แรงงานร่วมกู้ชาติ "สาวิทย์ แก้วหวาน" ระบุนำองค์กรแรงงาน "สมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์" รวมทั้ง 44 องค์กรในสังกัด ประท้วงรัฐบาลร่วมพันธมิตรฯ ปกป้องอธิปไตย

18 ก.พ. 54 - ที่สะพานมัฆวานรังสรรค์ นายสาวิทย์ แก้วหวาน แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ในฐานะเลขาธิการสมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ หรือ สรส.ได้อ่านแถลงการณ์ในนามสมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ (สรส.) รวมทั้ง 44 องค์กร ในสังกัด บนเวทีรวมพลังปกป้องแผ่นดิน ว่า ขอประกาศเจตนารมณ์ที่จะร่วมต่อสู้กับเคียงบ่าเคียงไหล่ กับพลังมวลชนพันธมิตรฯ เพื่อทวงคืนอธิปไตยไทยกลับคืนมา ซึ่งถือเป็นสิทธิและหน้าที่สิทธิอันชอบธรรมของพลเมืองตาม รธน. สรส.ไม่ได้หนีไปไหน แต่หลังจากรอดูท่าทีของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาเขตแดน นอกจากจะล้มเหลว แต่รัฐบาลยังยืดหยัดที่ปกป้องเอ็มโอยู 43 ซึ่งเป็นต้นเหตุที่จะทำให้ไทยเสียต้องทรัพยากร ทั้งบนบนดินและทางทะเลแน่นอน
       
“การต่อสู้ตลอดกว่า 30 ปีของ สรส.ขอรับประกันว่า สหภาพแรงงานฯ มีเกียรติและศักดิ์ศรี อำนาจรัฐและอำนาจเงิน ซื้อเราไม่ได้เด็ดขาด และขอใช้โอกาสบนเวทีแห่งนี้ประกาศยืนอยู่ข้างมวลชนอย่างแน่นอน” นายสาวิทย์ กล่าว พร้อมอ่านแถลงการณ์ฉบับที่ 1 สรุปใจความได้ว่า เรื่องกระบวนการใช้สิทธิของ พธม.ต่อประเด็นที่แหลมคม เพื่อปกป้องอธิปไตย ถือเป็นการใช้สิทธิตามพลเมืองไทย ที่บัญญัติไว้ใน รธน.50 แต่รัฐบาลซึ่งหน้าที่โดยตรงในการปกป้องอธิปไตย ไม่ได้ดำเนินการตามที่ควรจะเป็น แต่กลับบิดเบือนข้อเรียกร้องของ พธม.และใช้สื่อรัฐใส่ร้ายอย่างต่อเนื่อง และยังมีความพยายามสลายการชุมนุม ความล้มเหลวของการบริหารราชแผ่นดิน ในด้านต่างๆ ทั้งเศรษฐกิจ และทุจริตคอร์รัปชัน รวมทั้งการเสียอธิปไตยให้กัมพูชา เพราะมีบุคคลในรัฐบาล นักการเมือง และข้าราชการระดับสูงบางฝ่าย มีประโยชน์อยู่เบื้องหลัง
       
นายสาวิทย์ กล่าวย้ำว่า ดังนั้น รัฐบาลจึงต้องนำ 3 ข้อเรียกร้องของ พธม.ไปดำเนินการ และไม่มีสิทธิสลายการชุมนุม หรือดำเนินการออกหมายเรียกหรือหมายจับแกนนำ โดย สรส.รวมทั้ง 44 องค์กรในสังกัดสมาพันธ์รัฐวิสาหกิจ ยืดหยัดที่จะยืนเคียงข้างการต่อสู้กับมวลชนพันธมิตรฯ โดยนับตั้งแต่วันนี้ จะได้ยกระดับการต่อสู้ให้เข้มข้นขึ้นเป็นลำดับ

ที่มาข่าว: ASTV ผู้จัดการออนไลน์