นักสิทธิฯ นักวิชาการขอให้หยุดนิคมอุ
แฟ้มภาพ 'เครือข่ายจะนะรักษ์ถิ่น' ค้านโครงการนิคมอุตสาหกรรมฯ จะนะ เมื่อเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา
1 ต.ค.2563 ผู้สื่อข่าวได้รับจดหมายเปิดผนึกจากผู้ทำงานภาคประชาสังคม นักสิทธิมนุษยชน นักวิชาการ ถึง เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจั
โดยมีรายละเอียดจดหมายดังนี้
วันที่ 1 ตุลาคม 2563
เรื่อง ขอให้หยุดนิคมอุ
เรียน เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจั
สำเนาส่งถึง 1. ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา
เมื่อวันที่ 28 กันยายน 2563 ที่ศาลากลางจังหวัดสงขลา มีการประชุมคณะกรรมการที่ปรึ
รายนามบุคคลและองค์กรที่แนบท้
องค์กรภาคประชาสังคมและบุ
รายนามบุคคลและองค์กรที่แนบท้
ด้วยความเคารพอย่างสูง
ลงชื่อ
1. รอซิดะห์ ปูซู ประธานเครือข่ายผู้หญิงยุติ
2. สุชาติ เศรษฐมาลินี อดีตหัวหน้าสาขาวิชาการสร้างสั
3. วรรณกนก เปาะอิแตดาโอะ นายกสมาคมเด็กและเยาวชนเพื่อสั
4. พรเพ็ญ คงขจรเกียรติ มูลนิธิผสานวัฒนธรรม
5. อัญชนา หีมมิหน๊ะ กลุ่มด้วยใจ
6. ปาตีเมาะ เปาะอิแตดาโอะ ประธานสมาคมผู้หญิงเพื่อสันติ
7. ผศ.ดร.กัลยา ดาระหะ อดีตประธานหลักสูตรสั
8. ลม้าย มานะการ เลขาธิการสมาคมลุ่มน้ำสายบุรี
9. ฮันซอลาห์ มะสง ประธานสภานักเรียนโรงเรี
กรมโยธาฯ แจง 3 ข้อ ปมเปลี่ยนผังเมืองรวมจากสีเขียวเป็นสีม่วง
ขณะที่วานนี้ (30 ก.ย.63) เดลินิวส์ รายงาน คำอธิบายของ อนวัช สุวรรณเดช รองอธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง (ยผ.)ซึ่ง อนวัช ชี้แจงว่า กรณีที่เครือข่ายจะนะรักษ์ถิ่น รวมตัวกันที่ศาลากลาง จ.สงขลา ยื่นหนังสือคัดค้านการเปลี่ยนผังเมืองรวมจากสีเขียว เป็นสีม่วง เพื่อสร้างนิคมอุตสาหกรรม ในพื้นที่ 3 ตำบล ตามมติคณะรัฐมนตรี วันที่ 18 ส.ค. 2563 ไม่มีความชอบธรรมและไม่เป็นไปตามกระบวนการรับฟังความคิดเห็นประชาชนตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี พ.ศ. 2548 ดังนั้น การดำเนินการของกรมโยธาธิการและผังเมือง และสำนักงาน จ.สงขลา ที่จัดให้มีการประชุมคณะกรรมการที่ปรึกษาผังเมืองรวมในเขตจังหวัดสงขลา ในวันที่ 28 ก.ย.ที่ผ่านมา จึงเป็นการดำเนินการอันมิชอบ ภายใต้การตัดสินใจของรัฐบาลบนฐานข้อมูลอันผิดพลาดที่ ศอ.บต. จัดทำขึ้น
ทั้งยังผิดขั้นตอนตามพระราชบัญญัติผังเมือง พ.ศ. 2562 จึงเสนอให้กรมโยธาธิการและผังเมือง และสำนักงาน จ.สงขลา ยุติกระบวนการทั้งหมดที่กำลังดำเนินการเพื่อเปลี่ยนผังเมืองรวมจังหวัดสงขลาจากสีเขียวให้เป็นสีม่วง เพียงเพื่อตอบสนองผลประโยชน์กลุ่มทุนที่ต้องการใช้พื้นที่อำเภอจะนะ ตั้งเป็นเขตนิคมอุตสาหกรรม นั้น ว่า 1.ตามมติครม. วันที่ 18 ส.ค. เรื่องสรุปผลการประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กพต.) ครั้งที่ 1/2563 ตามที่ศูนย์ ศอ.บต. เสนอเรื่องผลการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนต่อการขับเคลื่อนโครงการในเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจ อ.จะนะ จ.สงขลา โดยมีประเด็นดังนี้ รับทราบและเห็นชอบรายงานผลการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนฯ ทั้ง 4 ประเภทการลงทุน (สวนอุตสาหกรรม อุตสาหกรรมสมัยใหม่และเทคโนโลยีแห่งอนาคต เมืองอัจฉริยะ ท่าเรือน้ำลึก ศูนย์กลางการขนส่งและกระจายสินค้า และศูนย์อุตสาหกรรมการผลิตไฟฟ้าสะอาด) และรายละเอียดการใช้ประโยชน์พื้นที่เพื่อนำไปสู่การดำเนินการปรับปรุงการใช้ประโยชน์ที่ดินของส่วนราชการที่เกี่ยวข้องต่อไป
ให้กรมโยธาธิการและผังเมืองและจ.สงขลา ดำเนินการปรับปรุงการใช้ประโยชน์ที่ดินในส่วนพื้นที่ที่เกี่ยวข้องกับแผนเร่งด่วนการลงทุนของภาคเอกชน 3 ตำบล นาทับ สะกอม และตลิ่งชัน อ.จะนะ จ.สงขลา ให้เป็นไปตามความเหมาะสมของพื้นที่ตามแผนเร่งด่วน การลงทุนของภาคเอกชนและผลการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนต่อไป ทั้งนี้ ให้ศอ.บต. ส่งผลรายงานผลการศึกษาความคิดเห็นของประชาชนฯ ไปยังหน่วยงานเป็นการเร่งด่วน และให้ศอ.บต.ประสานขับเคลื่อนมติ ของกพต.ไปยังคณะกรรมการนโยบายการผังเมืองแห่งชาติ ในฐานะกลไกเชิงนโยบายตามพระราชบัญญัติการผังเมือง พ.ศ. 2562 เพื่อพิจารณาเร่งรัดการดำเนินการของส่วนราชการที่เกี่ยวข้องกับการปรับปรุงการใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อรองรับการลงทุน ตามแผนเร่งด่วนการลงทุนของภาคเอกชน ทั้งนี้ ศอ.บต.ได้ประสานจ.สงขลา โดยผวจ.สงขลา มอบหมายให้สำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจ.สงขลา ดำเนินการปรับปรุงการใช้ประโยชน์ที่ดินตามอำนาจหน้าที่ต่อไป
อนวัช กล่าวว่า 2.ดังนั้นเพื่อให้เกิดการพัฒนาจังหวัดตามมติครม. เพื่อการขับเคลื่อนโครงการในเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจ อ.จะนะ จ.สงขลาจึงต้องดำเนินการขอแก้ไขกฎกระทรวงผังเมืองรวมจ.สงขลา พ.ศ. 2559 ตามมาตรา 35 แห่งพระราชบัญญัติการผังเมือง พ.ศ. 2562 เพื่อให้ผังสอดคล้องกับแผนงานโครงการ 4 ประเภทการลงทุนได้แก่สวนอุตสาหกรรมอุตสาหกรรมสมัยใหม่และเทคโนโลยีแห่งอนาคตเมืองอัจฉริยะ ท่าเรือน้ำลึก ศูนย์กลางการขนส่งและกระจายสินค้า และศูนย์อุตสาหกรรมการผลิตไฟฟ้าสะอาด โดยต้องนำประเด็นการขอแก้ไขกฎกระทรวงฯ เสนอ คณะกรรมการที่ปรึกษาผังเมืองรวมในเขตจ.สงขลา คณะกรรมการผังเมือง เพื่อพิจารณาให้ความเห็น โดยเมื่อคณะกรรมการผังเมืองให้ความเห็นชอบแล้ว จะต้องปิดประกาศ 30 วันโดยปิดประกาศแผนที่แสดงเขตของผังเมืองรวมที่แก้ไขและรายละเอียดของการแก้ไขไว้ในที่เปิดเผยภายในเขตของผังเมืองรวม โดยในประกาศให้มีคำเชิญชวนให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย แสดงข้อคิดเห็นเป็นลายลักษณ์อักษร ภายในระยะเวลาที่ระบุไว้ในประกาศ
3. ทั้งนี้เครือข่ายจะนะรักษ์ท้องถิ่น หากมีความเห็นต่างอย่างไร ก็สามารถแสดงข้อคิดเห็นเป็นลายลักษณ์อักษรได้ (ยื่นคำร้องเดิม) ตามกระบวนการแก้ไขกฎกระทรวงฯ ตามมาตรา 35 แห่งพระราชบัญญัติการผังเมืองพ.ศ. 2562 ซึ่งเป็นการแก้ไขผังเมืองรวมเฉพาะบริเวณหรือเฉพาะส่วนหนึ่งส่วนใดให้เหมาะสมกับสภาพการณ์และสิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไปหรือเพื่อประโยชน์สาธารณะ ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในจังหวัดมีสิทธิในการแสดงข้อคิดเห็นเป็นลายลักษณ์อักษรภายในระยะเวลาที่ระบุในประกาศ เพื่อให้คณะกรรมการผังเมืองพิจารณาคำร้อง และจะได้มีการแจ้งผลการพิจารณาข้อคิดเห็นต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสียต่อไป
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)