แกนนำ นปช. มีมติขับ เสธ.แดงและสุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์ ออกจากกลุ่ม หลังมีแนวคิดสวนทาง เตรียมประกาศสงครามชนชั้น 20 มี.ค. เคลื่อนพลทั่ว กทม. ด้านเสธ.แดงยังยืนยัน "แม้มึงไม่เอากูแต่กูเอามึง" ด้าน พ.อ.สรรเสริญ อ้างพลทหารที่ นปช. จับได้ เป็นพวกหนีทหาร พร้อมกล่าวขอบคุณ นปช. ที่ช่วยจับคนหนีทหารมาส่ง ชี้โทษหนีทหารหนีไปแค่ไหน ก็จะขังตามระยะเวลาที่หนีไป

ขับเสธ.แดง-สุรชัยพ้น 'แดง' พร้อม เคลื่อนพลทั่วกรุง 20 มี.ค.

ช่วงเย็นวันที่ 17 มี.ค นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง กล่าวว่า หลังจากแกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ได้ใช้เวลาในการประชุมร่วมกัน เพื่อหาแนวทางในการชุมนุมยาวนานกว่า 3 ชั่วโมง ซึ่งที่ประชุมมีประเด็นอยู่หลักๆ คือ การประเมินสถานการณ์และความเคลื่อนไหวการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง ได้ข้อสรุปว่า ขณะนี้จากการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดงในพื้นที่ทั่วกรุงเทพฯ ทั้ง กรมทหารราบ 11 รักษาพระองค์, ทำเนียบรัฐบาล, พรรคประชาธิปัตย์ และบ้านพักของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ซอยสุขุมวิท 31 เป็นไปอย่างพอใจ เพราะใน 3 เส้นทางที่กลุ่มคนเสื้อแดงเดินทางไปนั้น เป็นไปอย่างเรียบร้อยและน่าพอใจอย่างยิ่ง

“การเดินทางเคลื่อนพลไปในครั้งนื้ ได้รับความสนใจ และพลังสนับสนุนจากประชาชนในพื้นที่ทั่วกทม.อย่างชัดเจน เพราะตลอดสองข้างทางที่ขบวนเคลื่อนไปนั้น ประชาชนต่างออกมาแสดงพลังด้วยการโห่ร้อง ตบมือ แจกน้ำ ให้ดอกไม้ โดยเฉพาะเส้นทางสุขุมวิท ซึ่งอยู่ใจกลางเมืองในย่านธุรกิจและการค้า พบว่ากระแสการตอบรับจากพื้นที่ดังกล่าว ได้รับพลังสนับสนุนที่น่าประทับใจมาก ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดี แสดงให้เห็นว่าเสื้อแดงได้รับชัยชนะ” แกนนำเสื้อแดงกล่าว

นายณัฐวุฒิ กล่าวต่อว่า สำหรับมาตรการที่รัฐบาลพยายามสร้างความยืดเยื้อ เพราะคิดว่ากลุ่มคนเสื้อแดงจะเหนื่อยและอ่อนล้า ยอมแพ้และเก็บของกลับบ้านนั้น กลุ่มคนเสื้อแดงจะแสดงพลังให้รัฐบาลได้เห็นว่า จะอยู่ชุมนุมให้ยาวนานที่สุด เพราะคิดว่าปัญหาและความเสียหายจะไม่เกิดขึ้นกับผู้ชุมนุม เนื่องจากมีสถานที่ชุมนุมเป็นหลักแหล่ง นั่นคือสะพานผ่านฟ้าลีลาศ รัฐบาลมากกว่า ที่ควรเป็นฝ่ายเสียหาย เพราะขนาดผู้นำประเทศอย่างนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ยังไม่สามารถเดินทางเข้าพักที่บ้านของตนเองได้ ต้องพักอยู่กับทหาร ส่วนกำหนดงานก็มีแต่หมายงานต่างจังหวัด

นอกจากนี้ นายณัฐวุฒิ กล่าวทิ้งท้ายว่า การที่รัฐบาลพยายามสร้างสถานการณ์เพื่อให้เหตุการณ์ทอดยาว กลุ่มคนเสื้อแดงก็จะขอใช้หลักสันติวิธีตอบโต้รัฐบาลด้วยชุมนุมต่อเนื่องไปอย่างไม่มีกำหนด และในวันที่ 20 มี.ค.นี้ กลุ่มคนเสื้อแดงจะเตรียมการเคลื่อนไหวขบวนครั้งยิ่งใหญ่ ด้วยการเคลื่อนไปทั่วพื้นที่กรุงเทพฯ ด้วยขบวนรถบัส, รถยนต์, รถตู้, รถจักรยานยนต์ และเดินเท้า เพื่อประกาศสงครามชนชั้นไพร่อย่างเป็นทางการ โดยข้อเรียกร้องขั้นต้นในการแสดงออกในครั้งนี้ เพื่อต้องการให้รัฐบาลประกาศยุบสภา ซึ่งมั่นใจว่า การประกาศข้อเรียกร้องดังกล่าวนี้ จะส่งผลให้เสื้อแดงได้รับชัยชนะแน่นอน สำหรับเส้นทางการเคลื่อนขบวนในพื้นที่กทม. จะเป็นเช่นไรนั้น จะแจ้งให้ราบในภายหลัง

ด้านนายวีระ มุสิกพงศ์ ประธานนปช. กล่าวว่า หลังจากที่นปช.ถูกกล่าวหาจากบุคคลที่เคยมีแนวคิดเดียวกันอย่าง พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือเสธ.แดง และสุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์ โดยกล่าวอ้างว่า วีระ มุสิกพงศ์, จตุพร พรหมพันธ์ และณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ หมดภาวะผู้นำแล้ว และเดินมาผิดพลาด ซึ่งแนวทางดังกล่าวนั้น ไม่สามารถที่จะเปลี่ยนประเทศอีกต่อไปได้ สามเกลอไม่ควรดิ้นรนต่อไปอีก

ประธานกลุ่มนปช. กล่าวต่อว่า ในส่วนตรงนี้ กลุ่มคนเสื้อแดงพร้อม และเปิดกว้างในการแสดงความคิดเห็นของทุกฝ่ายเสมอ และยืนยันว่าแนวทางที่กลุ่มคนเสื้อแดงเดินทางมานั้นถูกต้องแล้ว และจะเดินหน้าต่อไป เพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจประชาธิปไตย โดยยึดหลักวิธีการที่สันติและอหิงสา บุคคลทั้งสองเคยมีไมตรีจิตที่ดี และมีแนวคิดในทางเดียวกันกับกลุ่มเสื้อแดงมาโดยตลอด แต่มาในวันนี้ ทั้งสองกลับมีแนวคิด น้ำเสียง และท่วงทำนองที่แตกต่างออกไป ด้วยเหตุนี้ ที่ประชุมของกลุ่มนปช.จึงมีมติ และขอประกาศว่า บุคคลทั้งสองไม่ใช่กลุ่มนปช.อีกต่อไปแล้ว ทางใครทางมัน ไม่เกี่ยวข้องกับกลุ่มคนเสื้อแดงอีกต่อไป

เสธ.แดงยังยืนยันคำเดิม "แม้มึงไม่เอากูแต่กูเอามึง"

ด้าน พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการแห่งชาติ (นปช.) มีมติประกาศขับไล่ พล.ต.ขัตติยะ ออกจากกลุ่มคนเสื้อแดง ว่า ไม่ต้องมาตัดกู เพราะพวกแกนนำนปช.ประกาศตัดตนตั้งแต่ตอนแรกแล้ว แต่ตนเคยบอกว่า "แม้มึงไม่เอากูแต่กูเอามึง" และ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีได้ฝากให้ตนดูแลเรื่องการรักษาความปลอดภัยคนเสื้อแดง ดังนั้นยืนยันว่า ไล่ตนยังไงก็ไม่ไป

“มึงไม่ต้องมาตัดกู เพราะตั้งแต่แรกกูไม่เคยคิดจะให้มึงที่สมองหมาปัญญาควายมาเป็นผู้นำทัพ อย่างนายจตุพร พรหมพันธ์ แกนนำนปช.เรียนรามคำแหง 11 ปีกว่าจะจบ ทั้งที่เขาเรียนกันแค่ 3 ปีครึ่ง กูไม่ต้องการผู้นำควาย เสธ.แดงเสนอตัวมาเป็นที่ปรึกษาให้ทัพมึงก็ไม่เอา เสธ.แดง เสนอรบ 3 วันจบโดยไม่เสียเลือดเนื้อก็ไม่เอา มึงเอามวลชนมารบกับทหารจะชนะได้อย่างไร เพราะทหารต้องรบกับทหาร เราต้องไม่ให้ทหารออกมา เหมือนกับที่นายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกรัฐมนตรี สั่งให้ทหารออกมา แต่เมื่อทหารไม่ออกมาก็แพ้ทันที” พล.ต.ขัตติยะ กล่าว

พล.ต.ขัตติยะ กล่าวต่อว่า ส่วนการเจาะเลือดผู้ชุมนุมนั้น ไม่รู้ว่า แกนนำเอาตำราพิชัยสงครามเล่มไหนมาใช้ เพราะปกติเขาจะกรีดเลือดเฉพาะผู้นำทัพ แต่นี่กลับมาเจาะเลือกลูกทัพ ทำให้เสียมวลชนที่เป็นสตรีและเด็กจำนวนมาก กลุ่ม 3 เกลอรู้ดีว่า สู้ไม่ได้ เลยโกรธจึงโยนความผิดให้ตน และมาด่าตนว่า เป็นเพราะตนทำให้แพ้ เหมือนกับโจโฉฆ่าเอียวซิ่ว

พล.ต.ขัตติยะ กล่าวต่ออีกว่า ที่ผ่านมาพวก 3 เกลอเคยพาเสื้อแดงทำอะไรประสบความสำเร็จบ้าง นำทัพแดงรบแพ้มา 2 ครั้ง ขณะที่ตนเป็นทหารที่รบชนะมาตลอด คอยช่วยเหลือเสื้อแดงอยู่ตลอด ดังนั้นแกนนำนปช.ควรจะถอยไป เหลือไว้เพียงนายณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ และเปิดโอกาสให้ นายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง นายสุพร อัตถาวงศ์ และนายขวัญชัย ไพรพณา ขึ้นมาเป็นผู้นำทัพคนใหม่ ตอนนี้เมื่อแพ้จะถอยทัพกลับก็ไม่เสียหาย เพราะแม่ทัพไม่ได้ถูกเสมอไป ตอนนี้แกนนำเสื้อแดงต่างจังหวัดหลายคนบอกตนว่า จะกลับบ้าน แต่ตนบอกว่าอย่าเพิ่งถอย เพราะตอนนี้ตนกำลังคิดมุกใหม่ และยังคอยแอบช่วยเสื้อแดงให้รบชนะอยู่ แต่ตอนนี้ยังคิดไม่ออกมาจะช่วยยังไง

“สงสัยหนทางชนะตอนนี้ ต้องรอลุ้นให้แบล็คฮอว์คที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ขึ้นทุกวันนี้ตกลงมา เพราะแบล็คฮอว์คตัวที่นายอภิสิทธิ์นั่งอยู่เก่ามาก ใช้มา 10 กว่าปี ที่นายอภิสิทธิ์ยิ้มอยู่ตอนอยู่บนเครื่องรู้หรือไม่ว่า ขนาดนักบินยังไม่อยากจะนำเครื่องขึ้น เพราะไม่รู้จะตกวันไหน ก่อนบินต้องไปลาลูกเมียก่อนทุกครั้ง เพราะแบล็คฮอว์คตัวนี้ไม่ต่างอะไรกับโลงศพบินได้ ทางที่ดีแนะนำว่า นายอภิสิทธิ์ควรจะขึ้นรถไปจะดีกว่าขึ้นแบล็คฮอว์คที่ไม่รู้ว่าจะตกวันไหน” พล.ต.ขัตติยะ กล่าว

สุรชัยชี้ 3 เกลอตัดขาดเสธ.แดง-แดงสยามหาทางลง

ด้านนายสุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์ กลุ่มแดงสยาม กล่าวถึงกรณีที่ 3 เกลอ ได้ประกาศตัดสัมพันธ์กับตน และพล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือ เสธ.แดง บนเวทีปราศรัยผ่านฟ้าฯ ว่า ก่อนหน้านี้ 3 เกลอก็ไม่เคยมองตนเป็นเพื่อนนานแล้ว และพยายามขัดขวางไม่ให้ตนและกลุ่มแดงสยามออกทีวี

ทั้งยังอ้างสิทธิ์ประสานกับพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เอาไว้เฉพาะ 3 คน ทั้งที่ตนมองถึงแนวทางการต่อสู้แบบสันติเพื่อให้เสื้อแดงไปถึงเป้าหมาย เพราะมองว่า 3 เกลอเดินแนวทางผิด และอาจจะทำให้การต่อสู้ครั้งนี้แพ้ จึงเรียกร้องขอให้ยุติและปรับยุทธวิธีใหม่ ซึ่งครั้งนี้ตนไม่ทราบว่าทำไมถึงโกรธมากมาย อาจเป็นเพราะ 3 เกลอ จะหาทางลงให้กับตัวเอง หรือเป็นเพราะพ.ต.ท.ทักษิณไม่ไว้ใจเหมือนเดิม ทำให้ขาดอำนาจในการดูแลมวลชนเสื้อแดงทั้งหมด ประกอบกับทราบว่านายจักรภพ เพ็ญแข อดีตแกนนำ นปช. ก็พยายามตั้งกลุ่มที่ต่างประเทศ เมื่อ 3 เกลอรู้จึงไม่พอใจ

อย่างไรก็ตาม ตนขอเตือนว่า เสื้อแดงหลายกลุ่มได้สะท้อนความเห็นมายังกลุ่มแดงสยาม และขอให้ตั้งองค์กรขึ้นมารวมกัน โดยให้แดงสยามเป็นแกนนำ เพราะไม่พอใจการนำของ 3 เกลอ ที่ต่อสู้แบบไม่มียุทธศาสตร์ นอกจากนี้ ตนขอเตือน พ.ต.ท.ทักษิณว่าอย่าหลงเดินทางผิด เชื่อ 3 เกลอนานไปกว่านี้ เพราะยิ่งจะทำให้ห่างไกลเป้าหมายมากขึ้น

"อยากบอกว่า 3 เกลอ และนพ.เหวง โตจิราการ เปรียบเหมือนไก่ชนที่แพ้แล้ว ยิ่งประกาศเคลื่อนมหาสงคราม 20 มี.ค. ก็ยิ่งจะเป็นการกดดันเสื้อแดงเองไม่ใช่รัฐบาล" นายสุรชัย กล่าว

“เสื้อแดง” หวิดป่วน หลังจับพลทหารพกปืนอัดลมเข้าที่ชุมนุม

เมื่อเวลา 19.00 น. กลุ่มการ์ดนปช. ได้จำกุมตัวชายต้องสงสัย พกอาวุธปืนอัดลม 1 กระบอก พร้อมด้วยกระสุนอัดลมจำนวนหนึ่ง และมีดพับ 1 เล่ม ที่บริเวณอนุสรณ์สถาน 14 ตุลา ซึ่งเป็นจุดเดียวกันกับที่พบระเบิดเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ซึ่งทราบชื่อภายหลัง คือพลทหารสมชาติ แดงอุทุม อายุ 23 ปี สังกัดกองบัญชาการกองทัพภาคที่ 1 ซึ่งการ์ดนปช. ได้นำตัวชายคนดังกล่าวมาควบคุมตัวไว้บริเวณเต้นท์แกนนำหลังเวที นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า เบื้องต้นจะประสานไปยังต้นสังกัดเพื่อตรวจสอบว่าเป็นพลทหารจริงหรือไม่ และมาทำอะไร เนื่องจากผู้ต้องสงสัยให้การว่ามารอรับแฟน ซึ่งขณะนี้ได้ประสานไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.นางเลิ้งเพื่อนำตัวไปสอบสวนต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการสอบถามพลทหารสมชาติ ให้การเบื้องต้นว่า ตนได้หนีทหารมาตั้งแต่วันที่ 21 ก.ย. ที่ผ่านมา และสาเหตุที่เข้ามาในพื้นการชุมนุมเพื่อมารอรับแฟนสาวที่มาทำงานบริเวณสี่แยกคอกวัว ส่วนสาเหตุที่พกอาวุธดังกล่าว เนื่องจากเป็นการป้องกันตัวเพราะแฟนเก่าของแฟนสาวได้โทรศัพท์มาราวี พร้อมทั้งข่มขู่ จึงจำเป็นต้องพกอาวุธดังกล่าวไว้ และอาวุธที่พกมาแฟนสาวเป็นผู้ซื้อให้

นอกจากนี้ ระหว่างที่ทำการสอบสวนผู้ต้องสงสัย เป็นเวลาเดียวกันกับที่นายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง ได้ทำการปราศรัยอยู่บนเวที และหลังจากที่ปราศรัยจบ เมื่อทราบข่าวว่ามีการจับกุมพลทหารได้ ก็กล่าวอ้างว่า “เป็นคนของนายสุเทพ ส่งมา หน่วยการ์ดของคนเสื้อแดงจับไว้ได้ ขณะนี้นายนายณัฐวุฒิ กำลังสอบสวน ดีนะที่นายณัฐวุฒิเป็นผู้จับได้ ถ้าเป็นผมนะเหลือแต่ซากแล้ว”

ผู้สื่อข่าวรายงานจากนั้นในเวลา 20.30 น. พล.ต.ท. วิชัย สังข์ประไพ ผบ.ชน.1 ได้มารับตัวผู้ต้องสงสัยไปสอบสวน โดยควบคุมตัวไปทางถนนหลานหลวง โดยระหว่างทางได้มีกลุ่มผู้ชุมนุมบางส่วนแสดงอาการไม่พอใจ ตะโกนด่า และกรูจะเข้ามาทำร้าย แต่ทางการ์ดคอนเสื้อแดงสามารถคุมสถานการณ์ได้ จนเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวไปสอบสวนที่ สน.นางเลิ้ง

ศอ.รส. อ้างพลทหารที่ นปช. จับได้เป็นพวกหนีทหาร ชี้โทษคนหนีทหารจะขังตามระยะเวลาที่หนีไป

ล่าสุดเมื่อเวลา 20.00 น. พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษก ศอ.รส. แถลงข่าวภายหลังการประชุม ศอ.รส. ว่า ในการประชุมครั้งนี้มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานการประชุม โดยที่ประชุมได้มีการพูดคุยกันอยู่ 3 ประเด็น คือ พลทหารสมชาติ แถวอุทุม ที่ถูกบรรดาการ์ด นปช. จับกุมได้ โดยภายในตัวพบการพกพาอาวุธปืนลมนั้น

พลทหารคนดังกล่าวสังกัดกองร้อยกองบังคับการกองทัพภาคที่ 1 ซึ่งพลทหารคนดังกล่าวเข้ามาประจำการเมื่อปี 2551 และจะปลดประจำการในปี 2553 แต่ขณะนี้อยู่ระหว่างการหนีทหาร ซึ่งโทษการหนีทหาร เมื่อพลทหารหนีไปแค่ไหนก็จะต้องจับขังตามวันเวลาที่หนีไป และจะต้องกลับมาประจำการจนครบ ทั้งนี้ต้องขอบคุณการ์ดนปช. ที่จับกุมพลทหารที่หนีประจำการไปได้ ทั้งนี้มีความผิดหนีทหาร และคดีอาญา ที่มีการพกอาวุธปืน ตามประกาศ พรบ.ความมั่นคง ทั้งนี้พลทหารคนดังกล่าวมีหลักฐานชัดเจนว่าขาดทหารไปนานแล้วตั้งแต่ก่อนการ ประกาศพรบ.ความมั่นคง โดยจะมีความผิดตามโทษถึง 2 เท่า