Skip to main content
ประชาไททำหน้าที่เป็นเวที เนื้อหาและท่าที ความคิดเห็นของผู้เขียน อาจไม่จำเป็นต้องเหมือนกองบรรณาธิการ
sharethis

ศูนย์เอราวัณสรุปจำนวนผู้เสียชีวิตทั้งสิ้น 10 ราย บาดเจ็บ 125 ราย จากการสลายการชุมนุมของทหาร ผู้เสียชีวิตทั้งหมดเป็นประชาชนที่ถูกยิงด้วยอาวุธสงคราม ผู้บาดเจ็บเกือบทั้งหมดเป็นประชาชน รวมทั้งผู้สื่อข่าวช่างภาพ มีทหารบาดเจ็บเพียง 2-3 นาย 

การบาดเจ็บเสียชีวิตทั้งหมดชัดเจนว่าเป็นฝีมือทหาร เพราะภาพข่าว รายงานข่าวทั้งหมด ระบุว่าผู้ชุมนุมมีอาวุธอย่างมากเพียงพลุ ระเบิดขวด ท่อนเหล็ก หนังสติ๊ก ไม่มีภาพของ “ชายชุดดำ” ยิงใส่ทหาร หรือผู้ก่อการร้ายถืออาวุธสงครามอย่างที่ไก่อูกล่าวหา ผู้ตายและบาดเจ็บเกือบทั้งหมดมาจากคำสั่ง ศอฉ. (ที่ได้ใบรับประกันจากศาลแพ่ง) ให้ทหารใช้กระสุนจริงได้ แม้ประชาชนผู้ชุมนุมจะไม่มีอาวุธร้ายแรง

นอกจากนี้ยังปรากฏข่าวที่ทหารยิงใส่รถมูลนิธิ ยิงใส่รถประชาชนที่ขับมาบนถนน ตอนดึกยิงใส่รถตู้ นปช.ที่ขับแหกด่านจนพรุน คนขับสาหัส เด็ก 10 ขวบและคนยืนอยู่แถวนั้นโดนลูกหลงสาหัส แสดงว่าซัลโวกันไม่นับเหมือนในหนัง

นี่หรือที่อ้างว่าไม่ต้องการทำร้ายประชาชน “สุภาพบุรุษ” ชายชาติทหาร ลบเฟซบุคหรือยัง

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานข่าวชัดเจน ว่าทหารยิงช่างภาพของเขา แต่ไก่อูกลับบอกประชาชนอย่าเชื่อข่าวต่างชาติ (เหมือนพฤษภา 35) แน่จริงก็ไปหาเทปภาพชายชุดดำมาอีกสิครับ มันจะมีได้ไงในเมื่อ ศอฉ.บอกเองว่าส่งพลแม่นปืนขึ้นประจำทุกตึกสูง

ไม่ว่าการชุมนุมของคนเสื้อแดงจะเสียความชอบธรรมไปเพียงไรก็ตาม จากความดันทุรังของแกนนำที่หวังเอาชีวิตมวลชนเข้าแลก แต่พฤติกรรมอำมหิตของรัฐที่กระทำกับมวลชน ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ว่านี่คือพฤติกรรม “ทรราชย์” ของแท้มาเอง เพียงต่างจากถนอมประภาสหรือสุจินดา เพราะทรราชย์ออกซ์ฟอร์ดได้รับฉันทานุมัติจากชนชั้นนำและชนชั้นกลาง ให้เข่นฆ่าคนชั้นล่าง แท็กซี่ สามล้อ มอเตอร์ไซค์รับจ้าง พวก “bad hygiene” (ช่วยฆ่ามันเร็วๆ ก่อนที่ลูกเราจะเปิดเทอม ไม่งั้นรถติดแย่ ไปเรียนพิเศษไม่ทัน จะสอบแอดมิชชั่นไม่ติดคณะนิติศาสตร์)

สถานการณ์ที่เกิดขึ้นใน 2 วันนี้ ทำให้ข้อเรียกร้องที่ว่าแกนนำเสื้อแดงควรเลิกดันทุรัง ต้องตกไปเป็นเรื่องรอง เพราะเรื่องหลักต้องประณามทรราชย์ และหยุดทรราชย์ก่อน เนื่องจากเห็นได้ชัดว่า ศอฉ.กำลังออก “ใบอนุญาตฆ่า” โดยไม่คำนึงว่าการเข้าสลายการชุมจะทำให้มวลชนบาดเจ็บล้มตายสักเพียงไร โดยอาศัยการปลุกผี “ผู้ก่อการร้าย” ทั้งที่เห็นได้ชัดว่าคราวนี้ไม่มีชายชุดดำ มีแต่ “ชายชุดเขียว” ที่ฆ่าคน

หยุดทรราชย์และประณามทรราชย์ แล้วจึงค่อยเรียกร้องให้มีการเจรจา ถ้าชาวขาวเนียนรักสันติจริง ก็ต้องประณามการเข่นฆ่าครั้งนี้ เรียกร้องให้ยุติการใช้กำลัง แล้วจึงค่อยเรียกร้องให้แกนนำเสื้อแดงเลิกดันทุรัง

ผมไม่ปฏิเสธว่าต้องประณามแกนนำเสื้อแดงเช่นกัน ที่ดื้อรั้นจนทำให้สังคมอิดหนาระอาใจ เสียหายทางการเมือง ขาดความเห็นใจ จนนำไปสู่ฉันทานุมัติให้สลายม็อบ ต้องรอให้มวลชนตาย ต้องรอให้เลือดนอง เพื่อจะฉวยกระแสตีกลับว่ารัฐบาลทรราชย์

มันทรราชย์จริงครับ แต่การที่คุณจงใจเอาชีวิตคนมาเสี่ยงเพื่อตีโต้ทางการเมือง เป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้ ต้องประณาม (เหมือนพันธมิตรเมื่อ 7 ตุลานั่นแหละ แต่ยังดีที่แกนนำอย่างจตุพร, อริสมันต์ มันกล้าเสี่ยงตายด้วยกันกับมวลชน)

ที่สำคัญการที่แกนนำฆ่าตัวตายทางการเมือง มันทำให้การเสียสละของผู้พลีชีพ ไม่ได้ส่งผลสะเทือนทางการเมืองอย่างที่ควร เว้นแต่ในอารยะประเทศที่เขาถือสิทธิมนุษยชนสำคัญกว่ากระแส จึงเห็นว่าการปราบประชาชนเป็นความผิดร้ายแรง

ขอย้ำว่าผู้รักประชาธิปไตย นักสิทธิมนุษยชน (ตัวจริง) และนักสันติวิธี (ถ้าจริง) ต้องประณามรัฐบาลทรราชย์ และเรียกร้องให้ยุติการปราบประชาชน เป็นอันดับแรก เพราะรัฐคือผู้ใช้อำนาจ เป็นผู้กำหนดระดับความรุนแรงว่าจะให้เกิดขึ้นมากน้อยเพียงใด

แกนนำเสื้อแดงทำไม่ถูกจริง แต่รัฐก็ไม่ได้เป็นเจ้าชีวิตคน กระทั่งออกใบอนุญาตให้ “ชายชุดเขียว” ไปยิงหัวใครก็ได้

แต่ถ้าห้ามกันไม่อยู่ๆจริง ถ้าวันเสาร์นี้ยังขยายการปราบปรามอย่างรุนแรง สิ่งที่หลายคนทำนายไว้ก็น่าจะเป็นจริงคือ สงครามกลางเมืองเริ่มต้นแล้ว แต่นี่แค่เพิ่งจะเริ่มต้นเท่านั้น 

 

 

สแกน QR Code เพื่อร่วมบริจาคเงินให้กับประชาไท

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net