Skip to main content
sharethis

ผู้กำกับ สภ.ภูเขียวถูกสั่งย้ายเหตุให้มีชุมนุม "ราษฎร" ติดป้าย “ปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์” ไม่มีจิตสำนึก ไม่มีความรับผิดชอบปล่อยปละละเลยให้เกิดการทำผิดกฎหมาย ส่วนผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 และผู้ใต้บังคับบัญชาโกนผมธำรงวินัย หลังจากนี้จะรวบรวมหลักฐานดำเนินคดีกลุ่มราษฎรข้อหาฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ 

2 ก.พ.2564 หลังจากมีรายงานข่าวในเช้าวันนี้ว่ากองบัญชาการ ตำรวจภูธรภาค 3 มีคำสั่งย้ายพ.ต.อ.เพิ่มสุข ศิริพละ ผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรภูเขียว จังหวัดชัยภูมิ เนื่องจากผู้ชุมนุมราษฎรติดป้าย “ปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์” ที่หน้า สภ.

แฟ้มภาพ การชุมนุมที่หน้าสภ.ภูเขียวเมื่อวันที่ 1 ก.พ.2564

แฟ้มภาพ การชุมนุมที่หน้าสภ.ภูเขียวเมื่อวันที่ 1 ก.พ.2564

มติชนออนไลน์รายงานว่า พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 นครราชสีมา ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีดังกล่าวว่าคณะราษฎรภูเขียวได้ทำกิจกรรมที่เป็นการฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และความผิดอื่นๆ โดยมีการชุมนุมกางเต๊นท์และติดป้าย “ปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์” และ #SAVEเมียนมาร์ ที่บันไดทางขึ้น สภ. แต่ ว่าที่ พ.ต.อ.เพิ่มสุข ศิริพละ ผกก.สภ.ภูเขียว ไร้ซึ่งจิตสำนึก วินัย ขาดแผนเผชิญเหตุ ไม่มีความรับผิดชอบโดยไม่ดำเนินการใดๆ อันเป็นการป้องกันหรือระงับยับยั้งการกระทำที่ฝ่าฝืนกฎหมายรวมทั้งไม่ได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบอีก แสดงถึงการปล่อยปละละเลยต่ออำนาจหน้าที่ ตนได้สั่งการให้ พล.ต.ต.ฉลอง สุขจันทร์ ผบก.ภ.จ.ชัยภูมิ และผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้นได้เดินทางไปที่สภ.ภูเขียว เมื่อเวลาประมาณ 22.00 น. เจรจากับกลุ่มผู้ชุมนุมให้ถอดป้ายและรื้อเวทีออกได้เป็นผลสำเร็จ

พล.ต.ท.ภาณุรัตน์จึงได้ออกหนังสือคำสั่งย้าย ว่าที่ พ.ต.อ.เพิ่มสุขมาปฏิบัติราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรภาค 3 โดยขาดจากตำแหน่งและหน้าที่ในสังกัดเดิมตั้งแต่ 1 ก.พ.เป็นต้นไป นอกจากนั้นพล.ต.ท.ภาณุรัตน์และผู้ใต้บังคับบัญชาได้โกนผมเพื่อธำรงวินัย ไร้ซึ่งระเบียบ ตำรวจต้องเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์

พล.ต.ท.ภาณุรัตน์กล่าวอีกว่า ก่อนหน้านี้ได้กำชับให้สถานีตำรวจในสังกัด สนง.ตำรวภูธรภาค 3 ซักซ้อมแผนเผชิญเหตุ และติดตั้งกล้องซีซีทีวี เราเคารพสิทธิผู้ชุมนุม แต่ต้องดำเนินการภายใต้กฎหมายรัฐธรรมนูญ ในช่วงบ่ายนี้จะเดินทางไป สภ.ภูเขียว เพื่อรวบรวมพยานหลักฐาน และดำเนินคดีกับคณะราษฎรภูเขียวทุกคนทุกข้อหาที่ปรากฏ และพื้นที่ดังกล่าวเป็นเขตควบคุมการแพร่ระบาดโรคติดต่อร้ายแรงด้วย จึงมี 2 ข้อหาคือ ฝ่าฝืน พ.ร.ก ฉุกเฉิน และ พ.ร.บ โรคติดต่อร้ายแรง มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 4 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

'ราษฎร' ชุมนุมหน้า รร.-สภ.ภูเขียว จี้ตำรวจขอโทษกรณีคุกคามนักเรียน ด้าน ตร.รับว่าคุกคาม แต่ยังไม่ขอโทษ

ทั้งนี้การชุมนุมของ “ราษฎร” ผู้จัดค่าย “ราษฎรออนทัวร์” เมื่อวันที่ 1 ก.พ.2564 เริ่มต้นที่โรงเรียนภูเขียวก่อนที่จะย้ายไปชุมนุมที่สภ.ภูเขียวเพื่อเรียกร้องให้ทางตำรวจขอโทษนักเรียนที่ถูกตำรวจคุกคามถึงบ้าน หากไม่ได้รับการขอโทษจะไม่กลับ จนกระทั่งตอนเวลา 16.50 น. ผู้ชุมนุมนำป้าย “ปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์” และ “#saveเมียนมาร์” ขึ้นแขวนหน้า สภ.ภูเขียว ตำรวจได้เข้ายื้อแย่งป้าย อ้างว่ากีดขวางทางประชาชนที่จะมาทำธุระที่สถานีตำรวจ จนถูกลำโพงล้มลงใส่ศีรษะไผ่ เกิดการโต้เถียงกันกว่า 5 นาที ก่อนผู้ชุมนุมนำป้ายขึ้นแขวนอีกครั้ง และเปิดเวทีปราศรัยได้

ต่อมาในเวลา 23.30 น.ตำรวจเข้ายึดทั้งสองป้าย ขณะที่ผู้ชุมนุมเก็บเต็นท์ออกจากหน้า สภ. แม้ทางผู้ชุมนุมจะเจรจาขอคืนแต่ตำรวจระบุว่าเป็นพยานหลักฐานโดยที่ไม่ได้เข้าองค์ประกอบความผิดตามกฎหมาย

สแกน QR Code เพื่อร่วมบริจาคเงินให้กับประชาไท

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net