Skip to main content
sharethis

'ราษฎร' ชุมนุมหน้าโรงเรียน - สภ.ภูเขียว เรียกร้องตำรวจขอโทษกรณีคุกคามนักเรียน ด้านตำรวจยอมรับว่าคุกคาม แต่ยังไม่ขอโทษ

 

1 ก.พ.2564 ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน รายงานว่า เวลาประมาณ 8.00 น. นักกิจกรรม “ราษฎร” ผู้จัดค่าย “ราษฎรออนทัวร์” จัดกิจกรรมด้านนอกรั้วโรงเรียนภูเขียว จ.ชัยภูมิ จากกรณีที่นักเรียนที่ลงชื่อไปค่ายถูกคุกคาม และโรงเรียนภูเขียวออกแถลงการณ์ระบุว่า โรงเรียนไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง รวมทั้งไม่รู้วัตถุประสงค์ของค่าย “ราษฎรออนทัวร์”

จตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือ ไผ่ นักกิจกรรมทางการเมือง ปราศรัยว่า ที่จัดกิจกรรมวันนี้ เนื่องจากครูโรงเรียนภูเขียวปิดกั้นเสรีภาพของนักเรียน และตั้งคำถามว่า คณะราษฎรมีเพื่ออะไร จึงมาชี้แจงว่า คณะราษฎรตั้งขึ้นมาเพื่อ 1.ไล่ประยุทธ์ 2.ร่างรัฐธรรมนูญใหม่ 3.ปฏิรูปสถาบันกษัตริย์

นักเรียนโรงเรียนภูเขียวได้อ่านแถลงการณ์ “ราษฎร” ตอบโต้แถลงการณ์ของโรงเรียน รวมทั้งประณามการกระทำของครู บุคลากร เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง จากการที่ครูนำข้อมูลนักเรียนแจ้งเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงเพื่อให้มาละเมิดศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ โดยการถ่ายรูป ติดตามรถ และพยายามข่มขู่นักเรียนและครอบครัวเพื่อไม่ให้เข้าร่วมค่าย ก่อนย้ำว่า ค่าย “ราษฎรออนทัวร์” เป็นค่ายส่งเสริมความเป็นมนุษย์ ไม่ใช่ค่ายล้างสมองอย่างที่ทาง ร.ร.ภูเขียว กล่าวหา

โพสต์ที่ศูนย์ทนายฯ รายงานข่าว

จากนั้น  ภาณุพงศ์ จาดนอก หรือ ไมค์ และนักกิจกรรมคนอื่นๆ ผลัดกันปราศรัยกล่าวถึงการคุกคามและปิดกั้นเสรีภาพที่โรงเรียนกระทำต่อนักเรียน วิพากษ์วิจารณ์ระบบการศึกษา รัฐบาล รัฐธรรมนูญ ตลอดจนกล่าวถึงประเด็นการปฏิรูปสถาบันกษัตริย์

มีนักเรียนสนใจนั่งฟังการปราศรัยบนลานซีเมนต์กลางแจ้งใกล้รั้ว รวมทั้งจับกลุ่มกระจายอยู่บริเวณโดมไกลออกไปรวมกว่า 100 คน โดยมีตำรวจในและนอกเครื่องแบบจาก สภ.ภูเขียว ราว 15 นาย มาสังเกตการณ์ บันทึกวีดิโอด้วยกล้องโกโปรที่ติดบนหมวก

ไทม์ไลน์ จากศูนย์ทนายฯ 

  • เวลา 10.00 น. ไผ่นำนักเรียนพูดข้อเรียกร้อง 3 ข้อ และชู 3 นิ้ว ร้องเพลงชาติ พร้อมทั้งเชิญชวนนักเรียนชุมนุมหน้า สภ.ภูเขียว ในช่วงเย็น ก่อนเคลื่อนขบวนไปตามถนน มุ่งหน้าไป สภ.ภูเขียว โดยเปิดเพลงจากเครื่องเสียงบนรถสามล้อไปตลอดทาง แวะถ่ายรูปที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยภูเขียว โดยมีตำรวจติตตามขบวนมาด้วยเช่นกัน
  • เวลา 10.30 น. ขบวนเดินทางถึง สภ.ภูเขียว กลุ่มนักกิจกรรมเข้ากางเต็นท์และจัดสถานที่ลักษณะจำลองการจัดค่ายมาไว้หน้า สภ.ภูเขียว มีการตั้งเครื่องเสียง ตำรวจ 1 นาย เข้าพูดคุยกับไผ่ แจ้งให้ขยับการชุมนุมไม่ให้กีดขวางทางรถเข้าออก สภ. โดยมีกำลังตำรวจราว 25 นาย ฝ่ายปกครอง 2 นาย และ อส. 3 นาย เฝ้าระวังอยู่ห่างๆ ตลอดเวลา
  • ไผ่กล่าวชี้แจงว่า วันที่ 29-31 ม.ค. ที่ผ่านมา นักเรียนที่ลงชื่อสมัครไปค่ายกว่า 20 คน ถอนตัวเหลือไปแค่ 3 คน เนื่องจากหวาดกลัวที่มีตำรวจไปตามถ่ายรูป วันนี้จึงมาชุมนุมเพื่อให้ตำรวจออกมายอมรับผิดและไปขอโทษนักเรียนที่ถูกละเมิดสิทธิทุกคน
  • 13.00 น. ผกก.สภ.ภูเขียว เข้าพูดคุยกับไผ่ ไผ่ยื่นข้อเสนอให้ตำรวจแถลงข่าวขอโทษต่อสาธารณะในช่วงหกโมงเย็น ซึ่งเป็นเวลาที่นักเรียนเลิกเรียน รวมทั้งให้ตำรวจไปขอโทษนักเรียนทุกคนที่ถูกคุกคามถึงบ้าน หากตำรวจไม่ทำตามข้อเสนอกลุ่มของตนจะไม่กลับ
  • รอง ผกก.ปราบปราม กล่าวว่า ตำรวจก็เป็นเครื่องมือของรัฐ เมื่อผู้บังคับบัญชาสั่งมาให้ติดตามก็ต้องปฏิบัติ แต่ยอมรับว่า การไปติดตามตรวจสอบอาจจะกระทบกระทั่งบ้าง ทั้ง ผกก., รอง ผกก. (สอบสวน) และ รอง ผกก.ปราบปราม ยอมรับว่าคำสั่งให้ติดตามนักเรียนไม่ถูกต้อง และรับว่าจะดำเนินการตามข้อเสนอของไผ่
  • เวลา 15.00 น. ขณะไผ่และกลุ่มราษฎรยังชุมนุมหน้า สภ.ภูเขียว เพื่อรอการแถลงขอโทษของตำรวจในช่วงเย็น “พ่อไผ่” วิบูลย์ บุญภัทรรักษา ก็โพสต์แจ้งว่า มีตำรวจนอกเครื่องแบบขับรถวนมาผ่านบ้านใน อ.ภูเขียว หลายครั้ง
  • เวลา 16.50 น. ผู้ชุมนุมนำป้าย “ปฏิรูปสถาบันกษัตริย์” ขึ้นแขวน หน้า สภ.ภูเขียว ตำรวจได้เข้ายื้อแย่งป้าย อ้างว่า กีดขวางทางประชาชนที่จะมาทำธุระที่สถานีตำรวจ จนถูกลำโพงล้มลงใส่ศีรษะไผ่ เกิดการโต้เถียงกันกว่า 5 นาที ก่อนผู้ชุมนุมนำป้ายขึ้นแขวนอีกครั้ง และเปิดเวทีปราศรัย
  • เวลา 20.30 น. "ราษฎร" อ่านแถลงการณ์ต่อต้านการรัฐประหารในเมียนมาและเรียกร้องประชาคมอาเซียนให้สนับสนุนประชาธิปไตย ก่อนปิดเวทีปราศรัย โดยตำรวจยังไม่มีการแถลงขอโทษตามที่รับปากไว้ ทำให้นักกิจกรรมยังคงรวมตัวกันพักค้างแรมหน้า สภ.ภูเขียว เตรียมจัดกิจกรรมในวันพรุ่งนี้ต่อไป
  • เวลา 23.30 น. ตำรวจเข้ายึดป้าย #saveเมียนมา #ปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ ขณะกลุ่ม “ราษฎร” เก็บเต็นท์และอุปกรณ์ออกจากหน้า สภ.ภูเขียว หลังมีข่าวว่าจะมีการสลายการชุมนุม ตำรวจยอมรับว่า ป้ายดังกล่าวไม่ได้เข้าองค์ประกอบความผิดตามกฎหมาย แต่ขอยึดไว้เป็นพยานหลักฐาน "ไมค์" พยายามขอป้ายคืน แต่ตำรวจปฏิเสธ ขณะที่มีการเพิ่มกำลังตำรวจที่หน้า สภ.
สแกน QR Code เพื่อร่วมบริจาคเงินให้กับประชาไท

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net