Skip to main content
sharethis

ทนายความตัวแทนเครือข่ายชาวพุทธเพื่อคุ้มครองส่งเสริมพระพุทธศาสนาเข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจขอให้เรียกตัวแทน ม.อ.ปัตตานี ไปเจรจาให้ "ปราม" กลุ่ม PerMAS หลังกลุ่มนักศึกษาเคลื่อนไหวเรียกร้องยกเลิกใช้กฎอัยการศึก ด้าน เลขาฯ PerMAS ชวนยิ้ม อดกลั้นต่อทุกปฏิกิริยาเพื่อรักษาหลัก

เครือข่ายชาวพุทธเพื่อคุ้มครองส่งเสริมพระพุทธศาสนา (คพศ.) จากท้องที่ จ.ยะลา เดินทางมายื่นหนังสือต่อ ผกก.สภ.เมือง จ.ปัตตานี (ภาพจากเฟสบุ๊ก บุษยมาส อิศดุลย์)

26 ก.ย.2561 ความคืบหน้ากรณีสหพันธ์นิสิตนักศึกษาเยาวชน นักเรียนปาตานี (PerMAS) ที่จัดกิจกรรมคัดค้าน ประกาศ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า กรณีให้ ต.บางเขา และ ต.ท่ากำซำ อ.หนองจิก จ.ปัตตานี เป็นพื้นที่ควบคุมพิเศษชั่วคราว กับการเคลื่อนไหวคัดค้านกิจกรรมของ PerMAS นั้น

ล่าสุดวันนี้ (26 ก.ย.61) วอยส์ออนไลน์และผู้จัดการออนไลน์ รายงานว่า สมนึก ระฆัง ทนายความและประธานเครือข่ายชาวพุทธเพื่อคุ้มครองส่งเสริมพระพุทธศาสนา (คพศ.) พร้อมเครือข่าย จำนวน 4 คน จากท้องที่ จ.ยะลา เดินทางมายื่นหนังสือต่อ พ.ต.อ.กีรติ แวยูโซ๊ะ ผกก.สภ.เมือง จ.ปัตตานี

สมนึก ตอบคำถามผู้สื่อข่าวว่า ทางกลุ่มได้ตกลงกับเจ้าหน้าที่ว่าจะขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นคนกลางเรียกตัวแทนของมหาวิทยาลัยไปพูดคุยทำความเข้าใจกับความวิตกกังวลของกลุ่มในเรื่องพฤติกรรมของนักศึกษากลุ่ม PerMAS ที่กลุ่มเห็นว่าไม่เหมาะสม

โดยก่อนหน้านั้นได้มีการแจ้งกับผู้สื่อข่าวในพื้นที่ผ่านการสื่อสารไลน์กลุ่มว่า จะมีกลุ่มคนพุทธเดินทางไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อให้มีการดำเนินคดีกับกลุ่มเปอร์มาสในฐานะที่ทำผิดกฎหมาย เพราะต่อต้านการใช้กฎอัยการศึกและใส่ข้อความที่ขัดรัฐธรรมนูญไว้ในแถลงการณ์ของกลุ่ม 

อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ได้พูดคุยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว สมนึกและสมาชิกส่วนหนึ่งระบุว่าพวกเขาไม่ได้เดินทางไปเพื่อจะแจ้งความแต่อย่างใด เพียงแต่ต้องการให้เจ้าหน้าที่เป็นตัวกลางเรียกตัวแทนมหาวิทยาลัยไปพูดคุยเพื่อให้ช่วยดูแลพฤติกรรมของนักศึกษาในสังกัด 

ตัวแทนที่ร่วมหารือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเสริมว่า สิ่งที่กลุ่มต้องการคือการได้พูดคุยกับตัวแทนของมหาวิทยาลัย ไม่ใช่พูดคุยกับกลุ่มเปอร์มาส และอยากเห็นมหาวิทยาลัยมีความรอบคอบในการจัดกิจกรรมต่างๆ 

รายงานข่าวของผู้จัดการออนไลน์และวอยส์ออนไลน์ ยังรายงานตรงกันว่า ในการไปพบเจ้าหน้าที่ตำรวจวันนี้ สมนึกมีผู้ร่วมเดินทางไปด้วย และในระหว่างที่ตัวแทนหลักเข้าพบและหารือกับเจ้าหน้าที่ ผู้ร่วมทีมได้เกิดปัญหากับผู้สื่อข่าวจำนวนหนึ่งเนื่องจากไม่พอใจที่ผู้สื่อข่าวถ่ายภาพโดยไม่ขออนุญาตจนถึงขั้นสมาชิกในกลุ่มบางรายขู่จะฟ้องร้องผู้สื่อข่าว จนกระทั่งต้องมีการต่อรองให้ผู้สื่อข่าวลบรูปภาพผู้ที่ร่วมเดินทางบางคนออกจึงยุติเรื่องลงได้ แต่ทั้งหมดนั้นทำให้กลุ่มผู้สื่อข่าวสับสนว่ากลุ่มต้องการจะเผยแพร่ข้อมูลการพบปะกันต่อสาธารณะจริงดังที่มีการส่งคำเชิญให้สื่อไปทำข่าวก่อนหน้านั้นหรือไม่ ซึ่งตัวแทนบางรายอธิบายว่า สมาชิกในกลุ่มคิดเห็นต่างกัน บ้างก็พร้อมเป็นข่าว บ้างก็ไม่ต้องการ นอกจากนี้สมาชิกในกลุ่มบางคนยังแสดงออกว่าไม่พอใจที่สื่อบางรายนำเสนอว่ากลุ่มเป็น "กลุ่มพุทธสุดโต่ง" อีกด้วย

PerMAS ชวนยิ้ม อดกลั้นต่อทุกปฏิกิริยาเพื่อรักษาหลัก

ขณะที่ PerMAS จัดกิจกรรมยิ้มให้กับความตึงเครียด โดย เมื่อเวลาประมาณ 14.00 น. วันนี้ อับดุลซาลัม เจ๊ะเน๊าะ เลขาธิการ PerMAS โพสต์ภาพพร้อมข้อความผ่านเฟสบุ๊กส่วนตัว โดยระบุว่า ขอให้เพื่อนๆ อดทนอดกลั้นต่อปฏิกิริยาโต้กลับต่างๆ หลังทางเจ้าหน้าที่หน่วยทหารแห่งหนึ่งในพื้นที่เชิญตัวกรรมการ PerMAS ผ่านผู้ใหญ่บ้านในชุมชน และมีกระแสพยายามแจ้งความเพื่อเอาผิดทางกฎหมายกับกลุ่มนักศึกษาที่เคลื่อนไหวต้านกฎอัยการศึก

“ยิ้มให้กับความตึงเครียดนี้ อดทนอดกลั้นต่อทุกปฏิกิริยาเพื่อรักษาหลักของเรา" 

โดยมีเนื้อหาดังนี้

วันนี้ เริ่มมีหน่วยทหารในพื้นที่ ขอพบตัวคณะกรรมการPerMAS ผ่านการประสานงานของผู้ใหญ่บ้าน ด้วยเหตุผลเพื่อทำความรู้จักเนื่องจากเขาเป็นผู้ดูแลพื้นที่ ซึ่งในช่วงเวลาที่ผ่านมาเราคุ้นเคยกับเจ้าหน้าที่ทหารจาก กอ.รมน.เป็นอย่างดี

เริ่มมีความพยายามที่จะแจ้งความ ใช้คดีความ เพื่อยุติการเคลื่อนไหวทางการเมืองของพวกเรา

มีการหยิบยกเรื่อง “ ศาสนา “ มาเคลื่อนไหว ซึ่งมันละเอียดอ่อนมากๆ

จึงอยากให้พวกเราอดทนอดกลั้น ต่อปฏิกิริยาโต้กลับเหล่านั้น ปล่อยให้ความขัดแย้งให้ดำรงอยู่อย่างสวยงาม ประคับประคองมันด้วยเหตุผล มิควรโต้กลับใดๆ ด้วยพลังแห่งความเป็นพวกพ้อง , เงื่อนไขทางศาสนา วัฒนธรรม .

มุสลิม กับ พุทธ มิใช่คู่ขัดแย้ง ไม่ใช่เราจะอยู่ร่วมกันไม่ได้ เพียงเราต้องหาหลักการร่วมบางอย่างให้เจอ

อยากให้เข้าใจว่า เรากำลังชี้ให้เห็นถึงความเลวร้ายของ “ กฎอัยการศึก “ เราสามารถถกเถียงกันได้

เราต่างมีสิทธิเลือกที่จะให้ความคิดความต่างทางการเมือง ความขัดแย้งทางการเมืองดำรงอยู่ในลักษณะใด

ยิ้มให้กับความตึงเครียดนี้ อดทนอดกลั้นต่อทุกปฏิกิริยาเพื่อรักษาหลักของเรา

#Lets_Smile_Together
#ยิ้มสู้ไปด้วยกัน

โดยเมื่อวันที่ 24 ก.ย.ที่ผ่านมา “กลุ่มไทยพื้นที่รักสันติ" เรียกร้องให้ทางผู้บริหารมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี ดำเนินการกับกลุ่ม PerMAS ที่จัดกิจกรรมคัดค้าน ประกาศ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า กรณีให้ ต.บางเขา และ ต.ท่ากำซำ อ.หนองจิก จ.ปัตตานี เป็นพื้นที่ควบคุมพิเศษชั่วคราว โดยกลุ่มไทยพื้นที่รักสันติยังมอบพวงหรีดให้กับมหาวิทยาลัยเพื่อไว้อาลัย และยื่นข้อเรียกร้องให้มหาวิทยาลัยดำเนินการและชี้แจงเนื้อหา เกี่ยวกับแถลงการณ์ของกลุ่มนักศึกษา PerMAS 

สำหรับกิจกรรมของ PerMAS ในการคัดค้านประกาศ กอ.รมน.ดังกล่าวนั้นเกิดขึ้นภายหลัง พล.ท.ปิยวัฒน์ นาควานิช แม่ทัพภาคที่ 4 จัดแถลงข่าว ณ มณฑลทหารบกที่ 46 โดยกำหนดให้ผู้ที่อาศัยในพื้นที่ดังกล่าวนำอาวุธปืน และเครื่องกระสุนทุกชนิด รถยนต์ รถจักรยานยนต์ และเรือทุกประเภทมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ทหารเพื่อตรวจสอบตั้งแต่วันที่ 17-23  ก.ย. 2561 ณ ที่ว่าการอำเภอหนองจิก จ.ปัตตานี ภายหลังเกิดเหตุการณ์ซุ่มยิงทหารพรานเสียชีวิต 2 นาย บาดเจ็บอีก 4 นายขณะที่ทั้งหมดกำลังเดินกลับฐานใน อ.หนองจิก จ.ปัตตานี เมื่อวันที่ 11 ก.ย. ที่ผ่านมา 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net