Skip to main content
sharethis

ภาพจาก วาร์ตานี (Wartani) 

5 ม.ค. 2559 วาร์ตานี(Wartani) รายงานว่าเมื่อเวลา 14.00 น. ที่ผ่านมา นักศึกษาจากสหพันธ์นิสิตนักศึกษา นักเรียน และเยาวชนปาตานี หรือ PerMAS จำนวน 300 คน ได้มาเยี่ยม นาย อับดุลรอฮิม รอยะ เพื่อนนักศึกษา จากมหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ ที่อยู่ระหว่างการควบคุมตัว ณ ค่ายอิงคยุทธบริหาร อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ตั้งแต่วันที่ 31 ธ.ค.ที่ผ่านมา

วาร์ตานี รายงานเพิ่มเติมถึงการควบคุมตัวนายอับดุลรอฮิมด้วยว่า เกิดขึ้นเมื่อเช้าของวันที่ 31 ธ.ค.ที่ผ่านมา โดย เจ้าหน้าที่ทหารได้นำตัว นายอับดุลรอฮิม ณ บ้านรามาบูเวาะห์ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส ไปยังค่ายทหารพรานในพื้นที่ ต่อมาได้นำตัวไปยังค่ายอิงคยุทธบริหาร ตามกฎอัยการศึก ซึ่งวันนี้ ครบ 5 วัน นักศึกษาจากสหพันธ์นิสิตนักศึกษา นักเรียน และเยาวชนปาตานี PerMAS ได้มาเยืยมเพื่อนที่ ค่าย อิงคยุทธบริหาร เพื่อให้กำลังใจ กับ นายอับดุลรอฮิง และถามถึงเหตุผลที่เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวในครั้งนี้ด้วย

พรุ่งนี้จะมีการปล่อยตัวกลับบ้านแล้ว

กองบรรณาธิการสำนักสื่อวาร์ตานี แจ้งข่าวเพิ่มเติมด้วยว่า เมื่อมาถึงหน้าค่ายอิงคยุทธ เจ้าหน้าที่ได้ออกมาต้อนรับ พร้อมพูดคุยทำความเข้าใจแก่นักศึกษา ซึ่งเจ้าหน้าที่ไม่อนุญาตให้นักศึกษาทั้งหมดเข้าไปเยี่ยม แต่อนุญาตตัวแทนแค่ 20 คนเท่านั้นที่เข้าเยี่ยมได้ ทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ก็ได้นำตัวนายอับดุลรอฮิมออกมาพบกับตัวแทนนักศึกษาดังกล่าว ในขณะที่นักศึกษาส่วนใหญ่ที่อยู่นอกรั้วค่ายอิงคยุทธนั้น ก็ได้มีกิจกรรมสร้างสรรค์ เช่นมีการร้องเพลงให้กำลังใจ  มีการอ่านบทกวี #คิดถึงรอฮิม เป็นต้น

โดยเจ้าหน้าที่อนุญาตให้ นายอับดุลรอฮิม รอยะ พูดกับเพื่อนนักศึกษาผ่านโทรโข่ง ซึ่งนายอับดุลรอฮิม กล่าวว่า “ส่วนตัวขณะนี้สบายดี และทางเจ้าหน้าที่ได้บอกว่าในวันพรุ่งนี้จะมีการปล่อยตัวกลับบ้านแล้ว”

ด้านนายอารีฟีน โซ๊ะ เลขาธิการ สหพันธ์นิสิตนักศึกษานักเรียนและเยาวชนปาตานี(PerMAS) “วันนี้เรามาให้กำลังใจอับดุลรอฮีม และเรามีคำถามว่า ตั้งแต่การคุกคามนักศึกษามาจนถึงเคสของอับดุลรอฮีม ทำไมนักศึกษาต้องถูกเพ่งเล็ง ถูกตั้งแง่ว่าเป็นแนวร่วมจากฝ่ายรัฐตลอดมา ดังนั้นวันนี้เราจึงมาแสดงความบริสุทธิ์ใจ และในกรณีนี้เป็นการยืนยันถึงความไม่โปร่งใสของกระบวนการยุติธรรม ไม่ชี้แจงถึงข้อกล่าวหา และควบคุมตัว 7 วันตามกฎอัยการศึก โดยไม่ทราบสาเหตุแห่งการควบคุมตัว” นายอารีฟีน กล่าว

นายฮาฟิ ยะโกะ  ผู้อำนวยการ สำนักกิจการรณรงค์และการโน้มน้าว  สหพันธ์นิสิตนักศึกษานักเรียนและเยาวชนปาตานี(PerMAS) ได้กล่าวว่า “วันนี้ทางเราได้มาเยี่ยม อับดุลรอฮิม รอยะ  จากกรณีทีเจ้าหน้าที่ ได้เชิญตัว เป็นเวลา 6 วันแล้ว ทางเพื่อนๆนักศึกษาก็ได้สงสัยว่า ในเรื่องกระบวนการในการจับกุม และวันนี้ เราได้มาฟังเสียง อับดุลรอฮิมถึงชะตากรรมที่เป็นอยู่ในค่าย เนื่องจากช่วงนี้ มีการจับกุมและการคุมคามนักศึกษานักกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดในกรณีของนายอับดุลรอฮีม ทาง PerMAS มีจุดยืนในเรื่องของ กระบวนการสันติวิธีที่จะทราบข้อเท็จจริง ในการควบคุมตัวในครั้งนี้”

นายฮาฟิ ยังกล่าวอีกว่า “หากนายอับดุลรอฮีม มีความผิดจริง ก็อยากให้ออกมาชี้แจ้งต่อสาธารณะว่า มีความผิดในเรื่องใด แต่หากนายอับดุลรอฮีมบริสุทธิ์ ก็ขอวินวอนต่อผู้ใหญ่ให้ปล่อยตัว ให้นักศึกษาได้กลับไปเรียนได้ตามปกติ” นายฮาฟิ กล่าว

บันทึกข้อเท็จจริง :

กองบรรณาธิการสำนักสื่อวาร์ตานี ยังได้เรียบเรียงข้อเท็จจริงที่ทางครอบครัวนายอับดุลรอฮิม จากการถ่ายทอดผ่านเพื่อน ๆ ของเขาถึงกระบวนการควบคุมตัวของเจ้าหน้าที่ต่อนายอับดุลรอฮิมในตลอดระยะเวลา 5 วัน ที่ผ่านมานั้น มีการบันทึกไว้ดังนี้ว่า

ในวันแรก(31/12/58)ของการควบคุมตัว ครอบครัวของอับดุลรอฮิมได้ระบายออกมาจากความรู้สึกว่าอาการของอับดุลรอฮิมแตกต่างอย่างผิดสังเกต ด้วยที่ปกติหนุ่มคนนี้อัธยาศัยดี มีสีหน้าที่สดใส ยิ้มแย้มเป็นมิตร ราเริง แต่เพราะอาการตัวสั่นของอับดุลรอฮิมทำให้ครบครัวตั้งข้อสังเกตว่าจะต้องเกิดอะไรขึ้นเป็นแน่ แต่ทางครอบครัวเองก็ยังไม่กล้าที่จะสอบถามให้ชัดเจนเนื่องจากขณะเข้าเยี่ยมนั้นมีเจ้าหน้าที่ประกบดูแลอย่างใกล้ชิด อีกทั้งเจ้าหน้านายหนึ่งยศพันโทที่ได้ออกมาต้อนรับครอบครัวอับดุลรอฮิมได้กล่าวยืนยันว่าจะไม่มีการซ้อมทรมาน เจ้าหน้าที่จะดูแลเป็นอย่างดี

วันที่สอง(1/1/59) ของการควบคุมตัว ทางครอบครัวได้สังเกตอาการอับดุลรอฮิมที่พยายามจะสื่ออะไรบางอย่างกับครอบครัว และมีพฤติกรรมที่เริ่มหวาดระแหวง กินอาหารได้น้อยลง และได้ร้องข้อให้ครอบครัวช่วยดุอาให้พ้นจากบททดสอบนี้โดยเร็วที่สุด

วันที่สาม(2/1/59) ของการควบคุมตัว นายรอฮิมได้แอบบอกกระชิบเบา ๆ แก่ญาติว่าตนได้ถูกนำตัวไปยังห้องห้องหนึ่งที่มีอุณหภูมิหนาวเย็นผิดปกติกว่าห้องคุมทั่ว ๆ ไปทำให้ตนนอนไม่หลับทั้งคืน ยิ่งทำให้ครอบครัวตื่นตระหนกต่อการควบคุมตัวอับดุลรอฮิมเป็นอย่างมากและอดสงสัยไมได้ว่าการเชิญตัวมาพูดคุยที่เจ้าหน้าที่ได้อ้างไว้ เป็นการเชิญตัวหรือจับคุมกันแน่

วันที่สี่(3/1/59) ของการควบคุมตัว ยิ่งทำให้ข้อวิตกกังวลของครอบครัวยิ่งชัดเจนยิ่งขึ้นเมื่อมีเจ้าหน้าที่ได้พยายามพูดคุย กดดัน หวานล้อม ให้ครอบครัวเกลี่ยกล่อมอับดุลรอฮิมให้รับคำสารภาพมาโดยดี ในคดีวางระเบิดดักสังหารเจ้าหน้าที่ชุดลาดตระเวนเส้นทางให้กับคณะครู สังกัดกองร้อยปืนเล็กที่ 3 ฉก.นราธิวาส 33 บนถนนสายมะนังตายอ - บ้านโคกสุมุ ม.8 ต.บางปอ อ.เมืองนราธิวาส จ.นราธิวาส ยิ่งเป็นการยืนยันถึงความคิดของครอบครัวต่อการควบคุมตัวในครั้งนี้แล้วว่า อับดุลรอฮิมตกเป็นผู้ต้องสงสัยไปเรียบร้อยแล้ว และครั้งนี้เจ้าหน้าที่มีการประกบติดอย่างใกล้ชิดเพื่อเป็นการกดดันมิให้อับดุลรอฮิมได้พูดคุยอย่างสบายใจกับครอบครัว

วันที่ห้า(4/1/59) ของการควบคุมตัว เจ้าหน้าที่ยังคงกดดันทางครอบครัวให้หว่านล้อมอับดุลรอฮิมให้รับคำสารภาพว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการวางระเบิดชุดลาดตระเวนข้างต้น และท่าทีของอับดุลรอฮิมเริ่มหวาดกลัวมากยิ่งขึ้นในการถูกควบคุมตัวในวันที่ห้านี้ และเขาก็ไม่กล้าที่จะเล่าเรื่องราวต่าง ๆ ในระหว่างการถูกควบคุมตัวอีก แต่ครอบครัวสามารถสัมผัสได้ถึงสิ่งที่อับดุลรอฮิมกำลังหวาดกลัวอยู่ว่าต้องมีบางสิ่งเกิดขึ้นในค่ายอิงคยุทธบริหารอย่างแน่นอน

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net