Skip to main content
sharethis

ศาลสูงสุดของเนปาลมีคำสั่งปล่อยตัว ‘ชาร์ลส์ โสภราช’ ฆาตกรต่อเนื่องชื่อดังเจ้าของสมญานาม ‘อสรพิษ’ ก่อนกำหนดหลังติดคุกนาน 19 ปี เขาเป็นผู้ก่อเหตุฆาตกรรมนักท่องเที่ยวหลายสิบรายทั่วเอเชีย หนึ่งในคดีสำคัญคือการฆาตกรรม 6 ศพบนหาดพัทยาเมื่อปี 2519 โดยชีวิตของเขาถูกนำมาสร้างเป็นซีรีส์เรื่อง ‘The Serpent’ ฉายบนเน็ตฟลิกซ์

 

23 ธ.ค. 2565 สำนักข่าวต่างประเทศหลายแห่งรายงานตรงกันว่า เมื่อวันที่ 21 ธ.ค.ที่ผ่านมา ศาลสูงสุดของเนปาลมีคำสั่งปล่อยตัว ‘ชาร์ลส์ โสภราช’ (Charles Sobhraj) ฆาตกรต่อเนื่องสัญชาติฝรั่งเศส เจ้าของฉายา 'อสรพิษ' ผู้ลงมือก่อเหตุฆาตกรรมเหยื่อในหลายประเทศทั่วเอเชียรวมถึงไทย โดยเขารับโทษจำคุกอยู่ในเรือนจำเนปาล นาน 19 ปี

สำนักข่าว CBS News ของสหรัฐฯ รายงานโดยอ้างเอกสารของศาลสูงของเนปาล ที่ระบุว่า โสภราช ในวัย 78 ปี มีสุขภาพที่ย่ำแย่จากโรคหัวใจ เขาเป็นนักโทษที่มีความประพฤติดีและได้รับโทษมาเป็นเวลานานเกิน 75% ของโทษตามคำพิพากษาจำคุกตลอดชีวิต โดยโทษจำคุกตลอดชีวิตตามกฎหมายเนปาล มีเพดานสูงสุดอยู่ที่ 20 ปี ด้วยเหตุนี้ศาลจึงเห็นสมควรให้ปล่อยตัวก่อนกำหนด เมื่อออกจากเรือนจำแล้ว โสภราช จะต้องเดินทางออกนอกประเทศเนปาล ภายในเวลา 15 วันตามกฎหมาย

ด้านสำนักข่าว 'ดอยท์เชอเวลเลอ' (DW) ของเยอรมนี รายงานว่า ทนายความของโสภราช ระบุว่า เขาได้รับโทษ 95% ของโทษตามคำพิพากษา และสมควรได้รับการปล่อยตัวก่อนกำหนดเพราะเขามีอายุมากแล้ว ประกอบกับศาลเห็นว่าไม่มีเหตุผลอื่นให้ต้องควบคุมตัวเขาไว้ต่อ จึงมีคำสั่งให้ปล่อยตัวก่อนกำหนด โดยโสภราช จะถูกส่งตัวกลับไปยังประเทศที่เขาถือสัญาติภายใน 15 วัน

โสภราช เกิดที่เมืองไซ่ง่อน ประเทศเวียดนาม ใน พ.ศ.2487 ถือสัญชาติฝรั่งเศส บิดาเป็นชาวอินเดีย มารดาเป็นชาวเวียดนาม ในวัยเด็ก เขาถูกจับกุมและต้องโทษจำคุกที่ฝรั่งเศสในคดีก่ออาชญากรรมซึ่งมีโทษไม่สูงนัก ในช่วงทศวรรษที่ 1970 โสภราชถูกจับกุมในข้อหาฆาตกรรม เขายอมรับว่าได้ลงมือสังหารนักท่องเที่ยวชาวตะวันตกหลายรายและเกี่ยวข้องกับคดีฆาตกรรมนักท่องเที่ยวอย่างน้อย 20 รายในอัฟกานิสถาน อินเดีย ไทย ตุรกี เนปาล อิหร่าน และฮ่องกง โดยวิธีการก่อเหตุจะเริ่มจากการตีสนิทกับนักท่องเที่ยว จากนั้นจึงวางยาในอาหารและเครื่องดื่มของเหยื่อ และลงมือสังหาร ก่อนจะปลอมแปลงตัวตนเพื่อหลบหนีด้วยการใช้หนังสือเดินทางของเหยื่อเพศชาย ทำให้เขาได้รับสมญานามว่า ‘อสรพิษ’

ในช่วงกลางทศวรรษที่ 1970 ไทยเป็นประเทศแรกที่ออกหมายจับโสภราชในข้อหาวางยาและฆาตกรรมหญิงสาว 6 คนที่พัทยา โดยเหยื่อทั้งหมดในคดีดังกล่าวสวมใส่ชุดว่ายน้ำบิกีนี และถูกพบเป็นศพบริเวณชายหาดพัทยา จ.ชลบุรี ทำให้เขาได้รับสมญานามว่าเป็น ‘นักฆ่าบิกินี’ ต่อมา ใน พ.ศ. 2519 โสภราช ถูกจับกุมเป็นครั้งแรกที่อินเดีย และถูกศาลอินเดียพิพากษาจำคุก 20 ปี ใน พ.ศ. 2529 เขาพยายามแหกคุกแต่ถูกจับได้และต้องจำคุกต่อในอินเดีย จนครบกำหนดโทษ ก่อนจะถูกปล่อยตัวใน พ.ศ. 2540 และถูกส่งตัวกลับฝรั่งเศส

ต่อในปี 2546 โสภราช เดินทางไปที่เนปาลซึ่งเป็นหนึ่งในประเทศที่ออกหมายจับเขาในข้อหาฆาตกรรมคอนนี โจ บรอนซิค นักท่องเที่ยวชาวอเมริกัน ซึ่งเกิดขึ้นใน พ.ศ. 2519 ด้วยเหตุนี้ โสภราชจึงถูกทางการเนปาล จับกุมตัวและตัดสินโทษจำคุกตลอดชีวิต โดยโสภราช ให้การรับสารภาพในคดีนี้ว่าเขาลงมือสังหารเหยื่อจริงและมีการสังหารเพื่อนของเหยื่อซึ่งเป็นนักท่องเที่ยวชาวแคนาดาเพิ่มอีกหนึ่งราย

สำนักข่าวอัลจาซีรา รายงานเพิ่มเติมว่า ในปี 2560 ระหว่างที่โสภราช รับโทษจำคุกในเรือนจำเนปาล เขาต้องเข้ารับการผ่าตัดหัวใจซึ่งใช้เวลานานกว่า 5 ชั่วโมง

ทั้งนี้ ชีวิตการเป็นฆาตกรต่อเนื่องของโสภราชได้รับการกล่าวถึงในหนังสือหลายเล่มและถูกนำมาสร้างเป็นซีรีส์ เรื่อง ‘The Serpent’ ออกอากาศครั้งแรกทางช่องบีบีซีวัน (BBC One) ของสหราชอาณาจักร เมื่อเดือน ม.ค. 2564 ก่อนจะเผยแพร่อีกครั้งผ่านแพลตฟอร์มสตรีมมิงระดับโลกอย่างเน็ตฟลิกซ์ ในเดือน เม.ย. ปีเดียวกัน

 

แปลและเรียบเรียงจาก

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net