Skip to main content
sharethis

กลุ่มเสรีมวลชนเพื่อสังคม จัดกิจกรรม 'ค่ายคิดแต่ไม่ถึง : ภาษี ชีวิต กับอนาคตที่ดีกว่า' ให้ความรู้ทางวิชาการเกี่ยวกับปัญหาโครงสร้างภาษีและปัญหาการจัดสรรงบประมาณของไทย รวมทั้งความรู้เกี่ยวกับโครงสร้างภาษีและการจัดสรรงบประมาณเพื่ออนาคตที่ดีกว่า แก่เยาวชน ต.นาแสง อ.ศรีวิไล จ.บึงกาฬ

เมื่อวันที่ 10-11 ต.ค. 2563 กลุ่มเสรีมวลชนเพื่อสังคม ร่วมกับวิทยาลัยการเมืองการปกครอง มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ได้ดำเนินโครงการให้ความรู้ทางวิชาการเกี่ยวกับปัญหาโครงสร้างภาษีและปัญหาการจัดสรรงบประมาณของไทย รวมทั้งความรู้เกี่ยวกับโครงสร้างภาษีและการจัดสรรงบประมาณเพื่ออนาคตที่ดีกว่า ภายใต้โครงการพลเมืองเสรีเพื่อการเปลี่ยนแปลงสู่โลกและสังคมที่เป็นธรรม ตอน “ค่ายคิดแต่ไม่ถึง : ภาษี ชีวิต กับอนาคตที่ดีกว่า” ณ โรงเรียนภูทอกวิทยา ต.นาแสง อ.ศรีวิไล จ.บึงกาฬ โดยมีผู้ดำเนินโครงการรวม 39 คน เป็นนิสิต 38 คน และอาจารย์ที่ปรึกษา 1 คน ทั้งนี้มีนักเรียนโรงเรียนภูทอกวิทยา และเยาวชน ต.นาแสง ระดับชั้นมัธยมปลายเข้าร่วมโครงการ 105 คน
    
วันแรก (10 ต.ค. 2563) ของการดำเนินโครงการร่วมกับนักเรียนโรงเรียนภูทอกวิทยาและเยาวชนตำบลนาแสง ในช่วงเช้าเป็นพิธีเปิดมี นายบุญธรรม ลวิราช กำนันตำบลนาแสงเป็นประธาน หลังจากพิธีเปิดมีการแยกเข้าฐานซึ่งแต่ละฐานเป็นการให้ความรู้เกี่ยวกับโครงสร้างภาษีของไทย ปัญหาโครงสร้างภาษีและปัญหาการจัดสรรงบประมาณของไทย และความรู้เกี่ยวกับโครงสร้างภาษีและการจัดสรรงบประมาณเพื่ออนาคตที่ดีกว่า โดยดำเนินการผ่านเกม กล่าวคือเป็นการเล่นเกมแล้วเชื่อมโยงเข้ากับเนื้อหาเรื่องภาษี ชีวิต กับอนาคตที่ดีกว่า

ประกอบด้วย ฐาน 1 “ไม่เบาหวานก็ความดัน” กล่าวถึง ภาพรวมของหลักการภาษีทั่วไป และชี้ให้เห็นว่าโครงสร้างภาษีของไทยในปัจจุบันมีรูปร่างหน้าตาเป็นอย่างไร ฐาน 2 “อ๋อ…โรคเก๊าท์” กล่าวปัญหาที่เกิดจากโครงสร้างภาษีของไทยในปัจจุบัน ชี้ให้เห็นว่าด้วยโครงสร้างภาษีที่ใช้อยู่ในปัจจุบันนี้ทำให้เกิดปัญหาความยากจน สวัสดิการรัฐไม่ทั่วถึง ความขัดแย้ง และประชาธิปไตยที่ไม่พัฒนา และฐาน 3 “นิมนต์พระบัดเดี๋ยวนี้” กล่าวถึง ปัญหาการจัดสรรงบประมาณที่ไม่สมดุลระหว่างงบด้านความมั่นคงที่ได้ใกล้เคียงกับงบที่ใช้พัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน และความไม่สมดุลระหว่างการจัดสรรงบให้เมืองหลวงกับต่างจังหวัดที่มีความเหลื่อมล้ำกันสูงเพราะการปกครองแบบรวมศูนย์อำนาจ

วันต่อมา (11 ต.ค. 2563) ช่วงเช้ามีการเข้าฐานสุดท้ายคือฐาน 4 “ความสุขของกะทิ” กล่าวถึง โครงสร้างภาษีและการจัดสรรงบประมาณเพื่ออนาคตที่ดีกว่า โดยเสนอว่าควรใช้ภาษีอัตราก้าวหน้า คนมีมากจ่ายมากคนมีน้อยก็จ่ายน้อย เพราะว่าคนที่ร่ำรวยนั้นกอบโกยประโยชน์จากสังคมมากกว่าคนยากจน ดังนั้นจึงถูกต้องแล้วที่จะต้องเก็บภาษีจากคนร่ำรวยเพื่อนำมาใช้สร้างสวัสดิการให้คนในสังคม และจัดสรรงบประมาณมาพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนในสังคม เช่น พัฒนาการศึกษา สาธารณสุข ทั้งนี้เมื่อคนในสังคมมีคุณภาพชีวิตที่ดี มีการศึกษา ก็ถือเป็นประโยชน์ของคนร่ำรวยเองด้วย ไม่ว่าจะการได้แรงงานที่มีคุณภาพ สภาพสังคมเหมาะแก่การลงทุนทำธุรกิจ ก็จะทำให้คนรวยมีทรัพย์สินที่เพิ่มมากขึ้น เมื่อทุกคนในสังคมได้ประโยชน์จากการเก็บภาษีและการจัดสรรงบแบบนี้ ก็ส่งผลให้ประชาธิปไตยมีความมั่นคงมากขึ้นเพราะคนในสังคมต่างมีศักดิ์ศรีและความเสมอภาคเท่าเทียมกัน ทุกคนช่วยกันยกระดับสังคมให้ดีขึ้นไม่ใช่แค่พึ่งพากลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง

จากนั้นได้มีการมอบเกียรติบัตรและจุลสารเสรีปริทัศน์ซึ่งจัดทำขึ้นโดยทางกลุ่มเสรีมวลชนเพื่อสังคม แก่ผู้เข้าร่วมโครงการทุกคนก่อนพิธีปิด จากที่ได้จัดทำโครงการนี้ทำให้นิสิตผู้ดำเนินโครงการ นักเรียนและเยาวชนในตำบลนาแสงผู้เข้าร่วมโครงการได้ตระหนักถึงปัญหาโครงสร้างภาษีและการจัดสรรงบประมาณของไทยในปัจจุบัน และได้รับความรู้เกี่ยวกับโครงสร้างภาษีและการจัดสรรงบประมาณเพื่ออนาคตที่ดีกว่า โดยมุ่งหวังว่าผู้เข้าร่วมโครงการจะนำความรู้เชิงวิพากษ์นี้ไปเป็นแนวทางเพื่อยกระดับสังคมต่อไป
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net