Skip to main content
sharethis

ความฝันในนิยายวิทยาศาสตร์ที่ทำนายไว้เมื่อ 40 ปีก่อนกลายเป็นจริงแล้ว เมื่อมีการเปิดตัวกล้องโทรทรรศน์วิทยุขนาดยักษ์ในชิลี ซึ่งสามารถรับคลื่นสัญญาณจากกาแล็กซี่ไกลโพ้น สามารถตรวบจับคลื่นแสงที่มนุษย์มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า และสามารถประเมินการเกิดของดวงดาวย้อนไปได้ถึงช่วงต้นกำเนิดจักรวาล

เมื่อวันที่ 13 มี.ค. 2013 ทางการชิลีได้เปิดตัวกล้องโทรทัศน์วิทยุขนาดยักษ์ (Atacama Large Millimeter/sub-millimeter Array หรือ ALMA) อย่างเป็นทางการ โดย ALMA ถูกสร้างบนที่ราบสูงชัจนันทอร์ ที่ความสูง 5,000 เมตรจากระดับน้ำทะเลในเขตทะเลทรายอตาคามา

ปธน. ปิเนร่ากล่าวในงานเปิดตัว ALMA ว่านับแต่วันนี้ชิลีจะกลายเป็นเมืองหลวงดาราศาสตร์ของโลก "แม้ชิลีจะเป็นประเทศเล็กๆ แต่พวกเราก็กลายเป็นยักษ์ใหญ่"

โดยก่อนหน้านี้นักบินอวกาศจากสถานีอวกาศนานาชาติได้ส่งคำแสดงความยินดีต่อการเปิดตัวของ ALMA และกล่าวกับนักวิทยาศาสตร์ของชิลีว่าขอให้สนุกกับนวัตกรรมของพวกคุณ

The Independent ระบุว่ากล้องโทรทรรศน์วิทยุ ALMA ใช้เวลาสร้างนับสิบปี ด้วยทุนสร้าง 1,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 40,000 ล้านบาท) ประกอบด้วยเสารับสัญญาณขนาดใหญ่ 66 เสา มีความสามารถในการจับคลื่นแสงที่มนุษย์ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า และสามารถประเมินย้อนกลับไปในช่วงกำเนิดจักรวาลได้ ทำให้เป็นเครื่องมือที่ทรงพลังสำหรับนักดาราศาสตร์ในการศึกษาการกำเนิดและการเปลี่ยนแปลงของดาวฤกษ์และดาวเคราะห์

บทความจากวารสาร Nature เปิดเผยว่า การสำรวจโดยใช้ ALMA ได้แสดงให้เห็นประวัติศาสตร์ของจักรวาลในช่วงที่มีดาวกำเนิดใหม่เป็นจำนวนมากในช่วงระยะเวลาอันสั้น ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อพันล้านปีก่อนหน้าที่มนุษย์เราเคยประเมินไว้ โดยเกิดขึ้นไม่นานนักหลังจากปรากฏการณ์ระเบิดครั้งใหญ่หรือบิ๊กแบงค์

สิ่งที่ ALMA สามารถช่วงศึกษาได้อีกเรื่องหนึ่งคือเรื่องเคมีอวกาศ (Astrochemistry) โดยเฉพาะเรื่องการก่อรูปและการกระจายตัวของโมเลกุลซับซ้อนรวมถึงสารอินทรีย์ที่เป็นโครงสร้างของชีวิต ทำให้แม้ว่าการค้นหาสิ่งมีชีวิตนอกโลกอาจไม่ใช่ภารกิจหลักของ ALMA แต่ก็อาจให้ข้อมูลเบาะแสสำคัญในเรื่องนี้ได้

โครงการณ์นี้ได้รับการสนับสนุนจากภาคีความร่วมมือนานาชาติ โดยส่วนหนึ่งคือสภารัฐแห่งหอสังเกตการณ์ทางใต้ของยุโรป (EOS) ซึ่งเป็นตัวแทนของประเทศยุโรป 15 ประเทศ มีส่วนร่วมในเงินทุนร้อยละ 37.5 นอกจากนี้ยังมีความร่วมมือจากชาติสหรัฐฯ ญี่ปุ่น และไต้หวัน

ทิม เดอ เซอุว ผู้อำนวยการของ ESO กล่าวในพิธีเปิดว่ากล้องโทรทรรศน์ขนาดยักษ์เคยมีปรากฏในนิยายที่ตีพิมพ์เมื่อปี 1973 เรื่อง The Inferno ของเซอร์ เฟรด ฮอยล์ นักดาราศาสตร์ชาวอังกฤษ ซึ่งกล่าวถึงกล้องโทรทัศน์วิทยุที่สามารถจับคลื่นความถี่ต่ำเพื่อการศึกษาองค์ประกอบโมเลกุลของก๊าซ

อิงหลักการ 'เลนส์ความโน้มถ่วง' ของไอน์สไตน์

ในข้อมูลจากเว็บไซต์โครงการ ALMA กล่าวว่า ในตอนนี้มีการใช้เสารับสัญญาณแค่บางส่วนจาก 66 เสาเท่านั้น เนื่องจากหอสังเกตการณ์ยังอยู่ในระหว่างการสร้าง และเมื่อ ALMA สร้างเสร็จแล้วจะสามารถรับสัญญาณได้ดีกว่านี้และอาจค้นหาตำแหน่งของกาแล็กซี่ที่สว่างน้อยกว่าได้ โดยได้อ้างถึงหลักการ 'เลนส์ความโน้มถ่วง' (Gravitational Lens) ซึ่งทำนายโดยอัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ จากทฤษฎีสัมพันธภาพทั่วไป ปรากฏการณ์ดังกล่าวเกิดจากแสงที่มีแหล่งกำเนิดจากกาแล็กซี่ไกลโพ้นเกิดการบิดผัน (distorted) จากแรงดึงดูดของสิ่งที่อยู่ใกล้กับตัวผู้สังเกตการณ์มากกว่า ทำให้คล้ายกับเลนส์ทำให้แสงจากวัตถุสว่างน้อยสว่างมากขึ้น

 

เรียบเรียงจาก

Science fiction becomes science reality as Chile unveils $1.4bn ALMA telescope, The Independent, 13-03-2013
ALMA Telescope Inaugurated In Chile's Atacama Desert, The Huffington Post, 03-13-2013

ALMA Rewrites History of Universe's Stellar Baby Boom, Alma Observatory, 03-13-2013


ข้อมูลเสริมจาก

http://en.wikipedia.org/wiki/Atacama_Large_Millimeter_Array
http://th.wikipedia.org/wiki/เลนส์ความโน้มถ่วง

สแกน QR Code เพื่อร่วมบริจาคเงินให้กับประชาไท

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net