3 นักกฎหมายผู้รับมอบอำนาจในคดีฝุ่นภาคเหนือ “ยื่นอุทธรณ์คำสั่งไม่รับฟ้อง” คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ และคณะกรรมการกำกับตลาดทุน ต่อศาลปกครองเชียงใหม่ ชี้ ธุรกิจอ้อย ข้าวโพด แหล่งกำเนิดฝุ่นพิษอย่างสำคัญ ภาคธุรกิจต้องร่วมรับผิดต่อ PM2.5

18 พ.ค. 2566 เวลาประมาณ 09.00 น. ที่ศาลปกครองเชียงใหม่ 3 นักกฎหมาย วัชลาวลี คำบุญเรือง, กรกนก วัฒนภูมิ และปารณ บุญช่วย ตัวแทนผู้รับมอบอำนาจในคดีฝุ่นภาคเหนือ เข้ายื่นอุทธณ์ต่อศาลปกครองรับฟ้องคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ และคณะกรรมการกำกับตลาดทุน หลังเมื่อวันที่ 21 เม.ย. 2566 รับฟ้องผู้ถูกฟ้องที่ 1 คือ “พล.อ.ประยุทธ์” นายกรัฐมนตรี และผู้ถูกฟ้องที่ 2 คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ แต่ไม่รับฟ้องผู้ถูกฟ้องที่ 3 และที่ 4 ได้แก่ คือ คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (กลต.) และคณะกรรมการกำกับตลาดทุน

โดยศาลให้เหตุผลในการไม่รับฟ้อง เพราะเห็นว่าเป็นหน่วยงานผู้มีหน้าที่ตามพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 จึงมิใช่เป็นผู้มีหน้าที่ตามพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ.2535 หรือตามประกาศคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ เรื่องกำหนดมาตรการฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอนในบรรยากาศโดยทั่วไปฯ ทำให้ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 3 และ 4 จึงไม่ใช่ผู้มีหน้าที่ในการดำเนินการแก้ไขปัญหาเรื่องฝุ่น PM2.5

วัชลาวลี คำบุญเรือง, กรกนก วัฒนภูมิ และปารณ บุญช่วย

ตัวแทนผู้รับมอบอำนาจในคดีฝุ่นภาคเหนือ

ผู้ฟ้องคดีทั้ง 10 คน จึงได้ร่วมกันตัดสินใจ “ยื่นอุทธรณ์คำสั่งไม่รับฟ้อง” ต่อศาลปกครองเชียงใหม่ ด้วยเหตุผลที่ว่า ปัญหาฝุ่น PM2.5 ในพื้นที่ภาคเหนือนั้น ส่วนหนึ่งเกิดจากการประกอบธุรกิจเกษตรกรรมอ้อยและข้าวโพดที่เป็นหนึ่งในแหล่งกำเนิดมลพิษที่สำคัญเพราะเป็นผลจากกิจกรรมทางการเกษตรที่มีการเผาในกระบวนการผลิต จากการปลูกพืชอาหารสัตว์ที่เป็นข้าวโพด หรือการผลิตน้ำตาลจากการปลูกอ้อย อันเป็นแหล่งกำเนิดมลพิษฝุ่นขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน ซึ่งถือเป็นส่วนที่เกี่ยวข้องกับภาคธุรกิจโดยตรง

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 10 เม.ย. 2566 คดีฝุ่น PM2.5 ภาคเหนือ ประชาชนภาคเหนือรวมตัวที่ศาลปกครองเชียงใหม่ยื่นฟ้อง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี, คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ, คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (กลต.) และคณะกรรมการกำกับตลาดทุน จากเหตุไม่ใช้อำนาจทางกฎหมายแก้ไขวิกฤตฝุ่น PM2.5 ในภาคเหนือซึ่งส่งผลกระทบต่อสุขภาพและการใช้ชีวิตของประชาชนในพื้นที่ โดยมีประชาชนอีก 727 คนร่วมลงชื่อสนับสนุนการฟ้องคดีครั้งนี้