Skip to main content
sharethis

ขณะที่สถานการณ์การชุมนุมในตูนีเซียยังไม่สงบลง ก็มีเหตุเพลิงไหม้เรือนจำในเมืองโมนาสเทอ จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 42 ราย โดยประธานาธิบดี Zine al-Abidine Ben Ali ได้หลบหนีไปยังซาอุดิอารเบีย ขณะที่ในประเทศจะมีการตั้งรัฐบาลรักษาการ

สำนักข่าว BBC รายงานว่า เหตุเพลิงไหม้เกิดขึ้นหลังจากที่โฆษกรัฐสภาประกาศให้ Foued Mebazaa ขึ้นเป็นรักษาการประธานาธิบดี และนอกจากนี้ยังมีการขอให้นายกรัฐมนตรี Mohammed Ghannouchi จัดตั้งรัฐบาลสมานฉันท์แห่งชาติ

Wyre Davis ผู้สื่อข่าว BBC ที่รายงานสถานการณ์ในพื้นที่กล่าวว่า "พบรถถังอยู่ทุกมุมในย่านใจกลางเมือง" ขณะเดียวกันก็รายงานว่าสถานการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นดูจะผกผันกับความคืบหน้าทางการเมือง และทั้งกองทัพและรถถังก็ออกมาคุ้มกันสถานที่ราชการไว้ ทำให้ท้องถนนถูกทิ้งร้าง ขณะที่ประชาชนยังคงเฝ้าหาทางประเมินว่ารัฐบาลรักษาการจะสร้างความเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและการเมืองในวงกว้างได้หรือไม่

มีผู้พบเห็นเหตุการณ์เพลิงไหม้คนแรกรายงานเรื่องนี้กับสำนักข่าว Reuters บอกว่าเรือนจำทั้งหมดตกอยู่ใต้เปลวเพลิง มีการปล้นชิงข้าวของในเขตชานเมืองช่วงกลางคืน ซึ่งส่วนใหญ่เป้าหมายที่ถูกขโมยจะเป็นซุปเปอร์มาร์เก็ตที่มีเจ้าของเป็นชาวฝรั่งเศส สถานีรถไฟสายหลักของเมืองถูกเพลิงลุกลามได้รับความเสียหายอย่างมาก

การประท้วงในตูนีเซียยาวนานกว่า 4 สัปดาห์มาจากเรื่องความไม่พอใจเกี่ยวกับปัญหาการว่างงานในวงกว้าง ราคาอาหารที่เพิ่มสูงขึ้น และการคอร์รัปชั่น ขณะที่มีการประท้วงทางเจ้าหน้าที่ก็ได้ยิงกระสุนจริงเข้าใส่ผู้ชุมนุมจนเป็นเหตุให้ประชาชนหลายสิบคนเสียชีวิต จนทำให้สหภาพแอฟริกาออกแถลงการณ์ประณาม "การใช้กำลังเกินกว่าเหตุต่อผู้ชุมนุม"

โดยที่ประธานาธิบดี Ben Ali ผู้อยู่ในตำแหน่งยาวนาน 23 ปี ก็ลงจากตำแหน่งเมื่อวันที่ 14 ม.ค. ที่ผ่านมา หลังจากที่มีเหตุวุ่นวายจากการชุมนุมใหญ่ในตูนิส เขาหนีออกจากตูนีเซียพร้อมครอบครัวและหลังจากที่ฝรั่งเศสปฏิเสธที่จะให้เครื่องบินลงจอดในประเทศ จึงมีการนำเครื่องลงเติมเชื้อเพลิงที่ซาร์ดีเนีย ก่อนออกเดินทางไปยังซาอุดิอาระเบียต่อ

สำนักพระราชวังซาอุฯ ออกแถลงการณ์ว่า"ด้วยความรู้สึกเป็นห่วงต่อสถาณการณ์ที่ประชาชนชาวตูนีเซียผู้เป็นเสมือนพี่น้องกำลังเผชิญอยู่ตอนนี้ และเพื่อเป็นการสนับสนุนความมั่นคงและมีเสถียรภาพของประเทศพวกเขา รัฐบาลซาอุดิจึงขอต้อนรับประธานาธิบดี Zine al-Abidine Ben Ali และครอบครัวเข้ามาสู่ประเทศ"

ทางด้านประธานาธิบดีฝรั่งเศส Nicholas Sarkozy กล่าวว่าประชาชนชาวตูนีเซียได้ "แสดงให้เห็นถึงเจตจำนงแห่งประชาธิปไตย" และเรียกร้องให้มีการจัดการเลือกตั้งทั่วไปให้เร็วที่สุด

ส่วนเลขาฯ การต่างประเทศของอังกฤษแสดงการประณามการใช้ความรุนแรงและการปล้นชิงทรัพย์จากทั้ง 2 ฝ่าย และขอให้กลับมาอยู่ในความสงบ ประเทศอาหรับในภูมิภาคใกล้เคียงไม่ได้แสดงท่าทีใด ๆ ต่อเหตุการณ์มากนัก เว้นแต่กลุ่มสหพันธ์อาหรับ (Arab League) เรียกร้องให้กลุ่มทางการเมืองในตูนีเซีย "มีความกลมเกลียวปรองดองกัน" เพื่อรักษาสันติ

 

 

ที่มา: แปลและเรียบเรียงจาก Tunisia: Deadly jail fire in unrest after Ben Ali exit, 15-01-2011, BBC

http://www.bbc.co.uk/news/world-africa-12198396

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net