Skip to main content
sharethis

 

จากเหตุการณ์มือปืนใช้รถเก๋งไม่ทราบยี่ห้อ สีดำ เป็นพาหนะใช้อาวุธปืนขนาด 11 ม.ม. บุกยิงนายประจบ เนาวโอภาส หรือผู้ใหญ่จบ อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 56/1 หมู่ 14 ต.หนองแหน อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา และเป็นผู้ใหญ่บ้านหมู่ 14 ต.หนองแหน ขณะนำรถกระบะมาซ่อมที่อู่ใน อ.พนมสารคาม ถูกกระสุน 3 นัดเสียชีวิต สอบสวนพบว่าผู้ตายเป็นแกนนำต่อต้านทิ้งกากสารเคมีในพื้นที่ คาดว่าอาจเป็นสาเหตุให้จ้างวานมือปืนมายิงเสียชีวิต เหตุเกิดเมื่อวันที่ 25 ก.พ.ที่ผ่านมา

เมื่อวันที่ 26 ก.พ. พล.ต.ต.นิวัฒน์ รัตนาธรรมวัฒน์ รองผบช.ภาค 2 นำกำลังตำรวจเข้าตรวจสอบอู่ซ่อมรถยนต์ก่วยเซอร์วิส ตั้งอยู่ริมถนนพนมสารคาม-บ้านสร้าง ต.พนม อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิง เทรา จุดเกิดเหตุมือปืนยิงนายประจบ เนาวโอภาส เสียชีวิต เพื่อหาวัตถุพยานหลักฐานเพิ่มเติม และพบมีกล้องวงจรปิดที่บริเวณหน้าร้านถัดไป จึงนำมาตรวจสอบเพื่อหาเบาะแสคนร้าย

จากนั้นเดินทางไป สภ.พนมสารคาม เรียกประชุมนายตำรวจที่เกี่ยวข้อง พล.ต.ต. นิวัตรกล่าวว่า คดีมีความคืบหน้ามาก สเกตช์ภาพคนร้ายได้แล้ว ส่วนรถยนต์ต้องสงสัยที่ปรากฏในกล้องวงจรปิด เป็นรถเก๋งยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซีวิค สีดำ จึงส่งกำลังเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบตามรายชื่อของผู้ครอบครองแล้ว ส่วนสาเหตุนั้น จากการสอบปากคำคนใกล้ชิดผู้ตาย พบว่าไม่เกี่ยวกับเรื่องชู้สาว และปมขัดแย้งธุรกิจถมที่ดิน จึงเหลือประเด็นเดียวคือการลักลอบนำกากสารเคมี หรือสารพิษทิ้งในพื้นที่

รอง ผบช.ภาค 2 กล่าวว่า เรื่องที่ 1 เมื่อปี 2552 นายประจบเป็นแกนนำร้องเรียนส่วนราชการต่างๆ เกี่ยวกับบริษัทรีแห่งหนึ่งสร้างปัญหาความเดือดร้อนให้ชาวบ้าน ผู้ตายในฐานะผู้ใหญ่บ้านจึงร่วมกับชาวบ้านคัดค้านบริษัทดังกล่าว จนถึงเคยกระทบกระทั่งข่มขู่กัน ต่อมาบริษัทฟ้องร้องผู้ตายกับพวก และศาลยกฟ้อง อีกทั้งในส่วนของฝ่ายชาวบ้านเองก็แจ้งความดำเนินคดีบริษัทฐานทำให้ เสียทรัพย์ และบางเรื่องก็จบไปแล้ว เรื่องที่ 2 เมื่อปลายปี 2555 นายประจบร่วมกับนายจร เนาวโอภาส พี่ชาย ร้องเรียนบริษัทอีกแห่งลักลอบนำกากสารเคมี หรือสารพิษทิ้งในบ่อลูกรังร้าง จนหน่วยราชการเข้าตรวจสอบ และดำเนินคดีกับบริษัท พร้อมทั้งให้เร่งแก้ไขปัญหา

พล.ต.ต.นิวัตรกล่าวต่อว่า จากทั้ง 2 เรื่องนี้ ทางเจ้าหน้าที่ต้องสืบสวนสอบสวนเพิ่มเติมว่า เรื่องไหนน่าจะนำไปสู่การสังหาร ผู้ตายรู้ถูกปองร้ายและระวังตัวมาตลอด ระหว่างเกิดเหตุผู้ตายมีอาวุธปืน 2 กระบอกในรถ หลังถูกยิงก็พยายามกระเสือกกระสนไปเปิดประตูรถหยิบปืนยิงต่อสู้ แต่หมดกำลังเสียก่อน เพราะถูกยิงเข้าจุดสำคัญ และ จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบว่านายประจบถูกยิงเวลา 13.04 น. ส่วนคนร้ายเป็นมือปืนรับจ้างแน่นอน เพราะสุขุม เยือกเย็น หวังผล ส่วนจะเป็นซุ้มไหน กลุ่มไหน อยู่ระหว่างสืบสวนหาข่าว คงจะใช้เวลาไม่นานความจริงจะปรากฏ

ส่วนพล.ต.ท.วินัย ทองสอง ผบช.ภาค 2 กล่าวว่า ตำรวจติดตามเจอรถเก๋งยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซีวิค สีดำ ของมือปืน แต่ต้องตรวจสอบทะเบียนอย่างละเอียดอีกครั้ง

ด้าน นายจร เนาวโอภาส อายุ 46 ปี ประธานสภา อบต.หนองแหน พี่ชายนายประจบ กล่าวว่า มั่นใจว่าสาเหตุไม่ได้มาจากเรื่องขัดแย้งธุรกิจรับเหมาถมที่ดิน เพราะแต่ละรายนั้น ผู้ว่าจ้างเป็นเจ้าของงานเอง ไม่มีการแข่งขันประมูลงานแต่อย่างใด ส่วนเรื่องชู้สาวนั้นแม้น้องชายจะมีภรรยา 2 คน แต่ก็ต่างคนต่างอยู่ ไม่เคยทะเลาะวิวาทกัน ดังนั้น ปมสำคัญจึงมีเรื่องเดียวเท่านั้น คือต่อต้านกลุ่มนายทุนลักลอบทิ้งขยะกากสารเคมีในพื้นที่หมู่ 7 และหมู่ 14 ต.หนองแหน

นายจรกล่าวว่า เมื่อปี 2552 น้องชายเป็นแกนนำร้องเรียนบริษัทนายทุน ต่อมาทั้งน้องชาย อบต. และชาวบ้าน ถูกบริษัทฟ้องร้อง และขณะร้องเรียนคัดค้านก็ถูกข่มขู่ด้วย แม้ศาลอุทธรณ์จะยกฟ้องไปแล้ว แต่สำนักงานอัยการสูงสุดเรียกผู้ใหญ่บ้าน อบต. และชาวบ้านไปสอบปากคำเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องนี้เมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ล่าสุดเมื่อปลายปี 2555 ตนและน้องชายกับอบต.ในพื้นที่อีกหลายคน เป็นแกนนำคัดค้านลักลอบทิ้งกากสารเคมีอุตสาหกรรมในพื้นที่หมู่ 7 ต.หนองแหน จนทำให้หน่วยงานต่างๆ มาตรวจสอบ และดำเนินคดีนายทุน พร้อมสั่งให้เร่งกำจัดขยะอุตสาหกรรมให้เรียบร้อย แต่ปัจจุบันก็ยังไม่แก้ไข ดังนั้น น้ำหนักของคดีน่าเป็น 2 เรื่องนี้มากที่สุด

พี่ชายผู้ใหญ่จบกล่าวต่อว่า ก่อนหน้านี้ นายสุเทพ ทองคำ อายุ 50 ปี อดีตสมาชิก อบต.หนองแหน 2 สมัย แกนนำอีกคนหนึ่งที่ร่วมกันต่อต้านปล่อยน้ำเสียจากสารเคมีในพื้นที่หมู่ 14 ต.หนองแหน ก็ถูกยิงเสียชีวิตหน้าอบต.หนองแหน เมื่อเดือนธ.ค.2555 จนขณะนี้ก็ยังจับคนร้ายไม่ได้ เชื่อว่าน่าจะเป็นเหตุการณ์และสาเหตุที่เชื่อมโยงกัน และก่อนหน้าน้องชายถูกยิงประมาณ 2 สัปดาห์ ยังบอกกับตนว่าให้ระวังตัว เพราะมีกลุ่มมือปืนเข้ามาในพื้นที่ และยังบอกว่าถ้าตนเองหรือคนใดคนหนึ่งในกลุ่มเป็นอะไรไป มีสาเหตุเพียงเรื่องเดียว คือการต่อสู้กับกลุ่มนายทุนที่สร้างปัญหาให้ชาวบ้านในพื้นที่


 

ที่มา: เว็บไซต์ข่าวสด

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net