"ประเสริฐ" เสขาธิการพรรคเพื่อไทย มองข้อเสนอของพรรคก้าวไกล แก้ไข มาตรา 272 ไม่ง่าย เชื่อ ส.ว.ตั้งการ์ดสูง ส่วนเสนอชื่อ 'พิธา' โหวตลงมติรับรองเป็นนายกฯ รอบสอง ขอหารือกับก้าวไกล เย็นนี้
14 ก.ค. 2566 เฟซบุ๊กเพจ "สำนักข่าวราษฎร" ถ่ายทอดสดวันนี้ (14 ก.ค.) เมื่อเวลาประมาณ 11.30 น. ประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า พรรคเพื่อไทย เคยยื่นแก้รัฐธรรมนูญ มาตรา 272 ไป 2 ครั้งแล้ว แต่ไม่ผ่านการพิจารณาของรัฐสภา เลยมองว่าความเคลื่อนไหวของพรรคก้าวไกลในการยื่นแก้ไข มาตรา 272 ครั้งนี้เป็นการ "ทลายกำแพง" โดยเฉพาะประเด็นที่มีการโหวตนายกฯ เมื่อวานนี้ (13 ก.ค.) ทาง ส.ว. ได้ตั้งกำแพงมาตรา 112 ไว้ เพราะฉะนั้นเข้าใจว่าทางก้าวไกลคงจะอยากหยิบยกประเด็นนี้ขึ้นมา เพื่อให้เรื่องการโหวตนายกฯ เป็นเรื่องของในสภาเพียงอย่างเดียว
เลขาฯ พรรคเพื่อไทย กล่าวต่อว่า วันนี้มีพูดคุยกับพรรคก้าวไกลแล้วนัดหมายเวลา 17.00 น. จะมีการคุยเรื่องแนวทางเลือกนายกฯ ที่จะเกิดขึ้นในสัปดาห์หน้า เมื่อสักครู่ สอบถามไปยังประธานสภาฯ เบื้องต้น น่าจะเป็นวันที่ 19 ก.ค. 2566 นอกจากนี้ เลขาฯ เพื่อไทย ระบุด้วยว่าจะมาคุยกันในพรรคกันก่อน ก่อนที่จะไปหารือกับพรรคก้าวไกล
เลขาฯ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ถ้าแก้ไขมาตรา 272 ได้ เป็นเรื่องดี แต่ต้องใช้เสียงของรัฐสภาเกินกว่ากึ่งหนึ่ง และในกึ่งหนึ่งต้องมีเสียงของวุฒิสภาอย่างน้อย 84 เสียง
"ที่ผ่านมาพรรคเพื่อไทยเคยทำมาแล้ว และไม่ง่าย ไม่เคยได้เสียงของวุฒิสภาถึง ครั้งนี้ผมยังเข้าใจว่า วุฒิสภาจะตั้งกำแพงสูงในเรื่องนี้ไว้ด้วยว่า การแก้ไข คงไม่ได้ง่ายนัก" ประเสริฐ กล่าว
ทั้งนี้ รัฐธรรมนูญ มาตรา 272 ระบุว่า 5 ปีแรก รัฐสภาชุดแรกตามรัฐธรรมนูญนี้ การให้ความเห็นชอบบุคคลซึ่งสมควรได้รับการแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี ให้ดำเนินการมาตรา 159 เว้นแต่การพิจารณาให้ความเห็นชอบตามมาตรา 159 วรรคหนึ่ง ให้กระทำในที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภา และมติที่เห็นชอบการแต่งตั้งบุคคลใดให้เป็นนายกรัฐมนตรี ตามมาตรา 159 วรรคสาม ต้องมีคะแนนเสียงมากกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของทั้ง 2 สภา
ในระหว่างเวลาตามวรรคหนึ่ง หากมีกรณีที่ไม่อาจแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีจากผู้มีชื่ออยู่ในบัญชีรายชื่อที่พรรคการเมืองแจ้งไว้ตามมาตรา 88 ไม่ว่าด้วยเหตุใด และสมาชิกของทั้งสองสภารวมกันจำนวนไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของทั้งสองสภาเข้าชื่อเสนอต่อประธานรัฐสภาขอให้รัฐสภามีมติยกเว้นเพื่อไม่ต้องเสนอชื่อนายกรัฐมนตรีจากผู้มีชื่ออยู่ในบัญชีรายชื่อที่พรรคการเมืองแจ้งไว้ตามมาตรา 88 ในกรณีเช่นนั้น ให้ประธานรัฐสภาจัดให้มีการประชุมร่วมกันของรัฐสภาโดยพลัน และในกรณีที่รัฐสภามีมติด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่าสองในสามของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของทั้งสองสภาให้ยกเว้นได้ ให้ดำเนินการตามวรรคหนึ่งต่อไป โดยจะเสนอชื่อผู้อยู่ในบัญชีรายชื่อที่พรรคการเมืองแจ้งไว้ตามมาตรา 88 หรือไม่ก็ได้
เสนอ 'พิธา' เป็นนายกฯ ขอหารือกับก้าวไกล ก่อน
ประเสริฐ เชื่อว่า เสียง ส.ว.ที่สนับสนุนพิธา เป็นนายกฯ จำนวน 13 เสียงครั้งแรก ครั้งหน้าก็ยังสนับสนุนพิธา อยู่ เนื่องจากมองว่าพวกเขาน่าจะตั้งใจไว้แล้ว และน่าจะมองการเมืองอีกมุมหนึ่ง เพราะฉะนั้น แล้วคิดว่าน่าจะยังอยู่
ประเสริฐ กล่าวว่า จริงๆ แล้วที่ก้าวไกลหาเสียงสนับสนุนจาก ส.ว. ส่วนตัวคิดว่าเขาพยายามเต็มที่แล้ว เพราะฉะนั้น ขอคุยกับก้าวไกลก่อนว่าจะทำอย่างไรต่อไป
ประเสริฐ มองต่อว่า ถ้าดูการโหวตฯ วานนี้ และจะโหวตในวันที่ 19 ก.ค. ครั้งที่ 2 ถ้าไม่มีข้อมูลใหม่ หรืออะไรเพิ่มเติม คะแนนโหวตน่าจะใกล้เคียงกับวันที่ 13 ก.ค. ไม่น่าจะเปลี่ยนไปมาก
เลขาฯ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า เรื่องมาตรา 112 น่าจะคุยกับพรรคก้าวไกล เพราะว่าเมื่อวานนี้หลักคือมาตรา 112 มองว่าก้าวไกล รู้โจทย์อยู่แล้ว
เลขาฯ พรรคเพื่อไทย ระบุต่อว่า การหารือจะเริ่มจาก 2 พรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาลก่อน จากนั้น เมื่อ 2 พรรคได้คุยกันแล้ว จะมีต้องหารือในระดับ 8 พรรคต่อไป
ท้ายที่สุดแล้ว ถ้าโหวตฯ รอบที่ 2-3 พิธาไม่ได้รับการรับรอง จะมีการเปิดทางให้เสนอนายกฯ จากพรรคร่วมรัฐบาลอื่นๆ หรือไม่ เลขาฯ พรรคเพื่อไทย ระบุว่า ต้องขอคุยกับพรรคก้าวไกล ก่อนว่าจะทำอย่างไรต่อไป อาจจะเร็วเกินไปที่จะให้ความเห็น
ต่อประเด็นที่หากเสนอชื่อพิธา เป็นนายกฯ อีกจะขัดข้อกฎหมายหรือไม่ เลขาฯ พรรคเพื่อไทย มองว่า ถ้าดูข้อบังคับมีการระบุว่า ต้องให้ประธานสภาฯ เป็นผู้ตัดสินใจ และวินิจฉัย ถ้าการเสนอญัตติมีสถานการณ์ และข้อมูลที่เปลี่ยนไป คิดว่าอำนาจประธานคงจะชี้ได้ ไม่น่าเป็นอุปสรรค
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)