ตัวแทนสมาพันธ์ธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ยื่นหนังสือถึงสภาอย่างเป็นทางการ เพื่อแก้ พ.ร.บ.ควบคุมแอลกอฮอล์ พร้อมเปิดให้ทุกคนมาร่วมปรับปรุงกฎหมายให้มีประสิทธิภาพและมีประโยชน์กับสังคมอย่างแท้จริง
สมาพันธ์ธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ยื่น 11,069 รายชื่อถึงรัฐสภาอย่างเป็นทางการ เพื่อแก้ไขพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 โดยมี สมบูรณ์ อุทัยเวียนกุล เลขานุการ ประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นผู้รับหนังสือ
17 มี.ค. 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานวันนี้ (17 มี.ค.) เมื่อเวลา 11.25 น. ที่ห้องแถลงข่าว อาคารสุริยัน รัฐสภา เกียกกาย ระบุว่า ผู้ประกอบการธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์รายย่อยในนามตัวแทนสมาพันธ์ธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และประชาชนเบียร์ ยื่นหนังสือ พร้อมแนบ 11,069 รายชื่อ ถึงรัฐสภาอย่างเป็นทางการอีกครั้ง เพื่อแก้ไขพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 โดยมี สมบูรณ์ อุทัยเวียนกุล เลขานุการ ประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นผู้รับหนังสือ
ศุภพงษ์ พรึงลำภู ตัวแทนสมาพันธ์ธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และผู้ริเริ่มการเสนอการแก้ไขกฎหมาย กล่าวขอบคุณผู้เข้าร่วมกฎหมายทุกรายชื่อที่มาจากทั่วประเทศ และหวังให้วันนี้เป็นก้าวแรกของที่จะปรับปรุงและพัฒนา พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่มีประสิทธิภาพ และมีประโยชน์สูงสุดต่อสังคมไทย
ทั้งนี้ ศุภพงษ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า เขาหวังให้ประชาชนทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมในการปรับปรุง พ.ร.บ.ควบคุมแอลกอฮอล์ อีกด้วย
หลังจากนี้ สภาจะมีการตรวจสอบรายชื่อและจำนวนของผู้ร่วมเข้าชื่อเสนอกฎหมายว่าถูกต้อง และมีจำนวนเกิน 10,000 รายชื่อหรือไม่ เมื่อผ่านแล้ว ประธานจะบรรจุเข้าไปในระเบียบวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎรต่อไป
ที่ผ่านมา พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 เป็นกฎหมายที่ถูกถกเถียงในวงกว้างว่ามีการใช้อย่างไม่เป็นธรรม ตัวอย่างที่เด่นชัดที่สุด คือ มาตรา 32 ที่ห้ามโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หากฝ่าฝืนมีโทษปรับสูงสุด 50,000 บาท เนื่องด้วยคำว่า ‘โฆษณา’ กินความหมายกว้าง คลุมเครือ อีกทั้ง ให้อำนาจดุลยพินิจเจ้าหน้าที่ค่อนข้างมาก จนส่งผลให้มีประชาชนตกเป็นเหยื่อของการบังคับใช้กฎหมายอย่างไม่เป็นธรรม
กรณีหนึ่งเกิดขึ้นที่จังหวัดปริมณฑลอย่างนนทบุรี ผู้หญิงคนหนึ่งที่โพสต์ภาพ พร้อมบอกความรู้สึก ความชอบของตนเองที่มีต่อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แต่ละตัวในเฟซบุ๊กส่วนตัว แต่มีคนแจ้งไปทางหน่วยงาน ทางสำนักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ สังกัดกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข จึงมีหมายเรียกไปสอบสวนความผิดตามมาตรา 32 โฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยให้ขึ้นมายังสำนักงานที่จังหวัดนนทบุรี เจ้าหน้าที่ใช้ดุลยพินิจปรับ 1 ใน 3 เป็นจำนวนเงิน 17,000 บาท จากค่าปรับสูงสุด 50,000 บาท ทั้งที่ผู้หญิงคนนี้ไม่ได้ทำการค้าขายแต่อย่างใด แต่ตีความเป็นการโฆษณาร่วมไปด้วย
นอกจากทางสมาพันธ์ฯ จะขอแก้มาตรา 32 ให้มีความชัดเจน และไม่คลุมเครือแล้ว ยังมีการแก้ไขบทกำหนดโทษ กรณีการไม่ปฏิบัติตามมาตรา 32 เนื่องจากโทษค่าปรับเดิมสูงเกินไป ไม่สมดุลกับความเสียหายจากความผิดที่ก่อขึ้น
ขอแก้ไขมาตรา 6 วรรค 2 โดยให้ที่ปรึกษาคณะกรรมการนโยบายมีตัวแทนจากฝากฝั่งผู้ผลิต หรือผู้ประกอบการแอลกอฮอล์เข้าไปร่วมด้วย เพื่อให้การออกกฎหมายเป็นไปอย่างรอบด้าน เข้าใจพลวัตรการทำธุรกิจ และมีประสิทธิภาพอย่างแท้จริง เนื่องจากแต่เดิมผู้ประกอบการเครื่องดื่มแอลกอฮอล์รายย่อยไม่เคยได้รับโอกาสการมีส่วนร่วมกับการออกกฎหมาย หรือนโยบายเลย
นี่เป็นเพียงบางส่วนของหนังสือแก้ พ.ร.บ.ควบคุมแอลกอฮอล์ ยังมีมาตราอื่น ๆ ที่ทางสมาพันธ์ฯ ขอแก้ เพื่อให้กฎหมายถูกต้อง และเป็นธรรม อีกทั้ง ยังเท่าทันพลวัตรการประกอบธุรกิจในยุคสมัยใหม่
ข่าวที่เกี่ยวข้อง ยื่นหมื่นชื่อถึงสภาแก้พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 1 มี.ค.ที่ผ่านมา กลุ่มผู้ประกอบการรายย่อยคราฟต์เบียร์ไทยในนามของสมาคมคราฟต์เบียร์ และเพจสุราไทย และประชาชนเบียร์ นำรายชื่อจำนวน 11,169 คนเข้าสู่สภาเพื่อขอแก้ไข พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งทั้งหมดใช้เวลานับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม-ธันวาคม ตลอดระยะเวลา 4 เดือนที่ผ่านมา มีการนำเสนอข้อมูลแก่ประชาชน และล่ารายชื่อจนได้ครบตามจำนวนที่ต้องการ จึงนำรายชื่อทั้งหมดไปให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)