'เพื่อไทย' แถลงข่าวพบพิรุษส่อแววผิดกฎหมายเลือกตั้ง 3 เขต เขต 2 พังงา, เขต 7 บุรีรัมย์ และเขต 10 ชลบุรี ร้อง กกต.แล้วพร้อมมอบหลักฐาน แต่ไร้ความคืบหน้า จี้เร่งตรวจสอบ แพ้-ชนะไม่เป็นไร ขอให้การเลือกตั้งโปร่งใส 

13 มิ.ย. 2566 ทีมสื่อเพื่อไทย รายงานว่า วันนี้ (13 มิ.ย.) นายชุมสาย ศรียาภัย รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย พร้อม กฤษ ศรีฟ้า ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) จังหวัดพังงา พรรคเพื่อไทย พนธกร ใคร่ครวญ ผู้สมัคร ส.ส. ชลบุรี พรรคเพื่อไทย และพรรณธนู วรรณกางซ้าย ผู้สมัคร ส.ส.บุรีรัมย์ พรรคเพื่อไทย ร่วมแถลงข่าว

ชุมสาย ศรียาภัย รองเลขาธิการ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า พบความไม่ชอบมาพากลในการทำผิดกฎหมายเลือกตั้งในพื้นที่การเลือกตั้ง 3 เขต ประกอบด้วย พังงา เขต 2, เขต 7 บุรีรัมย์ และเขต 10 ชลบุรี โดยหลังจากการเลือกตั้งแล้ว ได้มีการตรวจสอบและพบเห็นการกระทำผิดตามกฎหมายเลือกตั้ง โดยมีพฤติการณ์มีพยานหลักฐาน เอกสาร และข้อเท็จจริงอื่นๆ ซึ่งได้มีการทำเรื่องร้องคัดค้านการเลือกตั้งไปยัง กกต.จังหวัด และ กกต.ส่วนกลางแล้ว แต่ปัจจุบันยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ จึงได้พูดคุยหารือกันในมาตรา 140 ของ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสภาผู้แทนราษฎร ปี 2561 ซึ่งผู้มีสิทธิเลือกตั้ง มีสิทธิยื่นคัดค้าน กกต.ในเขตที่สมัครภายใน 30 วันนับแต่การประกาศวันเลือกตั้ง

"พรรคเพื่อไทยไม่ได้ทอดทิ้งผู้สมัครในทุกเขต อยากให้ กกต.ระดับจังหวัดหรือส่วนกลาง อย่าได้เกรงกลัวอิทธิพลใดๆ ต้องปฏิบัติตามกฎหมายกฎระเบียบอย่างเคร่งครัด" ชุมสาย กล่าว

ชุมสาย ศรียาภัย (ซ้าย) และ กฤษ ศรีฟ้า (ขวา)

กฤษ ศรีฟ้า ผู้สมัคร ส.ส.พังงา เขต 2 พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ได้ยื่นเรื่องต่อ กกต.จังหวัดในประเด็นการกระทำที่ส่อถึงความไม่สุจริตเที่ยงธรรม ไปเมื่อวันที่ 19 พ.ค.ที่ผ่านมา โดยเฉพาะการนับคะแนนที่ไม่ถูกต้องตามระเบียบการนับคะแนนของ กกต. เช่น

1. การไม่จัดให้มีการนับคะแนนให้ประชาชนเห็นได้ชัดเจน จนไม่สามารถร้องคัดค้านได้
2. การนับคะแนนไกลมากจากผู้ใช้สิทธิ์ใช้เสียง โดยมีเชือกมากั้นไว้
3. ห้ามไม่ให้มีการถ่ายรูป ถ่ายคลิปวิดีโอต่างๆ
4. ไม่มีการยกบัตรขึ้นมา เพื่อจะให้พี่น้องประชาชนในหลายหน่วย
5. การวินิจฉัยบัตรดี บัตรเสีย ได้โดยคนคนเดียว คือคนที่ยกขึ้นมา คนอื่นไม่ได้มีส่วนร่วม
6. บัตรเสีย ไม่ได้มีการลงนามเห็นชอบร่วมกันว่าเสียด้วยสาเหตุอะไร

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 10 มิ.ย. 2566 จังหวัดพังงา เขต 2 มีการนับคะแนนใหม่ แต่เป็นการนับคะแนนจากบัตรบัญชีรายชื่อ เราร้องเรียนให้มีการนับคะแนนบัตรแบบแบ่งเขต ซึ่งไม่สอดคล้องกับสิ่งที่ร้องขอไป นอกจากนี้ ยังมีเรื่องการซื้อสิทธิขายเสียง ซึ่งได้ยื่นร้องเรียนและหลักฐานต่อ กกต.เมื่อต้นเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา มีทั้งพยานบุคคล พยานวัตถุ และคลิปเสียง

พนธกร ใคร่ครวญ ผู้สมัคร ส.ส. ชลบุรี เขต 10 พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การเลือกตั้งเมื่อวันที่ 14 พ.ค.ที่ผ่านมา มีการตรวจพบการทุจริตในหลายประการ ซึ่งตนแพ้เป็นอันดับ 2 ไป 74 คะแนน ความผิดปกตินี้เกิดขึ้นตอนที่ลงคะแนนแล้ว มีบางหน่วยเลือกตั้งที่บัตรเลือกตั้งไม่เพียงพอ ทำให้ประชาชนต้องรออยู่เป็นชั่วโมง และยังพบว่าเจ้าหน้าที่ได้เอาบัตรเลือกตั้งออกนอกหน่วย ซึ่งเป็นความผิด ซึ่งตนมีหลักฐานทั้งเอกสาร และคลิป

นอกจากนี้ ยังมีประเด็นการนับคะแนนที่ล่าช้า ซึ่งพบว่าเขต 10 จ.สัตหีบ นับคะแนนช้าเป็นอันดับต้นๆ องประเทศ โดยนับคะแนนเสร็จ 6.00 น. และยังมีเหตุส่อบัตรเขย่งที่เกินมา 4,995 คะแนน ซึ่งการประกาศนับคะแนนใหม่ 47 หน่วยที่ผ่านมา ไม่มีเขต 10 ชลบุรี จึงขอเรียกร้องความยุติธรรม

"เลือกตั้งผลแพ้-ชนะ เรารับได้เป็นเรื่องธรรมดา เพียงแต่กระบวนการการตัดสินต้องมาจากกระบวนการที่ถูกต้อง ยุติธรรมและที่สำคัญต้องโปร่งใส ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่า กกต.จะรับไปพิจารณาไปอย่างเร็วที่สุด" พนธกร กล่าว

พรรณธนู วรรณกางซ้าย ผู้สมัคร ส.ส.บุรีรัมย์ เขต 7 พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ในเขต 7 บุรีรัมย์ มีการแก้ไขคะแนนที่ขึ้นกระดานถึง 3 ครั้ง เกิดความล่าช้าจากการส่งหีบบัตร บัตรเลือกตั้งถึงที่หมายประมาณตีสอง ทั้งที่เสร็จแล้วตั้งแต่ 3 ทุ่ม ส่วนหีบบัตรที่นำมาส่งก็ไม่มีสายรัด จำนวนบัตรเลือกตั้ง ส.ส. บางหน่วย ไม่ตรงกับที่ประกาศในเว็บไซต์ ซึ่งหลังจากนี้ตนจะยื่นเรื่องต่อ กกต.ส่วนกลาง เพื่อขอเอกสารและหลักฐานอื่นๆอีกครั้ง เพราะก่อนหน้านี้ได้มีการยื่นเรื่องไปแล้ว แต่ กกต.ไม่ได้ให้ความร่วมมือและโยนงานกันไปมาระหว่างท้องถิ่น และส่วนกลาง ซึ่งตนขอเรียกร้องความยุติธรรมในการเลือกตั้งครั้งนี้