Skip to main content
sharethis
  • สปสช.ดูแลผู้ป่วยสิทธิบัตรทอง “โรคข้อเข่าเสื่อม” จัดสิทธิประโยชน์ “ผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่า” ช่วยให้เข้าถึงการรักษา เพิ่มคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับผู้ป่วย เผยมีผู้ป่วยรับการผ่าตัดเกือบ 1 หมื่นครั้งต่อปี พร้อมร่วมรณรงค์ “วันโรคข้อสากล (World Arthritis Day)” ให้ประชาชนตระหนักรู้ ลดความเสี่ยง ป้องกันข้อเข่าเสื่อมก่อนวัยอันควร  
  • เผยผู้มีสิทธิบัตรทองที่ได้รับผลกระทบยกเลิกสัญญา รพ.เอกชน เลือกหน่วยบริการแล้ว 31,632 ราย 

12 ต.ค.2565 ทีมสื่อ สปสช. รายงานว่า นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า โรคข้อนับเป็นภัยเงียบที่คุกคามสุขภาพ โดยเฉพาะโรคข้อเข่าเสื่อมที่พบผู้ป่วยจำนวนมาก ส่วนใหญ่จะอยู่ในกลุ่มวัยกลางคนและผู้สูงอายุ ผู้หญิงมีความเสี่ยงต่อโรคมากกว่าผู้ชาย ทั้งประเทศไทยยังมีแนวโน้มที่จะพบผู้ป่วยเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากการก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ซึ่งโรคนี้สร้างความทุกข์ทรมานให้กับผู้ป่วยอย่างยิ่ง อาการเริ่มแรกจะเริ่มปวดเมื่อยตึงที่เข่า และจะปวดมากขึ้นหากมีการเคลื่อนไหว เมื่อลุกนั่งหรือเดินก็จะมีเสียงในข้อ โดยผู้ป่วยที่มีอาการมากขึ้นจะมีภาวะข้อบวม ข้อเข่าโก่งงอ ปวดข้อมากขึ้นและเดินลำบาก นำไปสู่ภาวะข้อเข่ายึดติดจนไม่สามารถเหยียดหรืองอขาได้ จนกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน   

ทั้งนี้ ในการรักษานอกจากการทำกายภาพบำบัด กินยาแก้ปวด เพื่อลดการอักเสบของข้อในผู้ป่วยระยะเริ่มต้นแล้ว ในผู้ป่วยที่อาการรุนแรงจะมีวิธีการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียมที่เป็นการรักษาที่มีประสิทธิผล แต่ด้วยค่ารักษาที่สูงมากถึงหลักแสนบาท ทำให้ในอดีตมีผู้ป่วยจำนวนไม่มากที่เข้าถึงการรักษาด้วยวิธีนี้ 

นพ.จเด็จ กล่าวว่า สปสช. เข้าใจถึงความทุกข์ยากของผู้ป่วยโรคข้อเข่าเสื่อมที่ไม่สามารถเดินและใช้ชีวิตประจำวันตามปกติได้ ในฐานะ สปสช. ที่เป็นหน่วยงานดำเนินงาน “กองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือ “บัตรทอง 30 บาท” เพื่อดูแลประชาชนสิทธิบัตรทอง 30 บาท ให้เข้าถึงการรักษาที่จำเป็นได้อย่างครอบคลุมและทั่วถึงมากที่สุด จึงบรรจุ “การผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียม” เป็นสิทธิประโยชน์บัตรทอง 30 บาท เพื่อช่วยให้ผู้ป่วยโรคข้อเข่าเข้าถึงการรักษา และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น  

นอกจากการสนับสนุนในส่วนค่าบริการผ่าตัดแล้ว สปสช.ได้มีการบริหารจัดการในรูปแบบการเบิกจ่ายอุปกรณ์ข้อเข่าเทียมที่ช่วยเพิ่มการเข้าถึงอุปกรณ์ข้อเข่าเทียมให้กับผู้ป่วย ทำให้ผู้ป่วยโรคข้อเข่าได้รับการรักษาด้วยการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่ามาอย่างต่อเนื่อง จากข้อมูลย้อนหลังตั้งแต่ปี 2560 -2564 มีผู้ป่วยโรคข้อเข่าเสื่อมได้รับการผ่าตัดข้อเข่าเสื่อมทั้งกรณีผ่าตัด 1 ข้าง และ 2 ข้างรวมจำนวน 9,559 ครั้ง 10,434 ครั้ง 10,864 ครั้ง 10,052 ครั้ง และ 8,090 ครั้ง ล่าสุดปี 2565 มีผู้ป่วยเข้ารับการรักษาแล้วจำนวน 9,408 ครั้ง ภาพรวมเฉลี่ยผู้ป่วยรับบริการ 9,735 ครั้งต่อปี โดยมีโรงพยาบาลที่มีศักยภาพผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่า ทั้งในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข กรมการแพทย์ โรงเรียนแพทย์ และสังกัดหน่วยงานต่างๆ ทั่วประเทศร่วมให้บริการ 232 แห่ง 

นอกจากนี้ เพื่อเพิ่มการเข้าถึงการรักษาผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าให้กับผู้ป่วย ปี 2566 นี้ สปสช. ยังได้ร่วมกับมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ ในการดำเนินโครงการผ่าตัดข้อเข่าและสะโพกเทียม ปี 2566 เพื่อให้บริการผู้ป่วยฟรี ไม่เสียค่าใช้จ่าย จำนวน 100-200 ข้อ โดยให้ผู้ป่วยที่มีความประสงค์รับการผ่าตัดสมัครเข้าร่วมขอรับบริการได้ในเดือนพฤศจิกายนนี้        

“วันที่ 12 ตุลาคมของทุกปี เป็นวันโรคข้อสากล (World Arthritis Day) สปสช.ร่วมรณรงค์เพื่อให้ประชาชนตระหนักต่อโรคข้อเข่าเสื่อม นอกจากในด้านการรักษาพยาบาลแล้ว ขอให้ดูแลสุขภาพเพื่อหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยง เช่น การควบคุมน้ำหนัก หลีกเลี่ยงกิจกรรมหรือท่าทางที่เสี่ยงต่อกาทรุดของข้อ อย่างท่านั่งยอง นั่งพับเพียบ นั่งขัดสมาธิ เป็นต้น รวมถึงการออกกำลังกายเพื่อเพิ่มความแข็งแรงของข้อเข่า เพื่อให้ทุกคนมีข้อเข่าที่ดี ป้องกันภาวะข้อเข่าเสื่อมก่อนวัยอันควร” เลขาธิการ สปสช. กล่าว      

 

ผู้มีสิทธิบัตรทองที่ได้รับผลกระทบยกเลิกสัญญา รพ.เอกชน เลือกหน่วยบริการแล้ว 31,632 ราย 

ขณะที่ พญ.ลลิตยา กองคำ รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า ตามที่ สปสช. เปิดให้ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากกรณียกเลิกสัญญาหน่วยบริการปฐมภูมิและหน่วยบริการประจำ โรงพยาบาลเอกชน 7 แห่งใน กทม. ลงทะเบียนเลือกหน่วยบริการตั้งแต่วันที่ 10 ตุลาคม 2565 ที่ผ่านมา เพื่อความสะดวกในการรับบริการสุขภาพภายใต้ระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือ บัตรทอง 30 บาท ผ่าน 4 ช่องทางบริการ  

ทั้งนี้ จากข้อมูลเมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2565 มีประชาชนสิทธิบัตรทองที่เป็นสิทธิ์ว่างลงทะเบียนเลือกหน่วยบริการแล้ว จำนวน 31,632 ราย ทั้งการลงทะเบียนผ่านสายด่วน สปสช. 1330 กด 6 ลงทะเบียนที่สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ชั้น 2 อาคารบี ศูนย์ราชการฯ ถ.แจ้งวัฒนะ และลงทะเบียนผ่าน ไลน์ สปสช. (ไอดี @nhso) และแอปพลิเคชัน สปสช.  

พญ.ลลิตยา กล่าวต่อว่า สำหรับประชาชนที่ยังไม่ได้ลงทะเบียนเลือกหน่วยบริการนั้น ท่านสามารถลงทะเบียนได้โดยเลือกช่องทางที่แจ้งข้างต้นนี้ โดยขอให้เลือกหน่วยบริการที่ใกล้บ้านเพื่อความสะดวกในการรับบริการ ซึ่ง สปสช. ได้ประสานกับกรุงเทพมหานคร และหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ในการจัดหน่วยบริการปฐมภูมิ จำนวนเพื่อร่วมให้บริการ ไม่ว่าจะเป็น ศูนย์บริการสาธารณสุข (ศบส.) และ คลินิกชุมชนอบอุ่น 

“จากกรณีที่ สปสช. ได้ยกเลิกสัญญาฯ กับ รพ.เอกชน ที่ผ่านมา สปสช.ได้เร่งดำเนินการทุกด้าน พร้อมประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยด่วน เพื่อให้ประชาชนสิทธิบัตรทองที่ได้รับผลกระทบได้รับการดูแลและใช้สิทธิบริการสุขภาพได้ตามปกติเช่นเดิม อย่างไรก็ตามขอให้ประชาชนลงทะเบียนในระบบโดยเร็ว เพื่อความสะดวกในการรับบริการ กองทุนบัตรทอง” รองเลขาธิการ สปสช. กล่าว    

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net