"กลุ่มนักศึกษาที่ไม่เห็นด้วยกับการเข่นฆ่าประชาชน" แจงกรณีถูกต้านจัดกิจกรรมรำลึกพฤษภา35 วานนี้ เปลี่ยนใช้ใต้ด่วนรามอิทราจัดกิจกรรมเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับผู้ที่เสียชีวิตจากการกระทำของรัฐ หวั่นถูกดักทำร้ายอีก ด้านกลุ่มนักกิจกรรมจี้อธิการบดี ม.รามฯ ชี้แจงกรณีมีกลุ่มคนต่อต้านการชุมนุมอยู่ในรั้ว ม. ทั้งที่ปิดทำการ

ใช้ใต้ด่วนรามอิทราจัดกิจกรรมแทนหน้าราม
(18 พ.ค.) "กลุ่มนักศึกษาที่ไม่เห็นด้วยกับการเข่นฆ่าประชาชน" ส่งอีเมลหัวข้อ "ข้อชี้แจงกรณีการถูกก่อกวนจากกลุ่มคนไม่หวังดีที่เวทีรถโมบายมหาวิทยาลัยรามคำแหง" ถึงสื่อมวลชน ระบุ "จากการที่นักศึกษาหลากหลายองค์กรและประชาชนที่ไม่เห็นด้วยกับการเข่นฆ่าประชาชนรวมตัวกันเพื่อจัดงานรำลึก 18 ปี พฤษภาทมิฬที่ลานหน้าหอนาฬิกา มหาวิทยาลัยรามคำแหง แต่มีการต่อต้านจากมวลชนที่อธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง (ร.ศ. คิม ชัยแสงสุข) ร่วมกับกลุ่มพันธมิตร จัดตั้งไว้ประมาณ 300 คน มาชูป้ายต่อต้านและใช้อาวุธ เช่นไม้ เหล็ก อยู่ในรั้วมหาวิทยาลัย ซึ่งในขณะที่ชุมนุมอยู่นั้นกลุ่มนักศึกษาและประชาชนได้รับความคุ้มครองจากเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นอย่างดี"

"แต่ในที่สุดก็มีเหตุการณ์ความรุนแรงเกิดขึ้นจากการใช้อาวุธปืนยิงเข้าใส่รถโมบาย จากนั้นกลุ่มผู้ชุมนุมจึงจำต้องสลายการชุมนุมเนื่องจากข้อจำกัดด้านความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่ที่ปราศจากอาวุธใดๆ โดยมีการนัดหมายเพื่อที่จะรวมตัวกันอีกครั้งในวันนี้แต่จากสภาพการณ์ในเขตมหาวิทยาลัยรามคำแหงที่มีการหนุนหลังจากอธิการบดีและกลุ่มหัวคะแนนของพรรคประชาธิปัตย์เกรงว่าผู้ชุมนุมจะถูกดักทำร้ายและเกิดการปะทะกันอันก่อให้เกิดความสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนผู้บริสุทธิ์"

"ดังนั้นกลุ่มนักศึกษาและประชาชนจึงขอเข้ามาร่วมใช้พื้นที่บริเวณใต้ทางด่วนรามอินทราเพื่อรวมตัวกันเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับผู้ที่เสียชีวิตอันเนื่องมาจากการใช้นโยบายและกฎหมายอยุติธรรมของรัฐบาล"

จี้อธิการบดี ม.รามฯ ชี้แจงกรณีมีกลุ่มคนต่อต้านการชุมนุมอยู่ในรั้ว ม. ทั้งที่ปิดทำการ
กลุ่มบุหงาศานติ, กลุ่มบุหงา กาสะลอง ดอกจาน, กลุ่มดอกไม้ไฟ, เยาวชนพิทักษ์ชาติและราชบัลลังก์ ผู้ไม่เห็นด้วยกับการฆ่าและกลุ่มประกายไฟ ซึ่งเป็นกลุ่มนักกิจกรรม ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้ รศ.คิม ชัยแสงสุข อธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง ชี้แจงกรณีที่มีกลุ่มคนออกมาต่อต้านการชุมนุมจากในรั้วมหาวิทยาลัยทั้งที่มีการสั่งปิดมหาวิทยาลัยในวันดังกล่าว รวมถึงประณามการเลือกปฏิบัติต่อนักศึกษาและประชาชนที่มาขอใช้พื้นที่มหาวิทยาลัยรามคำแหงอันเป็นทรัพย์สินที่ได้มาจากภาษีของประชาชน ในการจัดงานเพื่อรำลึกเหตุการณ์ 18 ปี พฤษภาทมิฬ และเรียกร้องให้รัฐบาลหยุดเข่นฆ่าประชาชน

แถลงการณ์ประณามการกระทำของอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง
กรณี การสนับสนุนกลุ่มก่อกวนเวทีนักศึกษา

18 พฤษภาคม 2553

จากเหตุการณ์วันที่ 17 พฤษภาคม 2553 ที่มีการตั้งเวทีจัดงานรำลึก 18 ปี พฤษภาทมิฬ บริเวณลานหอนาฬิกา มหาวิทยาลัยรามคำแหง ขององค์กรนักศึกษาและประชาชน ที่มีจุดประสงค์เพียงเพื่อระลึกถึงผู้สูญเสียในเหตุการณ์การนองเลือดในเดือนพฤษภาคม 2535 และเรียกร้องให้รัฐบาลหยุดเข่นฆ่าประชาชน ขอคืนความยุติธรรมให้กับผู้ที่สูญเสียจากการมาร่วมชุมนุมเรียกร้องทางการเมืองที่รัฐธรรมนูญให้สิทธิอันสมบูรณ์ไว้ แต่กลับต้องพบกับความไม่ยุติธรรมและการเลือกปฏิบัติจากอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง (ร.ศ. คิม ชัยแสงสุข) โดยการปิดมหาวิทยาลัยรามคำแหงไม่ให้นักศึกษาหรือบุคคลภายนอกเข้าออกตั้งแต่เช้าวันที่ 17-18 พฤษภาคม 2553 โดยเงื่อนไขการประกาศหยุดราชการของศูนย์อำนวยการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน(ศอฉ.)

แต่เมื่อมีการจัดตั้งเวทีชุมนุมและปราศรัยขึ้นกลับมีกลุ่มนักศึกษาอยู่ภายในมหาวิทยาลัยประมาณ 300 คนพร้อมกับการ์ดรักษาความปลอดภัยของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยอยู่ออกมาต่อต้าน ขับไล่การชุมนุมของกลุ่มนักศึกษาและประชาชน รวมทั้งมีการก่อกวนยั่วยุกลุ่มผู้ชุมนุมอยู่ตลอดเวลา นอกจากนั้นยังมีการจัดเตรียมอาวุธเพื่อทำร้ายกลุ่มผู้ชุมนุมด้วย เมื่อเวลาล่วงเลยมาจนถึงเวลาประมาณ 00.30 น. ของวันที่ 18 พฤษภาคม 2553 ได้มีการยิงปืนขู่เข้าหารถเครื่องเสียงของกลุ่มนักศึกษาและประชาชนที่มาชุมนุม แต่ไม่มีผู้บาดเจ็บแต่อย่างใด

จากเหตุการณ์การเลือกปฏิบัติเช่นนี้ กลุ่มบุหงาศานติ และองค์กรแนวร่วมจึงขอเรียกร้องและประณามการกระทำของ รศ.คิม ชัยแสงสุข ดังนี้

1. ขอเรียกร้องให้อธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง (รศ.คิม ชัยแสงสุข) ชี้แจงกรณีที่มีกลุ่มคนออกมาต่อต้านการชุมนุมจากในรั้วมหาวิทยาลัยทั้งๆ ที่มีการสั่งปิดมหาวิทยาลัยในวันดังกล่าว

2. ขอประณามการเลือกปฏิบัติต่อนักศึกษาและประชาชนที่มาขอใช้พื้นที่มหาวิทยาลัยรามคำแหงอันเป็นทรัพย์สินที่ได้มาจากภาษีของประชาชน ในการจัดงานเพื่อรำลึกเหตุการณ์ 18 ปี พฤษภาทมิฬ และเรียกร้องให้รัฐบาลหยุดเข่นฆ่าประชาชน
ทั้งนี้กลุ่มบุหงาศานติและองค์กรอื่นๆ ปรารถนาที่จะเห็นสังคมไทยมีความเข้าใจซึ่งกันและกันและต้องการให้มหาวิทยาลัยและสถานศึกษาเป็นที่บ่มเพาะประชาธิปไตยอันไม่ได้มาจากการเลือกปฏิบัติ

เชื่อมั่นศรัทธาพลังนักศึกษา ประชาชน

ลงชื่อ
1.กลุ่มบุหงาศานติ
2.กลุ่มบุหงา กาสะลอง ดอกจาน
3.กลุ่มดอกไม้ไฟ
4.เยาวชนพิทักษ์ชาติและราชบัลลัง ผู้ไม่เห็นด้วยกับการฆ่า
5.กลุ่มประกายไฟ