Skip to main content
sharethis

'เพื่อไทย' จัดประชุมถอดบทเรียนหลังเลือกตั้ง ให้กำลังใจผู้สมัคร ส.ส.- ยินดี ส.ส. ชนะเลือกตั้ง ‘แพทองธาร’ ชี้แพ้เลือกตั้งครั้งนี้ไม่ใช่การล่มสลาย พร้อมเรียนรู้ปรับตัว เดินหน้าทำงานต่อไป ยันหนุน 'ก้าวไกล' จัดตั้งรัฐบาลให้สำเร็จ ไม่มีรอหวังส้มหล่น ‘เศรษฐา’ พร้อมทำงานการเมืองต่อ ให้เกียรติผู้ชนะจัดตั้งรัฐบาล 

24 พ.ค. 2566 ทีมสื่อพรรคเพื่อไทย รายงานต่อสื่อมวลชนว่า วันนี้ (24 พ.ค.) เวลา 10.30 น. พรรคเพื่อไทย จัดงาน ‘ประสานกำลังใจ เดินหน้าต่อไป เพื่อประชาชน’ ที่ทำการพรรคเพื่อไทย โดยมี ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรค ประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรค แพทองธาร ชินวัตร และเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคพร้อมด้วยแกนนำพรรค ผู้สมัคร ส.ส. ว่าที่ ส.ส. และทีมงานพรรคเพื่อไทย รวมกว่า 500 คน เพื่อให้กำลังใจและแสดงความยินดีกับการทำงานอย่างหนักในช่วงของการเลือกตั้งที่ผ่านมา 

แพทองธาร กล่าวว่า ในฐานะที่พรรคเพื่อไทยชนะเลือกตั้งอันดับสอง เราพร้อมที่จะสนับสนุน Support พรรคที่ชนะอันดับหนึ่งเสมอ เราไม่มีรอหวังส้มหล่น เราจะช่วยให้พรรคก้าวไกลจัดตั้งรัฐบาลให้สำเร็จ ครั้งนี้เรามาร่วมทำงานกันต่อไป หากการเลือกตั้งครั้งหน้ามาถึง เราจะทำอะไรให้ดีขึ้นบ้าง พร้อมขอให้ผู้สมัครใช้โซเชียลมีเดียให้มากขึ้น แต่การลงพื้นที่เล็กๆ การใกล้ชิดประชาชนยังมีความจำเป็นอยู่เช่นกัน ขอขอบคุณผู้สมัครทุกคนที่ทุ่มเททำงานกันอย่างหนักทุ่มเทแรงกายแรงใจมาโดยตลอด เพราะจะอีกกี่ปี โซเชียลมีเดียยังคงมีความสำคัญ อยากให้ทุกคนมั่นใจว่าปราบมือให้ตัวเอง และเพื่อนๆ เราภูมิใจในพรรคเรา และภูมิใจในตัวเองด้วย 

เศรษฐา กล่าวว่า ตนในฐานะน้องใหม่ในเวทีการเมือง มีความซาบซึ้ง และขอขอบคุณผู้สมัครและทีมงานทุกคนจากใจ การเข้ามาในบ้านหลังใหม่และได้รับการต้อนรับ การตอบรับและได้รับการดูแลอย่างดีกว่าที่คิดไว้มาก ที่ผ่านมาในการปราศรัยลงพื้นที่เราประคับประคองกันเวลาขึ้นเวที ตนขอขอบคุณทุกคน ตนเสียดายที่หนึ่งวันไม่ได้มี 48 ชั่วโมง  หากมีเวลามากกว่านี้ ตนพร้อมทำเต็มที่ และจากนี้ไม่ได้หนีไปไหน เรายังคงเดินหน้าทำงานและให้เกียรติผู้ชนะ และน้อมรับทุกคำวิจารณ์

ภายหลังการสัมมนาเสร็จสิ้น ชลน่าน กล่าวว่า การจัดงานดังกล่าว เพื่อเป็นการขอบคุณ ผู้สมัคร ส.ส.ทั้งแบบเขต และแบบบัญชีรายชื่อ รวมทั้งทีมงานทั้งหมด และให้กำลังใจทุกคนที่สามารถทำงานได้เป็นอย่างดียิ่ง เนื่องจากผู้สมัครหลายเขต ทำพื้นที่ทำงานอย่างหนัก แม้ไม่ได้รับการตอบรับจากประชาชนก็ตาม  สำหรับการจัดงานครั้งนี้  มี 3 ประเด็นหลักที่ได้นำเสนอ ได้แก่ 

1. ทิศทางการทำงานของพรรคต่อไป ยังคงยืนยันที่จะก้าวต่อไป เพื่อประชาชน 

2. สถานะของเพื่อไทย ที่เตรียมการทำงานในสภา

3. เน้นย้ำการประเมินผลการเลือกตั้ง โดยไก้มีการตั้งคณะกรรมการประเมินผลการเลือกตั้ง มีนายนพดล ปัทมะ เป็นหัวหน้าทีม โดยได้มอบการบ้านให้ผู้สมัคร ส.ส. และว่าที่ ส.ส.ทำการบ้าน ประเมินผลงานตนเองในเขตเลือกตั้งว่าตนเองมีจุดแข็ง จุดอ่อน คู่แข่งเป็นอย่างไร ความเห็นของประชาชนเป็นอย่างไร (SWOT Analysis) เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดบนพื้นฐานที่ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วม

ชลน่าน กล่าวอีกว่า เรายังคงมุ่งหวังเป็นสถาบันการเมืองเคียงคู่ประชาชน ก้าวต่อไปเพื่อประชาชน โดยเราได้รับคำยืนยันจากแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย ทั้งสองคน แพทองธาร กล่าวว่า เราต้องยอมรับว่า เราแพ้ในการเลือกตั้ง แต่ต้องก้าวต่อไป การแพ้เลือกตั้งไม่ใช่การล่มสลาย แต่จะเป็นแรงผลักดันให้เราดำรงอยู่ต่อไป เราพร้อมเดินหน้า  โดยเฉพาะการลงพื้นที่ที่ต้องทำต่อ เช่นเดียวกันกับเศรษฐา ที่พูดถึงภารกิจที่ต้องเดินต่อ คือ Disrupt พรรค ต้องเปลี่ยนแปลงในรูปแบบต่างๆ ทั้งในรูปแบบของการรีแบรนด์ การ Restucture เราต้องเริ่มทำ ข้อสรุปจากการประเมินจะเป็นข้อมูลพื้นฐานในการปรับตัวของพรรคต่อไป 

“เราจะปรับตัวโดยที่ต้องไม่ลืมตัวตนของเพื่อไทย เราจะไม่ก้าวล้ำจนทอดทิ้งตัวตนของพรรคเพื่อไทย ต้องผสมผสานกัน ในการทำพื้นที่โลกเสมือนจริงและความเป็นจริง ต้องควบคู่กันไป” ชลน่าน กล่าว 

ประเสริฐ กล่าวว่า บรรยากาศของการสัมมนาเป็นไปด้วยความอบอุ่น และเห็นอกเห็นใจซึ่งกันและกัน  ในการต่อสู้ศึกเลือกตั้ง ทุกคนทำงานอย่างหนัก ทั้งแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย ผู้สัมคร ส.ส. และแกนนำของพรรค ไม่มีการตำหนิใคร เราให้กำลังใจซึ่งกันและกัน รวมทั้งมีแนวทางการปฏิบัติ 2 ส่วน สำหรับผู้สมัครที่ได้รับการเลือกตั้ง และที่ไม่ได้รับการเลือกตั้ง เตรียมการได้แก่  

1. ระหว่างยังไม่ได้ประกาศรับรองผลเลือกตั้ง หากมีการร้องเรียนทุกจริตเลือกตั้ง ทั้งจากผู้สมัครของพรรคเพื่อไทยที่ร้องเรียนพรรคอื่น หรือพรรคอื่นร้องเรียนพรรคเพื่แไทย  ฝ่ายกฎหมายพร้อมทำงาน  ร่วมกับศูนย์ปราบปรามการทุจริตการเลือกตั้งที่ยังทำงานอยู่

2. เตรียมพร้อมยื่นบัญชีค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้ง ซึ่ง กกต.ได้กำหนดให้ยื่นภายใน 90 วัน  โดยฝ่ายบัญชีพร้อมให้การสนับสนุน

3. ในกรณีที่ กกต.รับรองผลการเลือกตั้ง ส.ส. ให้ผู้สมัครเตรียมยื่นบัญชีทรัพย์สิน และหนี้สิน ตามที่กฎหมายกำหนด 

นอกจากนี้ยังมีการพูดคุยเพิ่มเติม และฝากข้อคิดวิเคราะห์สถานการณ์เลือกตั้ง ได้แก่ 

1. นโยบายพรรคการเมือง กระแสการเมืองต่างๆ และการลงพื้นที่ของผู้สัมคร และ ส.ส. ทั้งก่อนและหลังเลือกตั้ง เราได้เน้นให้ลงพื้นที่อย่างต่อเนื่อง อย่าได้ท้อถอยในการทำงานเพื่อประชาชน เพราะเพื่อไทยมีบุคลากรผู้สมัครลงพื้นที่สัมผัสประชาชนรับฟังปัญหา นำไปแก้ไขให้พี่น้องประชาชน ซึ่งการลงพื้นที่ยังจำเป็น  การลงพื้นที่อย่างหนักก็ช่วยให้ได้รับชัยชนะเลือกตั้ง 

2. การเลือกตั้งครั้งนี้ต้องยอมรับว่า กระแสโซเชียลมีเดียมีผลอย่างยิ่งอย่างมีนัยยะ  และมีผลต่อการเลือกตั้ง เพราะปัจจุบันมีผู้ใช้โซเชียลมีเดีย 50 ล้านคน ติ๊กต่อก 30 ล้านคน และไลน์ 40 ล้านคน พรรคให้ความสำคัญและตั้งข้อสังเกตในโซเชียลมีเดีย ที่มีความสำคัญ  ต้องจับตาทั้ง AI และ IO   

3. เราเชื่อว่าอุดมการณ์ทางการเมือง ฝั่งประชาธิปไตยยังมีความสำคัญ พรรคการเมืองฝั่งประชาธิปไตยได้คะแนนรวมกันประมาณ 70% อุดมการณ์การเมืองเป็นเรื่องสำคัญ ส.ส.ที่ย้ายจากฝั่งประชาธิปไตย ไปยังฝั่งสืบทอดอำนาจ เช่น ผู้ที่ไปสมัครในนามพรรคอื่น ที่ย้ายจากพรรคเพื่อไทย 10 กว่าคน สอบตก รอดมาเพียง 1-2 คน  เป็นอุทาหรณ์ว่าประชาชนลงโทษ

เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวอีกว่า การบ้านที่มอบให้ผู้สมัคร ส.ส. และว่าที่ ส.ส. คาดว่าจะส่งกลับมาภายใน 1 เดือน  เพื่อให้คณะกรรมการยุทธศาสตร์การเมืองของพรรคได้ถอดบทเรียนในการเลือกตั้ง ยืนยันว่าพรรคเพื่อไทยมีรูปแบบของตนเอง ไม่เลียนแบบ มีอัตลักษณ์ มีตัวตนของเราเอง ขอให้มั่นใจว่าสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เราพร้อมเสมอกับการเปลี่ยนแปลง

“เรามองไกลไปถึงสมรภูมิการเลือกตั้งครั้งต่อไป ผู้สมัครต้องพัฒนาการใช้โซเชียลมีเดียของตนเอง เพราะยังมีผลต่อสู้ในสมรภูมิการเลือกตั้ง พรรคเพื่อไทยเป็นสถาบันการเมืองมายาวนาน ก่อตั้งปี 2543 การเลือกตั้งปี 2544 จนถึงปัจจุบัน พิสูจน์ว่าพรรคเพื่อไทยมีจุดยืนประชาธิปไตย แม้กระแสลมจะเปลี่ยนแปลงแต่เรายังยืนหยัด” ประเสริฐ กล่าว 

ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย รักษาการโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ตลอดระยะเวลา 3 เดือนในการต่อสู้ในสนามเลือกตั้ง ด้วยหยาดเหงื่อและแรงกาย  เมื่อผลการเลือกตั้งเราเป็นพรรคอันดับสอง มีหลายสิ่งที่ต้องทบทวนและมีหลายอย่างที่เราต้องร่วมยินดีในการเลือกตั้งครั้งนี้

สแกน QR Code เพื่อร่วมบริจาคเงินให้กับประชาไท

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net