Skip to main content
sharethis

'ก้าวไกล' น้อมรับข้อวิจารณ์ แต่งตั้งญาติเป็นผู้ช่วย สส. พร้อมทบทวนหารือวางมาตรฐาน - ติดตามคดี 'ทนายเคน' อดีตว่าที่ผู้สมัคร สส. แพร่ โดนรถเฉี่ยวชนเสียชีวิต ชี้ ตร.งดสอบสวน หาตัวคนผิดไม่ได้ เตรียมร้องอัยการขอให้สอบเพิ่ม

วันที่ 24 พ.ย. 2566 ทีมสื่อพรรคก้าวไกลแจ้งข่าวว่าอภิชาติ ศิริสุนทร เลขาธิการพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีมีข้อวิพากษ์วิจารณ์เรื่องการแต่งตั้งคนในเครือญาติเป็นผู้ช่วย สส. ว่าพรรคก้าวไกลยืนยันว่าพรรคไม่ได้ปล่อยปละละเลยเรื่องการแต่งตั้งผู้ช่วย สส. และทุกคนในพรรคเข้าใจตรงกันว่าการตัดสินใจแต่งตั้งคนในเครือญาติเข้ามาทำงานในทีม ย่อมเป็นสิ่งที่จะถูกสังคมตั้งคำถามและตรวจสอบถึงเหตุผล โดยเราได้ให้นโยบายกับ สส. อย่างชัดเจนว่าจะต้องไม่มีการแต่งตั้งญาติพี่น้องเป็นผู้ช่วย สส. โดยมารับเงินเพียงอย่างเดียว แต่หากจำเป็นต้องพิจารณาแต่งตั้งคนในครอบครัว จะทำได้ ต่อเมื่อบุคคลนั้นได้รับการคัดเลือกจากความเหมาะสมและความสามารถในการปฏิบัติหน้าที่ตามที่ได้รับมอบหมาย เข้ามาทำงานจริงด้วยความพร้อมและความทุ่มเท เพื่อให้งานของ สส. ซึ่งต้องประสานกับประชาชนและหน่วยงานต่างๆ สำเร็จลุล่วง

อย่างก็ไรตาม พรรคก้าวไกลรับฟังและเข้าใจข้อวิพากษ์วิจารณ์ของสังคมที่ตั้งคำถามถึงความเหมาะสมของแนวทางดังกล่าว เราขอน้อมรับและจะนำทุกความเห็นมาพูดคุยภายในพรรคเพื่อพิจารณาทบทวนวางมาตรฐานเรื่องนี้ต่อไปโดยเร็ว

รอง หน.พรรคก้าวไกล ติดตามคดี “ทนายเคน” อดีตว่าที่ผู้สมัคร สส. แพร่ โดนรถเฉี่ยวชนเสียชีวิต ชี้ ตร.งดสอบสวน หาตัวคนผิดไม่ได้ เตรียมร้องอัยการขอให้สอบเพิ่ม

ณัฐวุฒิ บัวประทุม สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ความคืบหน้าหลังลงพื้นที่ จ.แพร่ ติดตามกรณีติรานนท์ เวียงธรรม หรือทนายเคน อดีตว่าที่ผู้สมัคร สส.พรรคก้าวไกล จ.แพร่ เขต 1 ประสบเหตุโดนรถเฉี่ยวชนจนเสียชีวิต ก่อนวันเปิดรับสมัคร สส. ไม่กี่วัน โดยครอบครัวและทางพรรคมีข้อสงสัยว่าอาจมีการวางแผนตั้งใจชน เพื่อประโยชน์ทางการเมือง คดีผ่านมา 8 เดือน ตำรวจเพิ่งสรุปสำนวนเห็นควรงดสอบสวนส่งอัยการ แต่ยังมีข้อสงสัยหลายประการ เตรียมยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมต่ออัยการจังหวัดและผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.แพร่ เพื่อให้สอบเพิ่ม ให้ทุกข้อสงสัยได้รับการพิสูจน์ คืนความเป็นธรรมให้ “ทนายเคน”

โดยณัฐวุฒิฯ พร้อมครอบครัวทนายเคน และคณะทำงานพรรคก้าวไกล จ.แพร่ ได้เข้าพบ พ.ต.ท.ทนง ผาเพียว รองผู้กำกับการ (สอบสวน) และ พ.ต.ต.ชาติสยาม แจ่มรัตนโสภิณ พนักงานสอบสวนเจ้าของสำนวน ที่ สภ.สูงเม่น ได้รับคำชี้แจงว่าคดีนี้ ตำรวจสอบปากคำพยานบุคคลไปกว่า 20 ปาก พร้อมส่งหลักฐานทั้งภาพจากกล้องวงจรปิด หลักฐานการใช้โทรศัพท์ของบุคคลในบริเวณเกิดเหตุ สีที่ติดอยู่กับรถจักรยานยนต์คันเกิดเหตุ และผลการชันสูตรศพให้กับทางตำรวจพิสูจน์หลักฐานและสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ให้ความเห็นกลับมา เชื่อได้ว่าเป็นเหตุที่มีคู่กรณีในการเฉี่ยวชนจริง แต่ยังไม่อาจระบุได้ว่าเป็นรถคันใดและบุคคลใดเป็นคนขับ โดยได้ตั้งข้อหาความผิดฐาน “ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายและทรัพย์สินเสียหาย ขับรถในทางก่อให้เกิดความเสียหายแก่บุคคลหรือทรัพย์สินของผู้อื่น ไม่หยุดรถให้ความช่วยเหลือ ไม่แสดงตัวและแจ้งเหตุต่อตำรวจที่ใกล้เคียงทันที” แต่ในเมื่อยังหาตัวคนกระทำผิดไม่ได้และระยะเวลาผ่านมาพอสมควร ในชั้นนี้จึงได้เสนอผู้บังคับบัญชาและผู้บังคับบัญชาเห็นชอบ โดยสรุปสำนวนเห็นควรงดสอบสวนไว้ก่อนตาม ป.วิ.อาญา มาตรา 140 (1) วรรคสอง และได้ส่งสำนวนให้พนักงานอัยการ จ.แพร่ ไปแล้ว เมื่อวันที่ 25 ต.ค. ที่ผ่านมา

หลังจากนั้น ณัฐวุฒิ พร้อมด้วยครอบครัวทนายเคน ได้เข้าพบตัวแทนพนักงานอัยการ จ.แพร่ เพื่อสอบถามความคืบหน้าและคำแนะนำทางกฏหมาย โดยณัฐวุฒิให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่า จากที่ได้รับคำชี้แจงจากตำรวจ ยังมีข้อมูลหลายประการที่ยังไม่ได้สอบ ทั้งพยานบุคคลสองคนที่ขับรถตามทนายเคนมา และอยู่ใกล้ชิดกับเหตุการณ์มากที่สุด และปรากฏภาพในกล้องวงจรปิด แต่ยังไม่ทราบว่าบุคคลสองคนดังกล่าวคือใคร รถยนต์ต้องสงสัยที่คาดว่าเป็นรถกระบะยี่ห้อหนึ่ง ที่ตำรวจเองก็สอบรถต้องสงสัยไปหลายคัน แต่ยังไม่เจอคันที่อาจถูกใช้ก่อเหตุ ข้อมูลสัญญาณโทรศัพท์ว่ามีเบอร์ของใครปรากฏในเวลาและสถานที่ขณะเกิดเหตุบ้าง กล้องวงจรปิดในถนนเส้นอื่นๆ ที่ใกล้เคียง รวมถึงมีบุคคลแปลกหน้าที่ปรากฏตัวในบริเวณร้านค้าของครอบครัวทนายเคนหลังเกิดเหตุ ซึ่งสร้างความกลัวให้กับครอบครัวหลายครั้ง ข้อมูลเหล่านี้ยังไม่ได้ปรากฏในสำนวน และคงยากที่จะได้มา อย่างเช่นภาพจากกล้องวงจรปิด เพราะเหตุการณ์ผ่านมาหลายเดือนแล้ว อย่างไรก็ตาม เราเองยังมีความหวัง เพราะทางอัยการแจ้งว่าได้ส่งสำนวนกลับไปให้ทางตำรวจสอบสวนเพิ่ม

ทั้งนี้เพื่อให้ทุกข้อสงสัยได้รับการพิสูจน์ ทางพรรคก้าวไกล ครอบครัวทนายเคน และคณะทำงานพรรคก้าวไกล จ.แพร่ จะได้ยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมต่ออัยการจังหวัดแพร่และผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดแพร่ เพื่อให้ดำเนินการสอบสวนเพิ่มเติมในประเด็นที่ยังไม่มีความกระจ่างชัด หรือในประเด็นที่เห็นว่าทางตำรวจยังไม่ได้มีการรวบรวมพยานหลักฐานในส่วนนั้น

“ทางพรรคมิได้นิ่งนอนใจ ตั้งแต่เกิดเหตุ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกลในขณะนั้น และชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคคนปัจจุบัน ได้ลงพื้นที่ไปติดตามเรื่องนี้ด้วยตนเอง และกำชับให้ติดตามคดีจนถึงที่สุด โดยหากท่านใดมีข้อมูลหรือพยานหลักฐานใดๆ ที่อาจเป็นประโยชน์ สามารถแจ้งกลับทีมงานของพรรคในพื้นที่ จ.แพร่ ได้ โดยทางพรรคมิได้มองว่าเรื่องนี้อาจมีเหตุจูงใจมาจากทางการเมืองอย่างเดียว และเห็นถึงความพยายามในการรวบรวมพยานหลักฐานของตำรวจ แต่เมื่อยังมีข้อสงสัย เราเองก็อยากทำความจริงให้กระจ่าง คืนความเป็นธรรมให้กับผู้สูญเสียให้มากที่สุด และเป็นบรรทัดฐานในคดีอื่นๆ ที่อาจมีข้อเท็จจริงที่ใกล้เคียงกัน” ณัฐวุฒิกล่าวในที่สุด

โดย “ทนายเคน” หรือ ติรานนท์ เวียงธรรม เป็นอดีตว่าที่ผู้สมัคร สส.พรรคก้าวไกล จ.แพร่ เขต 1 เป็นคน อ.สูงเม่น จ.แพร่ เป็นทนายที่ทำงานใกล้ชิดกับประชาชนจนได้รับสมญาว่า “ทนายคนจน” หลังจากได้รับการเปิดตัวเป็นผู้สมัคร สส. ได้ลงพื้นที่หาเสียงมาโดยตลอด และในคืนเกิดเหตุวันที่ 25 ก.พ. 2566 ไปร่วมงานประจำปีที่วัดพระหลวง ด้วยรถจักรยานยนต์และกำลังเดินทางกลับที่พรรค แต่มาประสบเหตุที่ถนนบริเวณหน้าสุสานต้นผึ้ง หมู่ 8 ต.สูงเม่น อ.สูงเม่น จ.แพร่ ผู้มาประสบเหตุพบรถจักรยานยนต์ล้มอยู่ และทนายเคนได้รับบาดเจ็บสาหัส ก่อนเสียชีวิตในเวลาต่อมาที่ รพ.แพร่ โดยจนปัจจุบันยังไม่อาจพิสูจน์ได้ชัดว่าเกิดอุบัติเหตุเองหรือมีรถเฉี่ยวชน และหากเป็นกรณีเฉี่ยวชนเป็นอุบัติเหตุหรือด้วยความตั้งใจ เป็นคำถามที่ยังคาใจครอบครัวและพี่น้องประชาชนที่ติดตามข่าวมาจนถึงปัจจุบัน

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net