เพจ 'โคตรฮิต kodhit.com' เว็บดังที่นำซีรีส์เกาหลีมาแปลเป็นภาษาไทยให้รับชมฟรีเกือบ 10 ปี ประกาศหยุดแปลและเผยแพร่ซีรีส์เกาหลีทันที หลังถูกขู่ฟ้องร้องดำเนินคดีจากเจ้าของลิขสิทธิ์
เมื่อวันที่ 16 พ.ย. ที่ผ่านมาเพจ 'โคตรฮิต kodhit.com' ของเว็บไซต์ดังที่นำซีรีส์เกาหลีมาแปลเป็นภาษาไทยให้รับชมฟรี ได้เผยแพร่ประกาศของโคตรฮิต ระบุว่าเนื่องจากทาง SBS และ MBC ให้ทางกฎหมายไทยดำเนินการให้โคตรฮิตหยุดเผยแพร่ละครของทางช่องทั้งสองช่องในทันที ไม่งั้นจะถูกดำเนินคดี
"แอดมินจึงจำเป็นต้องเลิกทำซับไทย และหยุดแปลเรื่องที่ยังค้างอยู่ทั้งหมด แต่หลังจากนี้ในแฟนเพจ แอดมินจะยังอัพเดตข่าวสารเกี่ยวกับซีรีส์ พูดคุยกับแฟนเพจต่อไปนะคะ และอาจจะมีคัทสั้นๆ มาให้ชมแก้เหงาบ้าง สุดท้ายนี้ แอดมินกราบขอบพระคุณแฟนๆ โคตรฮิตที่น่ารักทุกคนทั้งรุ่นเก่าและรุ่นใหม่ ที่ติดตามมาโดยตลอดเกือบสิบปีที่ผ่านมา" เพจ 'โคตรฮิต kodhit.com' ระบุ
choijunwu ระบุด้วยว่า เมื่อย้อนกลับไปดู ละครเกาหลีใต้ที่มีการซื้อลิขสิทธิ์มาฉายจริงจัง น่าจะเป็นเรื่อง All about eve ที่สถานีโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 นำมาฉาย ซึ่งออกอากาศในช่วงดึกมาก และไม่เป็นที่นิยมเท่าที่ควร จนกระทั่งกระแสละครเกาหลีใต้เริ่มมีพื้นที่ยืนอีกครั้ง เมื่อสถานีโทรทัศน์ไอทีวี นำ "รักนี้ชั่วนิรันดร์" มาออกอากาศ ซึ่งทำให้ละครเกาหลีใต้เป็นที่นิยมและมีกระแสขึ้นมาบ้างระยะหนึ่ง และตอกย้ำกระแสละครเกาหลีใต้อย่างหนักหน่วงอีกครั้งด้วยการที่ สถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 นำ "จอมนางแห่งวังหลวง" หรือแดจังกึม มาออกอากาศ ตามด้วยกระแสของเรนจากการเป็นพระเอกละครเรื่อง "Full House" และละครเรื่อง "เจ้าหญิงวุ่นวายและเจ้าชายเย็นชา" ที่สถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง๗ เป็นผู้นำเข้า
เมื่อกระแสละครเกาหลีใต้มา แต่ตอบสนองแฟนละครไม่ได้ทั้งหมด ช่องทางออนไลน์ที่เข้ามาใหม่และด้วยความรวดเร็วของอินเตอร์เน็ตความเร็วสูง ระบบลงแรงร่วมแปลซับและอัพขึ้นเว็บให้แฟนละครเกาหลีใต้จึงมีขึ้นและขยายวง จนมาถึงวันที่สามารถจะเลือกดูละครเกาหลีใต้ทุกช่องด้วยซับไทยผ่านเวปต่างๆ ได้แทบจะไม่พ้นสองวันจากการออกอากาศที่เกาหลีใต้ ซึ่งเป็นภาวะของแฟนละครเกาหลีใต้ที่อยู่ในบรรยากาศที่สนุกกับการเลือกเข้าถึงเนื้อหาที่ตัวเองต้องการได้อยู่หลายปี
choijunwu ระบุว่าตนเองก็เป็นหนึ่งในนั้นที่รับชมผ่านเว็บไซต์ และดูละครเกาหลีใต้เกือบทุกเรื่องและเกือบทุกวันจนเป็นปกติ จนวันมาถึงของการแข่งขันนำเสนอเนื้อหาของช่องทีวีดิจิทัลนี่เอง รวมทั้งช่องหลักๆ เดิม ที่แย่งกันนำเข้าละครมาฉายในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาแบบที่ทิ้งช่วงห่างอากาศจริงที่เกาหลีใต้เพียงวันหรือสองวันนั้น ผู้เขียนเองก็เคยทำนายเอาไว้ว่า เมื่อมีการตั้งตัวแทนทางกฎหมายเพื่อเป็นผู้ทรงสิทธิในเนื้อหาขึ้นในประเทศไทยของสถานีโทรทัศน์เจ้าของลิขสิทธิ์ละครเกาหลีใต้เมื่อใด การดำเนินคดีลิขสิทธิ์คงจริงจังและเข้มงวดขึ้น
สิ่งที่ต้องยอมรับกันคือ ช่องทางในการเข้าถึงละครเกาหลีในประเทศไทย ถ้าว่ากันให้ถูกต้องตามกฎหมายที่มีบังคับอยู่นั้น เราต้องดูละครเกาหลีจากการขัดสรรของสถานีโทรทัศน์นำประเทศไทยมานำเสนออีกที ซึ่งการซื้อลิขสิทธิ์มานั้น ก็อยู่บนพื้นฐานของการตลาดนั่นคือ ฐานความนิยมของผู้ชม แต่สำหรับแฟนละครเกาหลีใต้หลายคนที่ดูจริงจังเช่นตนเอง ทางเลือกที่มีผ่านสถานีโทรทัศน์ของไทยนั้น ไม่พอกับความต้องการเข้าถึงความหลากหลายของเนื้อหาของละครที่อาจจะกว้างกว่านั้น ซึ่งการดูออนไลน์ผ่านเวปตอบโจทย์มากกว่า
หลังจากนี้ การเข้าถึงเนื้อหาละครเกาหลีใต้อาจจะมีน้อยลง ด้วยการที่สองสถานีหลักที่ถือสิทธิในละครเกาหลีใต้เปิดเกมลิขสิทธิ์ขึ้นมา ระหว่างนี้ สิ่งที่น่าสนใจคือการ "ต่อ" กัน ระหว่างสถานีโทรทัศน์เจ้าของลิขสิทธิ์กับสถานีโทรทัศน์ผู้ซื้อลิขสิทธิ์ในประเทศไทย ว่าจะเล่นเกมเปิดตลาดเล่นกันแบบใด จึงเลือกเปิดเกมแรกด้วยการริเริ่มบังคับใช้กฎหมายว่าด้วยลิขสิทธิ์อย่างจริงจังกับเว็บโคตรฮิตเป็นเว็บแรก
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)