Skip to main content
sharethis

มูลนิธิผสานวัฒนธรรมเผย 25 ต.ค 66 นี้ ศาลมณทลทหารบกที่ 46 นัดฟังคำพิพากษาคดี 'พลทหารวิเชียร เผือกสม'

มูลนิธิผสานวัฒนธรรม แจ้งข่าว่าวันที่ 25 ต.ค 2566 เวลา  09.00 น. นี้ ร่วมฟังคำพิพากษาของคดีพลทหารวิเชียร เผือกสม ที่ ศาลมณทลทหารบกที่ 46 หลังจากที่พลทหารวิเชียรฯ ถูกเจ้าหน้าที่ทหารกระทำการละเมิดซ้อมทรมาน เป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย เมื่อปี 2554  ที่ค่ายกรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ อำเภอเจาะไอร้อง จังหวัดนราธิวาส ปัจจุบันเป็นเวลากว่า 13 ปี ที่ครอบครัวของผู้ตายยังไม่ได้รับความเป็นธรรม

คดีนี้สืบเนื่องจากพลทหารวิเชียร เผือกสม ซึ่งเป็นพลทหารกองประจำการ ผลัดที่ 1/2554 สังกัด ร.151 พัน.3 ถูกกระทำการละเมิดซ้อมทรมานโดยเจ้าหน้าที่ทหารรวม 9 คน ณ ค่ายกรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ อำเภอเจาะไอร้อง จังหวัดนราธิวาสทหารซึ่งเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตายจากการบาดเจ็บสาหัส ไตวายเฉียบพลันและ กล้ามเนื้อได้รับบาดเจ็บอย่างรุนแรงในวันที่ 5 มิ.ย. 2554 ต่อมาพนักงานอัยการศาลทหารเป็นโจทก์ ยื่นฟ้องนายทหารยศร้อยโทกับเจ้าหน้าที่ทหารรวม 9 คน เป็นจำเลย ในคดีดำที่ 41 ก./ 2563 ในความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เป็นทหารไม่ปฏิบัติตามคำสั่งผู้บังคับบัญชา และฆ่าผู้อื่นโดยไม่เจตนา 

ที่ผ่านมา ศาลมณฑลทหารบกที่ 46 ได้สืบพยานมารดาของพลทหารวิเชียรฯ ,พลทหารที่ค่ายจำนวนหลายปากซึ่งเป็นประจักษ์พยานในที่เกิดเหตุ ,แพทย์ผู้เชี่ยวชาญประจำโรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ขณะเกิดเหตุ ,ผู้ชันสูตรศพของผู้ตายในวันเกิดเหตุขึ้นเบิกความยืนยันในประเด็นผลชันสูตร ,เจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. ซึ่งเป็นคณะอนุกรรมการป.ป.ท ที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงในคดีนี้และได้วินิจฉัยชี้มูลว่าจำเลยมีความผิด ขึ้นเบิกความเพื่อยืนยันถึงรายละเอียดและข้อเท็จจริงของการสอบสวนในชั้นป.ป.ท. รวมถึงการชี้มูลและแจ้งข้อกล่าวหาจำเลย ต่อมาศาลได้แถลงว่าได้ข้อเท็จจริงครบถ้วนแล้ว อย่างไรก็ตามเนื่องจากคดีนี้เป็นระบบไต่สวน ศาลอาจมีการนัดสืบพยานเพิ่มเติมหากยังคงมีข้อสงสัยในประเด็นใดระหว่างการเขียนคำวินิจฉัย โดยจะแจ้งให้ทราบล่วงหน้าต่อไป โดยศาลนัดฟังคำพิพากษาเมื่อวันที่ 25 ส.ค ที่ผ่านมา แต่ปรากฏว่า ศาลได้แจ้งให้คู่ความทราบในวันนัดว่า  มีปัญหาข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายต้องพิจารณาอย่างละเอียดรอบคอบ จึงให้เลื่อนนัดฟังคำพิพากษาไปเป็นวันที่ 25 ตุลาคม 2566 

คดีนี้เป็นคดีซ้อมทรมานโดยเจ้าหน้าที่ทหารผู้สังกัดอยู่ในราชการทหาร การพิจารณาคดีจึงอยู่ในอำนาจของศาลทหาร ซึ่งจะมีความแตกต่างการการพิจารณาคดีในศาลยุติธรรมทั่วไป คดีนี้จะสิ้นสุดที่ชั้นเดียวและจะไม่สามารถอุทธรณ์หรือฎีกาต่อไปได้ คดีถือเป็นที่สุด 
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net