Skip to main content
sharethis

แกนนำพรรคพลังประชารัฐหารือหลังพรรคเพื่อไทยร้องเรียนคุณสมบัติ 'ชาญวิทย์ วิภูศิริ' กรรมการบริหาร พปชร. และว่าที่ ส.ส. ถือหุ้นสื่อ โดยชี้แจงว่าบริษัททำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ แต่จดแจ้งวัตถุประสงค์ประกอบกิจการไว้ข้อหนึ่งว่าประกอบกิจการวิทยุและโทรทัศน์จึงถูกนำไปร้องเรียน โดยพรรคพร้อมชี้แจงกับ กกต. ทันทีที่ถูกเรียก

เพื่อไทย ยื่น กกต. สอบว่าที่ ส.ส.-กรรมการบริหาร พปชร. ถือหุ้นสื่อ, 27 เม.ย. 2562

30 เม.ย. 2562 กรณีณรงค์ รุ่งธนวงศ์ หัวหน้าศูนย์ข้อมูลและสถิติ กองอำนวยการเลือกตั้ง จากพรรคเพื่อไทย ไปยื่นคำร้อง กกต. ขอให้ตรวจสอบคุณสมบัติของ ชาญวิทย์ วิภูศิริ ว่าที่ ส.ส.กทม. เขตเลือกตั้งที่ 15 สังกัดพรรคพลังประชารัฐ และกรรมการบริหารพรรค เนื่องจากตรวจพบว่าอาจเป็นเจ้าของและผู้ถือหุ้นบริษัทที่จดทะเบียนมีวัตถุประสงค์ประกอบกิจการหนังสือพิมพ์ และสื่อมวลชนนั้น

ที่ทำการพรรคพลังประชารัฐ ถ.รัชดาภิเษก (แฟ้มภาพ)

แฟ้มภาพ สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ภาพถ่ายเดือนกุมภาพันธ์ 2562

ชาญวิทย์ วิภูศิริ ว่าที่ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ และกรรมการบริหารพรรค ลงพื้นที่หาเสียงเขตมีนบุรี กรุงเทพมหานคร ภาพถ่ายเมื่อ 7 กุมภาพันธ์ 2562 (ที่มา: Facebook/ชาญวิทย์ วิภูศิริ)

ล่าสุดข่าวสดออนไลน์ รายงานเมื่อวันที่ 29 เม.ย. เวลา 10.00น. ที่พรรคพลังประชารัฐ มีประชุมแกนนำพรรคโดยอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค, สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค, สุวิทย์ เมษินทรีย์ รองหัวหน้าพรรค, พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ กรรมการบริหารพรรค ฯลฯ เพื่อหารือกรณีที่ชาญวิทย์ วิภูศิริ ถูกพรรคเพื่อไทยร้องว่าถือหุ้นสื่อ

โดยวันดังกล่าวชาญวิทย์ ได้นำเอกสารหลักฐานชี้แจงในที่ประชุม ว่าบริษัทที่ถูกร้องเรียนเป็นบริษัทที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ จดแจ้งวัตถุประสงค์ประกอบกิจการถูกบันทึกอยู่ในหนังสือบริคณห์สนธิ ซึ่งระบุข้อหนึ่งว่า ประกอบกิจการวิทยุและโทรทัศน์ จึงเป็นประเด็นให้ถูกนำไปร้องเรียน ทั้งนี้ในที่ประชุมคาดการณ์ว่ากรณีการถือหุ้นสื่อ อาจมีกรรมการบริหารพรรคอย่างน้อย 2 คนอาจถูกร้องเรียนในลักษณะเดียวกันคือ พงศ์กวิน จึงรุ่งเรืองกิจ ว่าที่ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และ น.ส.ธณิกานต์ พรพงษาโรจน์ ว่าที่ ส.ส.กทม.และกรรมการบริหารพรรค

ซึ่งทั้ง 2 คนได้ชี้แจงต่อที่ประชุมว่า มีบริษัทที่จดแจ้งวัตถุประสงค์ว่าประกอบธุรกิจสื่อจริง แต่ในทางปฏิบัติไม่ได้ทำธุรกิจเกี่ยวกับสื่อ และเป็นเพียงการจดแจ้งวัตถุประสงค์การทำธุรกิจตามแบบฟอร์มของกรมพัฒนาธุรกิจการค้าเท่านั้น ส่วนที่มีการวิจารณ์ว่าวทันยา วงษ์โอภาสี หรือมาดามเดียร์ ว่าที่ ส.ส.บัญชีรายชื่อของพรรค อาจอยู่ในข่ายถูกร้องเรียน การถือหุ้นสื่อด้วยนั้น ในที่ประชุมประเมินว่าในทางนิตินัย กรณีของวทันยาไม่เข้าข่ายขาดคุณสมบัติ แต่การยกประเด็นดังกล่าวขึ้นมาเพื่อหวังผลการเมืองมากกว่า

นอกจากนั้นในที่ประชุมได้มีการประเมินสถานการณ์ว่าหากถูกผู้ถูกร้องมีความผิดจริง ก็จะไม่เลวร้ายถึงขั้นยุบพรรค และเป็นเรื่องคุณสมบัติของตัวบุคคลเท่านั้น ซึ่งในช่วงก่อนการเลือกตั้งพรรคพลังประชารัฐ ชี้แจงเรื่อง คุณสมบัติต้องห้ามให้ผู้สมัครทุกคนได้รับทราบ ผู้สมัครทุกคนต้องจัดการตัวเองมาเรียบร้อยแล้ว ขณะเดียวกันในช่วงที่นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ถูกร้องเรียนกรณีถือหุ้นสื่อ ทางพรรคก็ได้เน้นย้ำกับว่าที่ ส.ส.ทั้งหมด ให้กลับไปตรวจสอบคุณสมบัติต้องห้ามอีกครั้งเพื่อจะได้ชี้แจงข้อสงสัย หากมีการร้องเรียนในลักษณะนี้เกิดขึ้น โดยหลังการประชุม แกนนำพรรคไม่มีการแถลงเพิ่ม

ด้านวิเชียร ชวลิต นายทะเบียนพรรคพลังประชารัฐกล่าวว่า ขณะนี้พรรคไม่จำเป็นต้องชี้แจงใดๆ กับสาธารณะ แต่เบื้องต้นได้เตรียมพยานหลักฐานไว้แล้ว หาก กกต.รับคำร้องพิจารณา เมื่อถึงเวลานั้นพรรคพร้อมชี้แจงทันที 

สำหรับชาญวิทย์ วิภูศิริ เป็นลูกชายของ อัศวิน วิภูศิริ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ อดีตเป็นกรรมการผู้จัดการ บมจ.ภัทร เฮ้าส์ แอนด์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) โดยในการเลือกตั้ง 24 มี.ค. ที่ผ่านมา ชาญวิทย์ วิภูศิริ ซึ่งเป็น 1 ใน 25 กรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ ลงเป็นผู้สมัคร ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ เขต 15 กทม. (มีนบุรี-คันนายาว) โดยเอาชนะวิชาญ มีนชัยนันท์ ผู้สมัครพรรคเพื่อไทย ด้วยคะแนน 31,551 ต่อ 30,123 คะแนน

สแกน QR Code เพื่อร่วมบริจาคเงินให้กับประชาไท

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net