สภาประชาสังคมชายแดนใต้ ออกแถลงการณ์ให้ความเห็นกรณีคนร้ายบุกโจมตีฐานปฏิบัติการทหารหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินภาคใต้ อำเภอบาเจาะ จังหวัดนราธิวาส ระบุว่า เหตุการณ์ดังกล่าวจะเป็นจุดเปลี่ยนความเข้าใจปัญหาความรุนแรงในจังหวัดชายแดนภาคใต้
ทั้งนี้สภาประชาสังคมชายแดนใต้ได้จัดประชุมเสวนาค้นหามุมมองจากฝ่ายต่างๆ ต่อกรณีดังกล่าวขึ้น เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2556 โดยมติเห็นชอบให้เสนอความจริงที่เกิดขึ้นและทิศทางที่รัฐบาลควรนำไปพิจารณาแก้ปัญหา 4 ข้อ หนึ่งในนั้น คือ การต่อสู้เพื่อความคิดที่ถูกต้องและการสร้างสภาวะแวดล้อมให้เอื้ออำนวยต่อการแก้ปัญหาอย่างสันติวิธี จะเป็นเงื่อนไขสำคัญเบื้องต้นในการยุติเหตุรุนแรงและการก้าวไปข้างหน้าของกระบวนการสร้างสันติภาพในพื้นที่
.................................
แถลงการณ์สภาประชาสังคมชายแดนใต้
ฉบับที่ 7 / 2556
เรื่อง ความเห็นกรณีคนร้ายบุกโจมตีฐานปฏิบัติการทหารหน่วยเฉพาะกิจ
นาวิกโยธินภาคใต้ อำเภอบาเจาะ จังหวัดนราธิวาส
สืบเนื่องจากกรณีกองกำลังนอกกฎหมายประมาณ 50 คนแต่งกายคล้ายทหารติดอาวุธสงครามครบมือ บุกโจมตีฐานปฏิบัติการทหารหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินภาคใต้อำเภอบาเจาะ จังหวัดนราธิวาส เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2556 เวลาประมาณ 01.30 น. เป็นผลให้คนร้ายเสียชีวิต 16 ศพ ตามที่ทราบกันโดยทั่วไปแล้วนั้น
กรณีนี้นับเป็นเหตุร้ายครั้งใหญ่ในการปฏิบัติการทางทหารของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง ซึ่งเป็นที่วิพากษ์ วิจารณ์ของสังคมในแง่มุมต่างๆ อย่างกว้างขวาง และเพื่อให้เกิดมโนสำนึกในทางสร้างสรรค์แก่สังคมโดยทั่วไป สภาประชาสังคมชายแดนใต้จึงได้จัดประชุมเสวนาค้นหามุมมองจากฝ่ายต่างๆต่อกรณีดังกล่าวขึ้น เพื่อรวมศูนย์ความคิดที่หลากหลายเป็นแนวทางอันเอื้อประโยชน์ต่อการแก้ปัญหาที่ตรงประเด็น และมีทิศทางต่อกระบวนการสันติภาพในจังหวัดชายแดนภาคใต้
การประชุมเสวนาได้มีขึ้นเมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2556 ที่ห้องประชุมศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ มติที่ประชุมเห็นชอบให้เสนอความจริงที่เกิดขึ้นและทิศทางที่รัฐบาลควรนำไปพิจารณาแก้ปัญหา ดังต่อไปนี้
1. คนร้ายที่แต่งกายคล้ายทหารพร้อมอาวุธสงครามบุกโจมตีฐานทหารหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธิน อำเภอบาเจาะ จังหวัดนราธิวาส เป็นกองกำลังติดอาวุธ กลุ่ม B.R.N.Coordinate ซึ่งมีอุดมการณ์ต่อสู้เพื่อเอกราชของรัฐปาตานี
2. เหตุการณ์โจมตีฐานปฏิบัติการของทหารครั้งนี้ จะเป็นจุดเปลี่ยนความเข้าใจปัญหาความรุนแรงในจังหวัดชายแดนภาคใต้ครั้งสำคัญได้ หากรัฐบาลนำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาพิจารณาไตร่ตรองอย่างลึกซึ้งและรอบคอบ เพราะหลักฐานทุกอย่างในที่เกิดเหตุสามารถอธิบายเหตุและผลในตัวเองได้อย่างชัดเจน
3. การเยียวยาความรู้สึกของประชาชนผู้ได้รับผลกระทบ ควรมีลักษณะจริงใจเมตตาและยุติธรรมในฐานะคนไทยด้วยกันอย่างแท้จริง ไม่ควรมีลักษณะแสวงหาประโยชน์ในทางการเมืองไม่ว่าในกรณีใดๆ
4. การต่อสู้เพื่อความคิดที่ถูกต้องและการสร้างสภาวะแวดล้อมให้เอื้ออำนวยต่อการแก้ปัญหาอย่างสันติวิธี จะเป็นเงื่อนไขสำคัญเบื้องต้นในการยุติเหตุรุนแรงและการก้าวไปข้างหน้าของกระบวนการสร้างสันติภาพในพื้นที่จังหวัดชายแดน
(นายประสิทธิ์ เมฆสุวรรณ)
ประธานสภาประชาสังคมชายแดนใต้
24 กุมภาพันธ์ 2556
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)