Skip to main content
sharethis

อังคณา นีละไพจิตร ในนามคณะกรรมการนักนิติศาสตร์สากล เรียกร้องให้คณะทำงานฯ ยูเอ็น ร่วมมือกับรัฐบาลไทยยุติการควบคุมตัวตามอำเภอใจ โดยให้รัฐบาลไทยตอบรับการมาเยือนอย่างเป็นทางการของคณะทำงานยูเอ็น พบยังมีกรณีผู้สูญหายกว่า 50 กรณี ห่วงการคุมตัวใต้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ขัดมาตรา 9 ของกติกาสากลระหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมือง และสิทธิทางการเมือง

เมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2554 นางอังคณา นีละไพจิตร ประธานมูลนิธิยุติธรรมเพื่อสันติภาพ ในนามคณะกรรมการนักนิติศาสตร์สากล (International Commission of Jurists–ICJ) ได้แถลงด้วยวาจาระหว่างการเสนอรายงานร่วมของคณะทำงานด้านการบังคับสูญหายโดยไม่สมัครใจ และคณะทำงานด้านการควบคุมตัวตามอำเภอใจ ขององค์การสหประชาชาติ ในที่ประชุมคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ นครเจนีวา สวิตเซอร์แลนด์ เรียกร้องให้คณะทำงานฯ ร่วมมือกับรัฐบาลไทยยุติการควบคุมตัวตามอำเภอใจ และให้ความกระจ่างถึงชะตากรรมของบรรดาผู้ถูกบังคับให้สูญหาย โดยให้รัฐบาลไทยตอบรับการมาเยือนอย่างเป็นทางการของคณะทำงานของสหประชาชาติ

ทั้งนี้เมื่อ 2 ปีที่แล้ว ในการประชุมครั้งที่ 10 ของคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ คณะกรรมการนักนิติศาสตร์สากลได้แสดงความยินดีต่อรัฐบาลไทยในการให้การรับรอง ว่าผู้กระทำผิดในการทำให้นายสมชายสูญหายจะต้องถูกนำเข้าสู่กระบวนการ ยุติธรรม แต่จนปัจจุบันยังไม่มีมาตรการอย่างเป็นรูปธรรมที่จะหาตัวผู้รับผิดชอบต่อการ สูญหายของนายสมชาย นีละไพจิตร ในขณะที่ครอบครัวยังต้องเผชิญกับการข่มขู่ คุกคาม โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่จะมีการอ่านคำพิพากษา

นางอังคณายังกล่าวถึงกรณีผู้สูญหายอื่นๆ ในประเทศไทยว่า คณะทำงานด้านการบังคับสูญหายโดยไม่สมัครใจของสหประชาชาติได้รับกรณีผู้สูญ หาย 57 กรณีและได้ส่งคำถามถึงรัฐบาลไทย พบว่ามี 54
กรณีของผู้สูญหายรวมถึงคดีนายสมชาย นีละไพจิตร ที่ยังไม่ได้รับการคลี่คลาย

นอกจากนี้ คณะกรรมการนักนิติศาสตร์สากลยังได้แสดงความกังวลเรื่องการควบคุมตัวประชาชน ตามอำเภอใจ ภายใต้พระราชกำหนดการบริหารราชการณ์ในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ในประเทศไทย โดยกล่าวว่า พระราชกำหนดฯ ฉบับนี้ ได้กัดกร่อนหลักนิติธรรม
และหลักกฎหมายของประเทศไทย รวมถึงยังเป็นการส่งสัญญาณการขยายขอบเขตอำนาจในการจับกุม และควบคุมตัวประชาชน
โดยอนุญาตให้สามารถควบคุมตัวบุคคลได้ตามอำเภอใจ ซึ่งขัดแย้งกับมาตรา 9 ของกติกาสากลระหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมือง และสิทธิทางการเมือง

ทั้งนี้ ดร.เจรามี ซาร์กิน ประธานคณะทำงานด้านการบังคับสูญหายโดยไม่สมัครใจของสหประชาชาติ ได้แถลงเรียกร้องให้รัฐต่างๆ พัฒนาให้มีกฎหมายภายในรัฐต่างๆ กำหนดให้การบังคับสูญหายเป็นอาชญากรรม
รวมทั้งการรับรองสิทธิของเหยื่อและครอบครัว ไม่ว่าจะเป็นสิทธิที่จะทราบความจริง สิทธิในความยุติธรรม และสิทธิที่จะได้รับการเยียวยา

ในขณะที่ประธานคณะทำงานด้านการควบคุมตัวตามอำเภอใจของสหประชาชาติได้ เรียกร้องต่อรัฐบาลไทยตอบรับการมาเยือนอย่างเป็นทางการของคณะทำงานฯ เพื่อตรวจสอบสถานการณ์การควบคุมตัวบุคคลโดยไม่เป็นไปตามกฎหมาย และกติกาสากลระหว่างประเทศ

สแกน QR Code เพื่อร่วมบริจาคเงินให้กับประชาไท

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net