Skip to main content
sharethis

กลายเป็นข่าวฮือฮาในช่วงวันสองวันนี้ เมื่อมีนักศึกษาคนหนึ่งจากมหาวิทยาลัยหาดใหญ่ นายธนวัฒน์ วาหะรักษ์ นักศึกษาชั้นปีที่ 2 วิชาเอกการเมืองการปกครอง คณะรัฐศาสตร์ อ้างว่าได้ส่งข้อความสั้นทางโทรศัพท์มือถือ หรือ SMS ไปยังหมายเลขปลายทางที่อ้างว่าเป็นของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และนายกรัฐมนตรีก็ได้โทรศัพท์กลับมา

เป็นการโทรศัพท์กลับมาเพื่อชี้แจงกรณีที่ถามถึง เหตุใดไม่จัดการกับกลุ่มคนเสื้อแดงอย่างเด็ดขาดอย่างที่ปรากฏในข่าว ASTV ผู้จัดการออนไลน์ เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2553 ที่ผ่านมา ซึ่ง ASTV ผู้จัดการออนไลน์ ได้รายงานข่าวดังกล่าวจากบริเวณหน้าหอประชุมเทศบาลนครหาดใหญ่

จนกระทั่งเวลาประมาณ 10.15 น. วันที่ 6 พฤษภาคม 2553 ในรายการสภาท่าพระอาทิตย์ สถานีโทรทัศน์ ASTV News1 นายอภิสิทธิ์ ได้โทรศัพท์เข้าไปในรายการ ยอมรับได้โทรศัพท์พูดคุยกับนักศึกษาคนดังกล่าวจริง

นายธนวัฒน์ เปิดเผยว่า ก่อนหน้านั้น ตนได้โทรศัพท์ไปหานายกรัฐมนตรีเป็นร้อยครั้ง แต่สายไม่ว่าง จึงตันสินใจส่ง SMS เมื่อเวลา 4 ทุ่ม 54 นาที ไม่นานนายกรัฐมนตรีก็โทรศัพท์กลับมา ท่านก็ชี้แจงไปตามที่เป็นข่าว ส่วนหมายเลขโทรศัพท์ปลายทางที่ตนใช้ส่ง SMS ไปนั้น ได้มาจากการชมรายการเคาะข่าวริมโขง ทางสถานีโทรทัศน์ ASTV ที่มีนายประพันธ์ คูณมี ดำเนินรายการ แล้วมีการแสดงหมายเลขโทรศัพท์ดังกล่าวด้วย

นายธนวัฒน์ กล่าวต่อว่า ไม่คิดว่านายกรัฐมนตรีจะโทรศัพท์กลับมา แต่ก็ดีใจที่เสียงของคนเล็กคนน้อยอย่างตน ได้รับความสนใจจากนายกรัฐมนตรี ซึ่งตอนส่ง SMS ไปนั้น ตนใช้ชื่อว่า จากนักศึกษาการปกครอง ม.หาดใหญ่

นายธนวัฒน์ กล่าวว่า เหตุที่นายกรัฐมนตรีโทรศัพท์กลับมาหาตนนั้น ไม่น่าจะเป็นเพราะก่อนหน้านี้มีนักศึกษามหาวิทยาลัยหาดใหญ่หลายคนเคยเข้าร่วมกิจกรรมกับพรรคประชาธิปัตย์ เช่น กลุ่มยุวประชาธิปัตย์ เพราะตนไม่เคยเข้าร่วมกิจกรรมกับพรรคประชาธิปัตย์ แต่ก็ได้ร่วมปราศรัยบนเวทีแสดงความคิดเห็นทางการเมืองกับเพื่อนๆ ในมหาวิทยาลัยที่รุ่นพี่จัดขึ้น และเคยร่วมเวทีภายนอกมหาวิทยาลัยด้วย เช่น ที่ลานคนเมืองในเขตเทศบาลนครหาดใหญ่

นายธนวัฒน์ เปิดเผยด้วยว่า สนใจปัญหาบ้านเมืองมาตั้งแต่สมัยเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 (ม.3) ที่โรงเรียนดีบุกพังงาวิทยายน อำเภอเมือง จังหวัดพังงา ซึ่งเป็นช่วงก่อนการรัฐประหารเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549 ซึ่งขณะนั้นมีการเคลื่อนไหวทางการเมืองของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย

นายธนวัฒน์ เปิดเผยต่อว่า ขณะเรียนชั้นมัธยมปลาย มีเพื่อนๆ หลายคนที่มีความคิดเห็นทางการเมืองที่แตกต่างกัน บางคนเห็นด้วยกับกลุ่มคนเสื้อแดง บางคนเห็นด้วยกับกลุ่มเสื้อเหลือง ทำให้มีการถกเถียงกันมาก อาจารย์จึงเปิดเวทีให้เถียงกันด้วยเหตุผลเป็นประจำ จึงเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้สนใจปัญหาบ้านเมืองมากขึ้นด้วย จนกระทั่งปัจจุบัน ก็มีเพื่อนที่เข้าร่วมกับกลุ่มคนเสื้อแดงและเสื้อเหลือง

นายธนวัฒน์ เปิดเผยอีกว่า ที่ผ่านมาได้ติดตามข่าวสารบ้านเมืองมาตลอด โดยติดตามทั้งจากหนังสือพิมพ์ โทรทัศน์หลายช่อง ไม่ได้ดูทาง ASTV อย่างเดียว เคยจัดกิจกรรมให้ความรู้ทางการเมืองกับชาวบ้านในเวทีสาธารณะต่างๆ ด้วย

นายธนวัฒน์ กล่าวว่า อีกส่วนหนึ่งที่ทำให้ตนสนใจปัญหาบ้านเมือง เนื่องจากที่หมู่บ้านของตน คือบ้านบางพัฒน์ หมู่ที่ 8 ตำบลบางเตย อำเภอเมือง จังหวัดพังงา ชาวบ้านร่วมกับหน่วยงานรัฐ รวมทั้งสำนักพระราชวังได้จัดทำโครงการคืนไข่ปูสู่ธรรมชาติ ใต้ร่มบารมีมหาราชินี โดยการเก็บปูที่มีไข่นอกกระดองจากชาวประมงมาเก็บไว้ที่ธนาคารปู เพื่อให้ปูจะสลัดไข่ออกหมด แล้วนำปูไปขายนำรายได้เข้าหมู่บ้าน เป็นทุนการศึกษาและบำรุงรักษามัสยิด ส่วนไข่ปูก็นำไปเพาะพันธ์ลูกปูต่อไป โครงการนี้ดำเนินการมาตั้งแต่ก่อนเกิดเหตุคลื่นสึนามิถล่มเมื่อปลายปี 2547 แล้ว ซึ่งการได้ร่วมกิจกรรมด้วย ทำให้ยิ่งสนใจปัญหาบ้านเมืองมากขึ้น

“ส่วนพ่อของผม ซึ่งเป็นชาวประมงพื้นบ้าน แม้จะเป็นเพื่อนกับนายจุรินทร์ ลักษณะวิศิษฐ์.... รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข แต่ผมเองก็ไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับพรรคประชาธิปัตย์มาก่อนด้วย และตอนนี้ก็เริ่มไม่ชอบพรรคประชาธิปัตย์ด้วย เพราะเมื่อมีปัญหาบ้านเมืองเกิดขึ้นแล้ว ไม่ยอมแก้ไขเสียที” นายธนวัฒน์ กล่าว

0 0 0

หมายเหตุ : ต่อไปนี้เป็นเนื้อหาส่วนหนึ่งจากข่าว น.ศ.ม.หาดใหญ่อ้างรับสาย ‘มาร์ค' บอก 'ทักษิณ' เตรียมซื้อ ส.ส. 100 ล้าน ทาง ASTV ผู้จัดการออนไลน์ เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2553

....

นายธนวัฒน์ วาหะรักษ์ นักศึกษาชั้นปีที่ 2 วิชาเอกการเมืองการปกครอง คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยหาดใหญ่ขึ้นเวทีแสดงความคิดเห็นทางการเมือง โดยกล่าวว่า หลังรับทราบแผน 5 ข้อสร้างความปรองดองคนในชาติหรือ“โรดแมป” ที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีเสนอต่อกลุ่มเสื้อแดง รวมถึงการประกาศเลือกตั้งวันที่ 14 พ.ย.นี้

นายธนวัฒน์ ได้ตัดสินใจส่งข้อความไปหาเบอร์โทรศัพท์ที่อ้างว่าเป็นเบอร์ของนายกรัฐมนตรี เพื่อระบายความอัดอั้นตันใจ โดยข้อความมีใจความว่า

“เมื่อก่อนผมเคยคิดว่าทักษิณคือทรราชขายชาติ แต่เมื่อเห็นท่านนายกฯตัดสินใจแบบนี้ หมดเลยซึ่งความศรัทธา ระวังท่านจะได้ชื่อว่าทรราชคนต่อไป และทำไมถึงไม่จัดการ ช่วยตอบหน่อย”

นายธนวัฒน์อ้างว่า หลังจากนั้นได้มีสายโทรเข้าจากนายกรัฐมนตรีในเวลา 23.23 น. วันที่ 4 พ.ค. และตนเองได้รับสาย ซึ่งในตอนแรกตนคิดจะต่อว่าถึงการกระทำของนายกรัฐมนตรี ถึงเรื่องการออกโรดแมป แต่เมื่อฟังน้ำเสียงนายกฯ แล้วเกิดความเห็นใจ

นายธนวัฒน์ อ้างคำกล่าวของนายอภิสิทธิ์ว่า ตนมีความอึดอัดใจพอสมควร แต่ก็ตัดสินใจเพียงคนเดียวไม่ได้ และตอนนี้ทักษิณก็ได้ล็อบบี้ ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลเพื่อให้ได้เปลี่ยนแปลงคณะรัฐบาลรายละ 100 ล้านบาทแล้ว แต่ก็ขึ้นอยู่กับ ส.ส.เหล่านั้นว่า จะขายชาติตามทักษิณหรือรักษาประเทศนี้ไว้

จากนั้นนายธนวัฒน์ได้ถามต่อว่า “ทำไมท่านถึงไม่สลายการชุมนุม” ซึ่งก็ได้คำตอบจากปลายสายที่นายธนวัฒน์อ้างว่าเป็นนายกฯ ว่า “ผมต้องหาความชอบธรรมในการสลาย ถ้าจะสลายก็เกรงจะมีประชาชนสูญเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก ซึ่งก็อยากสลายเหมือนกัน แต่ก็กลัวที่จะสูญเสีย”

นอกจากนี้ยังได้ถามถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งตัวนายธนวัฒน์ก็ไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งต่อการแก้ไข เพราะรัฐธรรมนูญเดิมนั้นดีอยู่แล้ว" ปลายสายตอบกลับมาว่า “ต้องค่อยๆ แก้ ไม่ได้แก้ทีเดียว” จากนั้นก็ได้วางสายไป

นายธนวัฒน์บอกว่า เขาเป็นคนที่สนใจปัญหาการเมืองมาตั้งแต่ศึกษาอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 และเริ่มศึกษามาเรื่อยๆ และได้เคลื่อนไหวร่วมกับกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยอยู่บ่อยครั้ง แต่ได้อยู่บริเวณหลังเวที

นายธนวัฒน์อ้างว่าเมื่อได้ยินเสียงที่นายธนวัฒน์อ้างว่าเป็นเสียงนายกฯ แล้ว ก็เกิดการสงสาร และได้รับรู้ว่านายกฯ มีความเครียดและก็เร่งที่จะแก้ไขปัญหาตลอดเวลา เพื่อที่ไม่ให้กระทบต่อประชาชนผู้บริสุทธิ์

 

สแกน QR Code เพื่อร่วมบริจาคเงินให้กับประชาไท

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net