต้องได้รับคำพิพากษาจากศาลว่ากระทำความผิดอะไร และต้องเข้ารับราชการทหารทันทีโดยไม่มีสิทธิจับสลาก แต่นายจิรัฏฐ์อ้างว่าตนเองไปเสียค่าปรับแล้วกลับมาจับใบดำใบแดงได้ เป็นการให้ข้อมูลบิดเบือนที่ทำให้ประชาชนได้รับข้อมูลผิดพลาด จึงเป็นการกระทำความผิดทางอาญา” นายทันกวินท์ กล่าว

นายทันกวินท์ กล่าวว่า ส่วนนายวิโรจน์  พบข้อมูลว่าให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อมวลชน ที่นายวิโรจน์ตั้งคำถามว่าเมื่อชำระเงินหรือจ่ายเงินซื้อใบสด.43 ภาครัฐหรือกองทัพเป็นการฉ้อโกงหรือไม่ เหมือนเห็นด้วยที่นายจิรัฏฐ์จ่ายเงินแล้วจะต้องได้เอกสารจริง ทั้งที่นายวิโรจน์เป็นประธานคณะกรรมาธิการการทหาร สภาผู้แทนราษฎร มีอำนาจตรวจสอบเรื่องนี้ ไม่จำเป็นต้องท้าทายประชาชน ไม่จำเป็นต้องท้าทายสื่อมวลชนและกองทัพ แต่ดำเนินการได้เลย ดังนั้น ข้อกล่าวหาคำว่าฉ้อโกง เป็นการยืนยันว่านายวิโรจน์ และนายจิรัฏฐ์รู้อยู่แล้วว่ามีการจ่ายค่าปรับใบสด.43 ให้กับใคร และเมื่อไม่ได้เอกสารฉบับจริงแล้วจะไปฟ้องฐานฉ้อโกง เป็นการนำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์และหมิ่นประมาทกองทัพหรือไม่

“กรณีของนายศุภณัฐ พบว่าการให้สัมภาษณ์เมื่อวานนี้ (1 ก.พ.) กรณีซื้อขาย ใบสด.43 เกิดขึ้นจริง แต่ไม่ใช้อำนาจในการฟ้องขณะที่เป็น สส. แต่กลับกล่าวหากองทัพว่าซื้อขายใบ สด.43 ผมจึงจะใช้อำนาจของประชาชนตรวจสอบทั้ง 3 คน ซึ่งหลังจากยื่นร้อง ป.ป.ช.รอบนี้แล้ว ส่วนของนายจิรัฏฐ์จะจบที่ป.ป.ช. แต่กรณีนายวิโรจน์และนายศุภณัฐจะมีเรื่องของจริยธรรม จึงอยากเรียกร้องให้คณะกรรมการจริยธรรมสภาผู้แทนราษฎรตรวจสอบจริยธรรมว่าใช้ตำแหน่ง ใช้อำนาจสส.มาข่มเหง กล่าวหาและท้าทายประชาชนหรือไม่ ถ้าคณะกรรมการจริยธรรมไม่ปฏิบัติหน้าที่ ผมจะฟ้องคณะกรรมการจริยธรรมเช่นกัน และก่อนหน้านี้กองทัพได้บอกว่าจะร้องทุกข์  คงต้องรอว่าจะดำเนินการอย่างไร หากกองทัพไม่ดำเนินการก็จะฟ้องกลับทันทีเช่นกัน” นายทันกวินท์ กล่าว

นายทันกวินท์ กล่าวว่า ที่นายศุภณัฐไม่เอาเอกสารมาชี้แจง คงเพราะกลัวซ้ำรอยกับนายจิรัฏฐ์ จึงอยากให้เอาออกมาโชว์เพื่อจะได้ดำเนินการตามความผิดทางอาญา   และนายศุภณัฐเคยต้องคำพิพากษาจากการไม่ไปเกณฑ์ทหารเมื่อเดือนมิถุนายน ปี 2555 ส่วนของนายจิรัฏฐ์ก็เกิดขึ้น ปี 2555 แต่คำชี้แจงแตกต่างกัน เพราะนายศุภณัฐชี้แจงได้ชัดเจนว่าหลังต้องคำพิพากษาจะต้องไปแสดงตนเพื่อเข้ารับราชการทหารโดยไม่มีสิทธิ์จับสลากใบดำ ใบแดงแล้ว แต่นายจิรัฏฐ์เกิดขึ้นปี 2555 เช่นกันแต่กลับอ้างว่าจำไม่ได้

ด้านนายนิยม กล่าวว่า กรณีของนายจิรัฏฐ์ จากการตรวจสอบมั่นใจ 100%  ว่าไม่ได้เข้ารับการเกณฑ์ทหารและใช้เอกสารปลอมชี้แจงต่อสาธารณะ จึงมายื่นต่อป.ป.ช.เพื่อถอดถอน พร้อมมอบหลักฐานรวมถึงคำพิพากษาศาลและข้อกฎหมายต่าง ๆ ด้วย อยากฝากถึงสส.แบงค์ ซึ่งมีชื่อคนหนึ่งคล้ายสส. ถูกคำพิพากษาเมื่อปี 2555 จากกรณีไม่ได้เข้ารับการเกณฑ์ทหารและถูกตัดสินจำคุก แต่ให้รอลงอาญา 2 ปี และนายศุภณัฐท้าทายให้เปิดหลักฐาน ซึ่งหากไม่จริงก็ควรจะตอบคำถามมาว่า ไม่ได้หนีทหารและอยากให้นำเอกสารมาชี้แจง ไม่ใช่มาตั้งคำถามกลับ แล้วบอกจะฟ้อง

“ผมถามว่า สส.พรรคก้าวไกล ประชาชนห้ามถาม  ห้ามสงสัยใช่หรือไม่   ประชาชนห้ามตรวจสอบพวกคุณใช่หรือไม่ พวกคุณอยากให้ยกเลิกและต้องการแก้ไข ม.112 เพื่อจะตั้งคำถามกับสถาบัน แต่ผมถามคุณในฐานะประชาชนที่เห็นความไม่ปกติ ซึ่งเราได้ข้อมูลมาแบบนี้ คุณก็ต้องชี้แจงต่อสาธารณะว่าไปรับการเกณฑ์ทหารมาจริง และสิ่งที่พวกผมพูดเป็นการกล่าวหา เอาเอกสารใบสด.43 มายืนยัน ฝากถึงสส.แบงค์อย่าข่มขู่ประชาชน ฝากบอกสส.ก้าวไกล เลิกเล่นบทเหยื่อสักที เวลามีปัญหาอะไรจากการกระทำของพวกคุณเอง พอพวกเราออกมาตรวจสอบก็กล่าวหาว่าเป็นไอโอ กล่าวหาว่าเป็นกลุ่มที่ต้องการมาดิสเครดิต ซึ่งถ้าในอดีตไม่ทำพฤติกรรมแบบนี้ไว้ ใครจะมาตรวจสอบคุณได้ ถ้าไม่ผิดจะกลัวทำไม” นายนิยม กล่าว

นายนิยม กล่าวว่า วันนี้เพจก้าวไกลโกหกอะไร ตั้งคำถามถึงสส.แบงค์ว่าได้เข้ารับการตรวจเลือกการเกณฑ์ทหารหรือไม่ เพราะมีข้อมูลว่าถูกตัดสิทธิ์เมื่อปี 2555 และไม่ได้เข้ารับการเกณฑ์ทหารและรอการกำหนดโทษ หากแน่จริงก็เอาใบสด.43 ออกมาโชว์  แบบนายจิรัฏฐ์ เพราะเราอยากเห็น

“ผมมั่นใจในหลักฐานที่มีอยู่ ที่พรรคก้าวไกลบอกว่าคนเท่าเทียมกัน แต่เมื่อวานคุณให้สัมภาษณ์ว่าสส.มีตัวเล็ก ตัวใหญ่ นี่เป็นความไม่เท่าเทียมของพรรคคุณ และกำลังสะท้อนให้เห็นความเหลื่อมล้ำของสังคม เพราะคุณเป็นลูกคนมีเงิน ไม่ต้องเข้ารับการเกณฑ์ทหาร อันนี้เป็นความเหลื่อมล้ำ ใช้อำนาจอื่นเข้ามาช่วยเหลือ และฝากถึงกองเชียร์พรรคก้าวไกลด้วยว่าเห็นความเหลื่อมล้ำหรือไม่” นายนิยม กล่าว

ส่วนนายแทนคุณ กล่าวว่า หน้าที่เปิดโปงเป็นหน้าที่ของสส.ฝ่ายค้าน และขออย่ารอช้า การมายื่นหนังสือวันนี้มาในนามส่วนตัว ไม่เกี่ยวข้องกับพรรคประชาธิปัตย์ หลังมีคนมาขอให้สอย  สส.พรรคก้าวไกลเดือนละคน

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net