Skip to main content
sharethis

ปรากฏการณ์ความขัดแย้งทางการเมืองที่ผ่านมาสร้างคำถามและข้อสงสัยมากมาย ทั้งยังทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์เรื่องต่างๆ ในทุกแง่มุม โดยสังคมออนไลน์กลายเป็นพื้นที่แสดงความคิดเห็นที่สำคัญที่สุดก็ว่าได้

ผู้มีชื่อเสียงในวงการบันเทิงก็เช่นเดียวกับคนทั่วไป หลายคนเลือกใช้สื่อออนไลน์ในการแสดงความเห็นทางการเมืองอย่างเต็มที่และตรงไปตรงมา ท่ามกลางการเมืองแบ่งฝักฝ่าย ความคิดเห็นทางการเมืองย่อมต้องมีคนชอบและไม่ชอบ และกระแสในโซเชี่ยลก็ทำให้เกิดผลกระทบต่อหน้าที่การงานได้ ในวงการบันเทิง การแสดงความเห็นทางการเมืองถูกมองว่าเป็น ‘การฆ่าตัวตาย’ ดาราและศิลปินหลายคนได้รับผลกระทบ ปรากฏการณ์นี้เป็นปรากฏการณ์ที่ค่อนข้างใหม่ จึงขอรวบรวมบันทึกไว้ในเบื้องต้น

1.

ฟลุ๊ค เดอะสตาร์(พชร ธรรมมล) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก "Phachara Thammon" ประกาศจะช่วยเหลือ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หากมีความผิดในคดีจำนำข้าว และถูกดำเนินการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหาย โดยจะสมทบทุนเงินช่วยเหลือจำนวน 10,000 บาท การแสดงความคิดเห็นเช่นนี้ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์จากหลายฝ่ายในโลกออนไลน์ ความขัดแย้งเกิดขึ้นแม้แต่ในครอบครัว กระทั่งมีการประกาศ ‘ตัดพ่อตัดลูก’ กัน ที่ผ่านมาเขาลงมาเล่นการเมืองอย่างเต็มตัวโดยเป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยรักษาชาติ พร้อมระบุไม่อยากให้ความคิดเห็นที่แสดงในโซเชียลไร้ค่า

2.

พิธีกรสาว "ตุ๊ก ญาณี จงวิสุทธิ์" ถูกปลดจากตำแหน่งผู้ดำเนินรายการ "วีไอพี"  หลายฝ่ายต่างพาตั้งข้อสังเกตว่าประเด็นที่โดนปลด เป็นเพราะพิธีกรคนนี้ได้ขึ้นเวทีปราศรัยของ กปปส. โดยได้แสดงออกล้อเลียนนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรีในขณะนั้น อย่างไรก็ตาม เจ้าตัวได้กล่าวในภายหลังว่า การโดนปลดจากรายการไม่เกี่ยวข้องกับการเมืองแต่อย่างใด การเปลี่ยนพิธีกรได้คุยกันมาตั้งนานแล้วซึ่งเป็นเรื่องความเหมาะสมของรายการ ตนเองพร้อมน้อมรับความเปลี่ยนแปลง

3.

อุ๊ หฤทัย ชื่อของอดีตนักร้องหญิงเพลงป๊อปร็อกคนหนึ่งถูกพูดถึงอย่างมากอีกครั้ง ไม่ใช่ในฐานะนักร้องแต่เป็นบทบาททางการเมือง ในอดีตอุ๊เคยเล่นการเมืองในสังกัดพรรคประชาธิปัตย์ เป็น 1 ใน 7 สมาชิกสภาเขต หรือ ส.ข. เขตพระโขนง และเคยขึ้นเวทีปราศรัยของกปปส.กระทั่งล่าสุด เธอโพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวท้านายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ดีเบต หลังจากก่อนหน้านี้อุ๊แสดงความเห็นในทำนองว่าแนวคิดของนายปิยบุตรมีความรุนแรงและกระทบกระเทือนต่อสถาบันกษัตริย์ ต่อมาเธอยังดำเนินการแจ้งความดำเนินคดีมาตรา 116 กับปิยบุตรด้วย ที่เป็นเรื่องตลกร้ายยิ่งกว่าคือ มีเว็บไซต์หนึ่งเสนอข่าวการแจ้งความครั้งนี้แต่ใส่ภาพเป็น แอม เสาวลักษณ์ ลีละบุตร นักร้องชื่อดัง แม้เว็บไซต์ดังกล่าวได้แก้ไขแล้วแต่ผลที่ตามมาไม่ใช่เรื่องเล็ก ข่าวเผยแพร่ไปถึงประชาชนและเป็นภาพจำว่าแอมมีจุดยืนเช่นนี้ และยากจะคาดเดาว่าคนที่ได้รับข่าวที่ถูกต้องเท่ากับจำนวนคนที่รับข่าวที่ผิดพลาดในตอนแรกหรือไม่

4.

ล่าสุดที่เป็นประเด็นใหญ่ คือ นักแสดงชายชื่อดัง ปั้นจั่น ปรมะ อิ่มอโนทัย เขาโพสต์เฟสบุ๊คว่า “คสช. อยู่มา 4-5 ปี บอกสืบทอดอำนาจ ได้อยู่ต่ออีก 3 ปี ก็ยังบอกสืบทอดอำนาจ แล้วไอ้ที่สืบๆ กันมาจนลูกจบนอกขับรถซุปเปอร์คาร์นี่มันยังไง ตรูไม่เห็นจะมีนักการเมือง ใช้ชีวิตธรรมดาสักคน ต้นทุนบางคนที่ได้มาพ่อแม่ก็เอามาจากภาษีประชาชนทั้งนั้น ฉะนั้นอย่าบ่นมาก" พริบตาเดียวประโยคนี้ถูกวิจารณ์อย่างเผ็ดร้อน กว้างขวาง ก่อนภายหลังปั้นจั่นลบโพสต์ดังกล่าว แต่ดูเหมือนจะไม่ทันการณ์ เพราะมีกระแสบอยคอตผลงานของดาราคนนี้เกิด

ผลของการสร้างกระแสตอบโต้โดยการบอยคอต เห็นผลทันดา เพราะมันเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่ภาพยนตร์เรื่อง “รัก 2 ปี ยินดีคืนเงิน”  ที่ปั้นจั่นนำแสดงกำลังเข้าฉาย ในรอบสื่อมวลชน ปั้นจั่นได้ขอโทษกับการแสดงความเห็นทางการเมืองดังกล่าว เขาขอโทษทางทีมงานของหนังนี้รวมถึงแฟนคลับของเขาที่ได้รับผลกระทบ แต่ความไม่พอใจยังคงอยู่ จากนั้น มีการรณรงค์ติดแฮชแท็ก #savepunjan โดยเรียกร้องให้เคารพความคิดเห็นที่แตกต่างด้วย

อย่างไรก็ตาม หลังหนังเรื่องนี้ฉายในโรงภาพยนต์พบว่า บรรยากาศนั้นเงียบเหงาวังเวงอย่างแท้จริง โดยหลายคนตั้งคำถามว่า เป็นเพราะหน้าหนังเองไม่น่าสนใจด้วยหรือไม่

5.

ชาวโซเชี่ยลขุดทวิตเตอร์ของครูลูกกอล์ฟ คณาธิป สุนทรรักษ์ เจ้าของสถาบันสอนภาษาและเป็นดีเจชื่อดัง ที่เคยโพสต์ไว้เมื่อ 9 ปีก่อน (2553) ในช่วงการเมืองกำลังรุนแรงว่า “ฆ่าพวกแม่งเหอะ พวกที่กำลังเผาประเทศอยู่” ต่อมาครูลูกกอล์ฟได้ออกมาขอโทษผ่านทวิตเตอร์ของตนเอง โดยชี้แจงว่า

“มีช่วงหนึ่งในชีวิต ที่พี่มีความคิดที่น่ารังเกียจ ไม่มีอะไรจะแก้ตัว ทุกอย่างที่เราแชร์ไป เราต้องรับผิดชอบ พี่ขอรับผิดชอบกับความคิดที่น่ารังเกียจของพี่ทั้งหมด พี่ขอโทษ อ่านข้อความของตัวเองในวันนั้น ยังเกลียดตัวเองเลย พี่กลับไปแก้ไขอดีตไม่ได้ แต่พี่ขอทำให้ปัจจุบันดีขึ้นแล้วกันนะคะ"

"ช่วงเรียนจบใหม่ๆ พี่เคยเป็นคนก้าวร้าว นิสัยไม่ดี ปากจัด เหยียดคนอื่น ไม่รับฟังความเห็น ไม่เข้าใจความต่าง ดูถูกคน ชอบประชด แต่เสือกไปสอนคนอื่น ทั้งๆ ที่ตัวเองก็ไม่ได้ดี พี่ได้เรียนรู้ ที่จะโตขึ้น วันนี้ให้พี่มองย้อนกลับไป พี่ยังรังเกียจตัวเองเลย"

"พี่กลับไป แก้ไขอดีตไม่ได้ ได้แต่รับผิดชอบ และก้าวต่อไป ขอโทษนักเรียนและคนที่ติดตามกันทุกคน ที่อาจจะไปเจอข้อความทางความคิด ที่น่ารังเกียจเหล่านั้น"

"จริงๆ พี่ตั้งใจทำ social media detox 4 วัน แต่ผู้จัดการทักมาเรื่องนี้ เลยต้องออกมาพูดก่อน พี่จะขอทำ social media detox ต่อแล้วนะคะ จะมาใหม่วันอังคาร ระหว่างนี้ ใครเจอข้อความในอดีตของพี่ที่น่าขยะแขยงเหล่านั้น พี่ขอโทษอีกครั้ง มีอะไรเราคุยกันต่อวันอังคารนะคะ”

ล่าสุดกรณีนายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ หรือ จ่านิว นักเคลื่อนไหวทางการเมืองถูกทำร้าย ทำให้เกิดกระแสต่างๆ มากมาย หนึ่งในนั้น คือ การโพสต์เฟซบุ๊กในชื่อ “หนุ่ม” ไพฑูรย์ ส่งอุบล นักแสดงตัวประกอบของละครเรื่อง หัวใจศิลา ซึ่งมีข้อความในเชิงแซะจ่านิวในเรื่องเงินบริจาค มีการตอบกลับและการแสดงความเห็นไม่เห็นด้วยกับข้อความดังกล่าว แต่นักแสดงก็ไมได้ลบข้อความแต่อย่างใด

นี่คือปรากฏการณ์ที่น่าสนใจ เพราะเป็นยุคที่มีการแสดงความคิดเห็นอย่างหลากหลาย เต็มที่ กว้างขวาง การตอบกลับก็เต็มเหนี่ยวเช่นกัน สร้างคำถามและบทสนทนาต่อยอดกันไปได้อีกมาก แต่อย่างน้อยมันก็ทำให้เราเห็นว่า ความคิดทางการเมืองนั้นเคลื่อนที่ได้ ไม่ได้หยุดนิ่งตายตัว อยู่ที่จะเรียนรู้ เสพข้อมูลให้รอบด้านมากขึ้นหรือไม่ และจะจัดการกับหลักฐานความคิดในอดีตของตนเองอย่างไร

 

อ้างอิง : 

https://www.sanook.com/news/1886198/

https://www.sanook.com/news/1508000/

https://workpointnews.com/2019/04/07/         

https://www.thebangkokinsight.com/164744/ 

https://www.thairath.co.th/entertain/news/1603065

https://www.khaosod.co.th/monitor-news/news_2664242

ภูมิรพี โรจนะบุรานนท์ ผู้รายงานชิ้นนี้ เป็นนักศึกษาฝึกงานกับประชาไท โดยเขาเป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 3 วิทยาลัยสหวิทยาการ สาขาปรัชญา การเมือง และเศรษฐศาสตร์ ธรรมศาสตร์ 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net