18 ธ.ค.2558 ความคืบหน้ากรณีที่ประชุมคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) มีมติเลิกจ้าง ภุชงค์ นุตราวงศ์ เลขาธิการ กกต. เนื่องจากผลการดำเนินงานไม่ผ่านเกณฑ์การประเมินนั้น ล่าสุด สำนักข่าวไทย รายงานว่า ภุชงค์ ได้ยื่นหนังสืออุทธรณ์ต่อ กกต. โดยมี แสวง บุญมี รองเลขาธิการกกต. ด้านกิจการพรรคการเมือง เป็นตัวแทนรับมอบ

โดย ภุชงค์ ให้สัมภาษณ์ว่า มายื่นหนังสือเพื่ออุทธรณ์คัดค้านและขอความเป็นธรรม หลังจาก กกต. มีประกาศลงวันที่ 8 ธ.ค. ที่ผ่านมาให้พ้นจากตำแหน่งเลขาธิการกกต. ซึ่งมองว่าประกาศดังกล่าวไม่เป็นธรรมและการกระทำของคณะกรรมการอาจจะมิชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งการยื่นคัดค้านในวันนี้(18 ธ.ค.) เพื่อนำเรื่องเข้าสู่กระบวนการของศาลปกครอง โดยหลังจากนี้จะไปยื่นเรื่องที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อชี้แจงเรื่องที่เกิดขึ้นภายในสำนักงานให้นายกรัฐมนตรีรับทราบทั้งหมด

ภุชงค์ กล่าวว่า พร้อมรับผิดชอบต่อสิ่งที่พูดและให้สัมภาษณ์ หากการแถลงข่าวของ กกต. ในวันนี้(18ธ.ค.) พูดในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง มีการตัดต่อข้อมูลและกระทบเกียรติจะใช้สิทธิดำเนินการตามกฎหมาย ซึ่งเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมามี กกต. ท่านหนึ่งให้สัมภาษณ์ระบุถึงเกณฑ์ประเมิน 5 ข้อ ในการทำงานว่าได้ศูนย์คะแนนนั้น ขอให้ไปพิสูจน์ความจริงกันที่ศาล ขณะนี้ กกต. เป็นผู้ควบคุมเอกสารทั้งหมด รวมถึงเจ้าหน้าที่ร่วม 2,000 คน

“การกระทำของผมตอนนี้ เปรียบได้กับการวิ่งชนกำแพงดามเหล็ก 5 ชั้น ผมเจ็บก็ไม่เป็นไร แต่ขอให้เขียนกฎหมายให้ชัดเจน ขอให้คณะกรรมการยกร่างรัฐธรรมนูญ(กรธ.) และคณะกรรมการร่างกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยกกต. ได้รับทราบปัญหาว่าเกิดขึ้นอย่างไร ขอให้เขียนกฎหมายให้ชัดเจน แบ่งระหว่างผู้กำกับคือกคณะกรรมการเลือกตั้ง ผู้ปฏิบัติคือเลขาธิการกกต. และขอให้สิ่งที่เกิดขึ้นกับผมเป็นคนสุดท้าย ดังโคลงกำสรวลศรีปราชญ์” ภุชงค์ กล่าว

จากนั้น ภุชงค์ได้เดินทางมายื่นหนังสือต่อที่ศูนย์บริการประชาชน ทำเนียบรัฐบาล เพื่อยื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เพื่อร้องขอความเป็นธรรม และเพื่อให้ครบกระบวนการก่อนไปร้องศาลปกครอง

กกต.มีมติฟ้องภุชงค์แล้ว 1 กรณี กำลังพิจารณาฟ้องเรื่องอื่นๆ 

วันเดียวกัน(18 ธ.ค.58) สำนักข่าวไทยรายงานด้วยว่า ด้าน สมชัย ศรีสุทธิยากร กกต. ด้านบริหารงานเลือกตั้ง กล่าวว่า กกต. มีมติให้ยื่นฟ้องหมิ่นประมาท ภุชงค์ อดีตเลขาธิการ กกต. ที่กล่าวหาการดำเนินการจัดพิมพ์บัตรออกเสียงประชามติ และการจัดพิมพ์และจัดส่งร่างรัฐธรรมนูญของ กกต.ไม่โปร่งใส เนื่องจากเป็นการกล่าวหาที่เป็นเท็จ นอกจากนี้ยังอยู่ระหว่างการพิจารณากรณีอื่น ๆ ที่ ภุชงค์ กล่าวผ่านสื่อ ต่างกรรม ต่างวาระ ว่าเข้าข่ายหมิ่นประมาทที่ต้องดำเนินการด้วยหรือไม่

นอกจากนี้ สมชัย ยังได้นำบันทึกการประชุม กกต. เมื่อวันที่ 25 ส.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งมีวาระเพื่อทราบกรณีการจัดพิมพ์บัตรออกเสียงประชามติ ที่มีข้อสรุปให้พิจารณาด้วยวิธีประกวดราคา และบันทึกการประชุมคณะกรรมการประสานการพิมพ์และการจัดส่งร่างรัฐธรรมนูญ เมื่อวันที่ 16 มิ.ย. 2558 ซึ่งมีมติให้การจัดพิมพ์และจัดส่งร่างรัฐธรรมนูญด้วยวิธีประกวดราคาเช่นเดียวกัน มาแถลงข่าวเพื่อยืนยันถึงความโปร่งใสในการพิจารณาดำเนินการของ กกต.

“ขอย้ำว่าคำสั่งเลิกจ้างนายภุชงค์ ได้ดำเนินการอย่างถูกต้องครบถ้วนแล้ว ส่วนกรณีที่นายภุชงค์ ยื่นอุทธรณ์คำสั่งต่อ กกต.นั้น จะต้องพิจารณาวิธีปฏิบัติและปรึกษาฝ่ายกฎหมายว่าจะรับเรื่องไว้พิจารณาหรือไม่ และการร้องศาลปกครองถือเป็นสิทธิ ดังนั้นท่านจะไปร้องศาลปกครอง ร้องนายกฯ หรือร้องศาลพระภูมิก็แล้วแต่ท่าน” สมชัย กล่าว