Skip to main content
sharethis

สมาคมสิทธิเสรีภาพของประชาชนและมูลนิธิเพื่อสิทธิมนุษยชนและการพัฒนาเรียกร้องให้นายกฯ สั่งการ ผบ.ตร.เร่งดำเนินคดีคนอุ้มเลขาฯกป.อพช.ไปข่มขู่ห้ามร่วมเวทีรับฟังความเห็นปชช.ประทานบัตรเหมืองแร่หิน และยกเลิกคำขอประทานบัตรโครงการเหมืองแร่ดังกล่าวของบริษัท สิงห์ศิลาทอง จำกัด จ.พัทลุง กป.อพช.ใต้ ยังออกแถลงการณ์ ให้เร่งดำเนินคดีข่มขู่คุกคามนักปกป้องสิทธิชุมชนด้วยความเป็นธรรมเช่นกัน

เอกชัย อิสระทะ (ที่มา: แฟ้มภาพ/นักข่าวพลเมือง ThaiPBS)

13 ส.ค.2562 สมาคมสิทธิเสรีภาพของประชาชน (สสส.) แจ้งว่า ทาง สสส. ร่วมกับ มูลนิธิเพื่อสิทธิมนุษยชนและการพัฒนา(มสพ.) ออกแถลงการณ์ต้องดำเนินคดีกับผู้ทำความผิดอย่างเด็ดขาดและพิจารณายกเลิกการขอประทานบัตรเหมืองแร่หินอุตสาหกรรมชนิดหินปูนของบริษัท สิงห์ศิลาทอง จำกัด

โดยระบุถึงกรณีที เอกชัย อิสระทะ เลขาธิการคณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชน (กป.อพช.)ได้ถูกชายฉกรรจ์จำนวนหนึ่งบังคับควบคุมให้ขึ้นรถยนต์ไปกักขังไว้ ณ สถานที่แห่งหนึ่ง พร้อมทั้งได้ยึดโทรศัพท์มือถือ รถยนต์ บัตรประจำตัวประชาชน และเมื่อปล่อยตัวแล้วยังข่มขู่ห้ามไม่ให้แจ้งความดำเนินคดี ไม่ให้ยุ่งเกี่ยวกับโครงการทำเหมืองหินนี้อีกต่อไป มิเช่นนั้นจะไม่รับรองความปลอดภัยของเอกชัยและครอบครัว ทั้งนี้ เพื่อขัดขวางไม่ให้เข้าร่วมเวทีรับฟังความคิดเห็นของประชาชนของสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดพัทลุง เพื่อประกอบการพิจารณาคำขอประทานบัตรเหมืองแร่หินอุตสาหกรรมของบริษัทสิงห์ศิลาทอง จำกัด เมื่อวันที 5 ส.ค.ที่ผ่านมา ณ มัสยิดอัสซอลีฮีน หมู่ที่ 4 ตำบลคลองใหญ่ อำเภอตะโหมด จังหวัดพัทลุง และวันนี้เอกชัย ได้แจ้งความกับกองบังคับการตำรวจภูธรภาค 9 (สงขลา) เพื่อดำเนินคดีกับผู้ที่กระทำผิดดังกล่าว นั้น

สสส. และ มสพ. เห็นว่าการข่มขู่ คุกคาม การยึดทรัพย์สิน และการบังคับกักขังนายเอกชัย เป็นการกระทำที่อุกอาจไม่ยำเกรงต่อกฎหมายบ้านเมือง เป็นการละเมิดสิทธิเสรีภาพในชีวิตที่ได้รับการคุ้มครองตามกฎหมายและรัฐธรรมนูญ เป็นการสกัดยับยั้งการใช้สิทธิเสรีภาพการมีส่วนร่วมสาธารณะของนักปกป้องสิทธิมนุษยชน ซึ่งรัฐต้องมีหน้าที่ในการปกป้องคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญ และตามปฏิญญาแห่งสหประชาชาติว่าด้วยนักปกป้องสิทธิมนุษยชน” (The UN Declaration on Human Rights Defenders) ที่รัฐไทยมีพันธกรณีต้องปฏิบัติตาม  อีกทั้งภาคธุรกิจเอกชนต้องเคารพสิทธิเสรีภาพในชีวิต และสิทธิการมีส่วนร่วมที่ได้รับรองไว้ตามกฎหมายและตามรัฐธรรมนูญ

สสส. และ มสพ.จึงมีข้อเรียกร้อง ดังนี้ 1. ขอให้นายกรัฐมนตรีในฐานะผู้กำกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติสั่งการให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเร่งดำเนินคดีกับผู้ทำความผิดตามกฎหมายอย่างเด็ดขาดไม่ปล่อยให้คนทำผิดลอยนวล เพื่อปกป้องคุ้มครองสิทธิในชีวิตและสิทธิการมีส่วนร่วมสาธารณะของ เอกชัย และประชาชน

และ 2. ขอให้พิจารณายกเลิกคำขอประทานบัตรโครงการเหมืองแร่หินอุตสาหกรรมชนิดหินปูน (เพื่ออุตสาหกรรมก่อสร้าง) ของบริษัท สิงห์ศิลาทอง จำกัด ในพื้นที่หมู่ที่ 4 ตำบลคลองใหญ่ อำเภอตะโหมด จังหวัดพัทลุง หากมีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำที่ละเมิดสิทธิเสรีภาพในชีวิต และสิทธิการมีส่วนร่วมตามกฎหมายละรัฐธรรมนูญ ทั้งอาจไม่ได้ปฏิบัติตามหลักการความรับผิดชอบต่อสังคมของกิจการเกี่ยวกับการเคารพสิทธิมนุษยชนและการปฏิบัติต่อแรงงานอย่างเป็นธรรม

คณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชนภาคใต้ (กป.อพช.ใต้) ยังออกแถลงการณ์ ให้เร่งดำเนินคดีข่มขู่คุกคามนักปกป้องสิทธิชุมชน ด้วยความเป็นธรรมด้วยเช่นกัน โดยมีรายละเอียดแถลงการณ์ดังนี้

แถลงการณ์คณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชนภาคใต้ (กป.อพช.ใต้) เรื่อง ขอให้เร่งดำเนินคดีข่มขู่คุกคามนักปกป้องสิทธิชุมชน ด้วยความเป็นธรรม

ตามที่นายเอกชัย อิสระทะ ซึ่งเป็นนักพัฒนาเอกชน และยังดำรงตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชน (กป.อพช.) ทั้งระดับภาคใต้และระดับชาติ และยังเป็นนักปกป้องสิทธิชุมชนที่ทำงานด้านสิ่งแวดล้อมมาอย่างยาวนาน ถูกคนกลุ่มหนึ่งควบคุมตัวและนำไปกักขังไว้ในที่แห่งหนึ่ง จนต้องสูญเสียอิสรภาพ พร้อมกับได้ยึดเครื่องมือสื่อสาร รถยนต์ และทรัพย์สินทั้งหมดที่นำติดตัวมา อันถือเป็นการกระทำที่อุกอาจเป็นอย่างมาก และไม่เกรงกลัวกฎหมายบ้านเมือง

เหตุการณ์ดังกล่าวนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2562 ณ มัสยิดแห่งหนึ่งของตำบลคลองใหญ่ อำเภอป่าบอน จังหวัดพัทลุง ซึ่งเป็นสถานทีจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นการขอประทานบัตรทำเหมืองแร่ของบริษัทสิงห์ศิลาทอง ที่จัดขึ้นตามการประกาศของเจ้าพนักงานอุตสาหกรรมแร่ประจำท้องที่จังหวัดพัทลุง ซึ่งมีผู้เข้าร่วมประชุมจำนวนหนึ่ง จึงถือได้ว่าสถานที่ดังกล่าวเป็นที่สาธารณะของชุมชน และการเข้ารับฟังความคิดเห็นในเวทีดังกล่าวนั้นได้เปิดกว้างให้กับประชาชนผู้มีส่วนได้เสียสามารถเข้าไปแสดงความคิดเห็นได้ ซึ่งเป็นไปตามความในใบประกาศของเจ้าพนักงานอุตสาหกรรมแร่ประจำท้องที่จังหวัดพัทลุง ที่ดำเนินการภายใต้พระราชบัญญัติแร่ พ.ศ.2560 มาตรา 56 ส่วนของนายเอกชัย อิสระทะ มีความประสงค์ที่จะเข้าไปสังเกตการณ์ในเวทีดังกล่าว แต่กลับถูกชายฉกรรจ์เกือบ 20 คน เข้าประกบและควบคุมตัวนำไปกักขังไว้ที่รีสอร์ทแห่งหนึ่งในอำเภอป่าบอน จังหวัดพัทลุง พร้อมกันนี้ได้ข่มขู่ว่าจะไม่รับรองความปลอดภัยหากนำเรื่องนี้ไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และในเหตุการณ์เดียวกันนี้ยังมีการกักกันตัวกลุ่มนักข่าวจากหลายสำนักที่จะเข้าไปทำข่าวในเวทีดังกล่าว จนทำให้สูญเสียอิสรเสรีภาพในการทำหน้าที่  ซึ่งหลังจากนั้นนักข่าวกลุ่มนี้ได้เข้ายื่นหนังสือร้องเรียนกับผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุงไปแล้ว

คณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชนภาคใต้ขอประณามการกระทำดังกล่าว ด้วยถือเป็นการกระทำที่ไม่เกรงกลัวต่อกฎหมายบ้านเมือง และยังเป็นการคุกคามกับนักปกป้องสิทธิชุมชนที่มีบทบาทด้านการอนุรักษ์คุ้มครองสิ่งแวดล้อมระดับภาคใต้ และระดับประเทศอย่างรุนแรงอีกเหตุการณ์หนึ่ง พร้อมกับห่วงกังวนต่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของนายเอกชัย อิสระทะ และครอบครัว ที่กำลังถูกคุกคามเพิ่มขึ้นหลังจากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวนั้น

จึงขอเรียกร้องให้หน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้อง ภายใต้การบริหารงานของรัฐบาลชุดนี้ออกมาแสดงความรับผิดชอบต่อสิ่งที่เกิดขึ้น พร้อมกันนี้ขอให้ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 เร่งดำเนินการกับคดีนี้อย่างรวดเร็วและตรงไปตรงมา เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างอีกต่อไป ทั้งนี้พวกข้าพเจ้าจะขอติดตามความคืบหน้าต่อเรื่องนี้อีกครั้งในอีก 7 วันข้างหน้า

จึงแถลงมาเพื่อทราบโดยทั่วกัน

คณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชนภาคใต้ (กป.อพช.ใต้)

แถลง ณ สำนักงานตำรวจภูธรภาค 9 (จังหวัดสงขลา)

วันที่ 13 สิงหาคม 2562

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net